ตอนที่ 1268 ปล่อยวาง
กองทัพบกที่หนึ่งผนวกกับกำลังพลที่คอยติดตามได้เดินทัพอยู่บนผืนปฐพีของประเทศต้าฝานทั้งสิ้นสี่แสนกว่าคน
ม้าศึกมิอาจเดินทางข้ามภูเขาหิมะได้ ทำให้ทั้งกองทัพต่างก็ใช้วิธีเดินเท้าเหมือนกันทั้งหมด
อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหลายล้วนถูกแบกหามโดยกำลังพลทั้งสี่แสนคน ด้วยเหตุนี้กองทัพจึงเคลื่อนตัวได้มิเร็วเท่าใดนัก
กวนเสี่ยวซีเดินมาหยุดอยู่ข้างกายของเผิงยวี๋เยี่ยน เมื่อเห็นอดีตผู้บังคับบัญชาของตน เขาจึงยิ้มออกมาอย่างเริงร่า
“ท่านแม่ทัพ เจ้าคูฉานช่างมีความสามารถมากจริง ๆ เขารวมเอกราชของจักรวรรดิโมริยะได้สำเร็จจริง ๆ เสียด้วย แต่ข้าคิดว่าการตั้งนามใหม่ว่าประเทศต้าฝานมิค่อยเหมาะสมสักเท่าใดนัก”
เผิงยวี๋เยี่ยนหันไปมองกวนเสี่ยวซี “อย่าเรียกข้าว่าท่านแม่ทัพเชียว ตัวเจ้าต่างหากเล่าที่เป็นแม่ทัพ ! เหตุใดเจ้าถึงคิดว่านามนี้มิเหมาะสมเล่า ? ”
“ก็แคว้นฝานนั่นถูกฝ่าบาท… ไม่สิ ! บัดนี้เขามิใช่ฝ่าบาทอีกต่อไปแล้ว เช่นนั้นก็ขานนามเขาออกไปตรง ๆ เลยก็แล้วกัน ! ”
“ก็แคว้นฝานถูกลูกพี่กำจัดจนสูญสิ้นแล้วมิใช่หรือ ? ”
“ทว่าเจ้าคูฉานนี่ อ่า…เขามีแซ่ว่าฝานอันใดนะ ? ฝานฉาน อืม…นามนี้ฟังดูพิลึกพิลั่นดี ประเทศต้าฝาน เพิ่มคำว่าต้าลงไป คิดว่ามันจะช่วยเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้หรือเยี่ยงไรกัน ? แต่ก็ยังดีที่เจ้าหมอนั่นรู้ถึงความเก่งกาจของพวกเรา มันจึงมิเข้ามาหาเรื่องพวกเรา มิเช่นนั้น….”
“มิเช่นนั้นเจ้าจะทำอันใดหรือ ? ” เผิงยวี๋เยี่ยนเลิกคิ้วขึ้น
“ถ้าเขามาหาเรื่องพวกเราล่ะก็ ข้าจะสำแดงความร้ายกาจของพวกเราให้ดูเยี่ยงไรเล่า ! ”
เผิงหยูเยี่ยนถอนหายใจยาวออกมา “เจ้าเด็กนั่นก็น่าเห็นใจเช่นกัน แท้ที่จริงถ้ามิใช่เพราะหยูซูหรง ข้าคิดว่าเขาคงมิขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิหรอก เขาคงจะสร้างวัดไปทั่วผืนปฐพีแห่งนี้”
“เช่นนั้นหมายความว่าคูฉานคือบุตรของหยูซูหรงกับฝานอู๋เซียงเยี่ยงนั้นหรือ ? ” กวนเสี่ยวซีเอ่ยถามเสียงแผ่ว
เผิงยวี๋เยี่ยนมิได้ตอบคำถามของเขา เพราะนางก็มิรู้ข้อเท็จจริงเช่นกัน
“อย่าได้คาดเดาสุ่มสี่สุ่มห้าเชียว ! หยูซูหรงคอยให้ความช่วยเหลือเขาอยู่เบื้องหลัง ทว่าบัดนี้หยูซูหรงถูกฟู่เสี่ยวกวนจับตัวมาสำเร็จโทษโดยการให้ผ้าแพรขาว 3 ฉื่อ…”
เมื่อเอ่ยถึงตอนนี้ เผิงยวี๋เยี่ยนจึงหันไปมองกวนเสี่ยวซี
“แท้ที่จริงข้ารู้สึกกังวลใจมิน้อย ! ”
“กังวลเรื่องใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“กังวลว่าคูฉานจะมิยอมปล่อยวาง ! ”
“…เขาจะแก้แค้นให้หยูซูหรงหรือไม่ ? ”
“ข้าขอแนะนำให้เจ้าส่งสายลับออกไปให้มากกว่านี้ เพราะเยี่ยงไรเสียที่นี่ก็เป็นต่างบ้านต่างเมือง ประเทศทั้งประเทศยังเปลี่ยนเเปลงได้ นับประสาอันใดกับคน ๆ หนึ่ง”
กวนเสี่ยวซีขมวดคิ้วมุ่นพลางนิ่งเงียบไปชั่วครู่ “ประเทศนี้เพิ่งจะก่อตั้งได้เพียงมิกี่เดือนเท่านั้น แต่ละเมืองที่พวกเราเดินทัพผ่านมาก็ดูยากจนขัดสนกันทั้งนั้น หากคูฉานมิเอาใจใส่ราษฎร แต่เลือกที่จะแก้แค้นพวกเรา…เขาจะเอาอันใดมาสู้กับพวกเราได้กัน ? ”
“อย่าลืมสิว่าฟู่เสี่ยวกวนได้ส่งจดหมายมาหาเจ้า ในนั้นก็เขียนบอกอยู่ว่า…หยูซูหรงได้พาคนจากต้าเซี่ยออกไปกี่คน แม้พวกเขาจะมิมีปัญญาสร้างปืนไรเฟิลอัตโนมัติขึ้นมา แต่คาดว่าคงจะสร้างปืนเหมาเซ่อได้อย่างง่ายดาย”
“อีกอย่าง…สวมรองเท้าก็ย่อมดีกว่าเดินเท้าเปล่าอยู่แล้ว1 ! ”
“และเป็นเพราะที่นี่ยากจนข้นแค้น ข้าจึงกังวลว่าคูฉานจะยอมเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจน ! ”
“พวกเราก็เห็นมาตลอดทางแล้วว่าคูฉานเป็นที่เคารพในหมู่ราษฎร ! นั่นหมายความว่าเพียงแค่เขากวักมือเรียก ก็จะมีราษฎรจำนวนนับมิถ้วนวิ่งเข้าไปในสนามรบอย่างบ้าคลั่ง”
“พวกเราจะตกอยู่ในสงครามของราษฎร แม้ว่ากำลังการต่อสู้ของเราจะสูงกว่า ทว่าหากว่าคนของเราตายไปหนึ่งก็เท่ากับว่าพวกเราได้สูญเสียกำลังพลไปหนึ่งคน”
“เจ้าลองคิดดูสิ ! ถ้าหากความเสียหายของกองทัพมีมากจนเกินไป เช่นนั้นการสำรวจทางไกลครานี้ก็คงต้องถึงจุดจบตั้งแต่ยังเริ่มต้นใช่หรือไม่ ? ”
“แม้พวกเราจะตีประเทศต้าฝานให้ย่อยยับอีกครา ทว่าแผนการการสำรวจทางบกก็คงต้องจบสิ้นลงเพียงเท่านี้ เนื่องจากพวกเราจะสูญเสียกำลังพลไปมากโข แนวรบทางน้ำของฟู่เสี่ยวกวนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น… ถ้าหากเสี่ยวกวนเผชิญหน้ากับข้าศึกฝีมือฉกาจบนสนามรบในทวีปยุโรป เมื่อขาดกองทัพของพวกเราไปซึ่งเป็นกองกำลังที่สำคัญที่สุด เจ้าคิดว่าศึกครั้งใหญ่นี้จะลงเยี่ยงไร ? ! ”
เมื่อเผิงยวี๋เยี่ยนวิเคราะห์ให้ฟังเช่นนี้ กวนเสี่ยวซีก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันใด
“แม่ทัพเผิงวิเคราะห์ได้ยอดเยี่ยมนัก ข้าจะไปจัดการประเดี๋ยวนี้แหละ ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)