นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1273

สรุปบท ตอนที่ 1273 ศิษย์พี่: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

อ่านสรุป ตอนที่ 1273 ศิษย์พี่ จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1273 ศิษย์พี่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่​ 1273 ศิษย์​พี่​

ท่ามกลาง​มหาสมุทร​

บน​เรือ​ฉางอัน​

ฟู่เสีย​วกวน​จัดแจง​โต๊ะ​และ​เก้าอี้​ จากนั้น​ก็​ต้ม​ชาหนึ่ง​กา​บน​ชั้น​สามของ​เรือ​ขนาดใหญ่​ยักษ์​

บัดนี้​ขบวน​เรือ​ได้​ออกเดินทาง​จาก​ท่าเรือ​เซี่ยเย๋​เป็น​วัน​ที่สาม​แล้ว​ และ​บัดนี้​ขบวน​เรือ​ได้​เข้าสู่​เขต​ทะเล​ลึก​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​

คลื่น​ทะเล​มิได้​ใหญ่​เท่าใด​นัก​ เรือ​ฉางอัน​ยังคง​วิ่ง​ไป​ได้​อย่าง​มั่นคง​

ผู้​ที่นั่ง​ด้วย​กันที่​โต๊ะ​นั้น​มิใช้เหล่า​ภรรยา​ ทว่า​เป็น​ศิษย์​พี่​ทั้งสอง​

คน​หนึ่ง​คือ​ศิษย์​พี่​ซูเจวี๋ย​ผู้​ที่​มักจะ​สวม​หมวก​ทรง​สูงอยู่​ตลอดเวลา​ ส่วน​อีก​คน​คือ​ศิษย์​พี่​ซูม่อ​ผู้​สวม​ผ้าป่าน​สีเขียว​และ​ดู​มีกำลังวังชา​ล้นหลาม​

ศิษย์​พี่​สามซูโหร​ว​น่าจะ​ดูแล​ลูก​ ๆ ของ​นาง​อยู่​ใน​ห้อง​โดยสาร​ ส่วน​เยี่ยน​ถาวฮ​วา​มีอาการ​เมาเรือ​ นาง​จึงมิได้​ออกมา​นั่ง​ด้วยกัน​

นอกจากนี้​ยังมี​คน​จาก​สำนัก​เต๋า​อีก​สามคน​ พวกเขา​ก็​คือ​สวี่​หยุ​น​ชิง ชาย​อ้วน​ และ​ลู่​เอ๋อร์​ศิษย์​ของ​ซูซู

สวี่​หยุ​น​ชิงกับ​ชาย​อ้วน​แทบจะ​มิโผล่​หน้า​ออกมา​เลย​นอกจาก​เวลาอาหาร​ นั่น​เป็น​เพราะ​ชาย​อ้วน​มีอาการ​เมาเรือ​อย่าง​รุนแรง​ สวี่​หยุ​น​ชิงจึงต้อง​อยู่​ดูแล​เขา​ใน​ห้อง​โดยสาร​

ตอน​ซูเจวี๋ย​ออก​ท่อง​มหาสมุทร​ครา​แรก​ เขา​เอง​ก็​เมาเรือ​เช่นกัน​ ทว่า​ครา​นี้​กลับ​ปกติ​ดี​ทุกอย่าง​ ซึ่งตัว​เขา​เอง​ก็​พอใจ​เป็นอย่างมาก​ เพราะ​ครา​นี้​เขา​จะได้​มีโอกาส​ชมความงาม​ของ​ทะเล​ได้​อย่าง​เต็มที่​

ท้อง​นภา​สีคราม​ แสงสุริยา​ใน​ยามเช้า​กำลัง​พอดี​มิร้อน​จน​เกินไป​ ทุกอย่าง​งดงาม​ราวกับ​ภาพวาด​ ทำให้​ซูเจวี๋ย​ดื่มด่ำ​กับ​ทัศนียภาพ​เบื้องหน้า​นี้​อย่าง​มิรู้​จบ​

“หลาย​ปี​มานี้​ข้า​ได้​เดินทาง​ไป​หลากหลาย​แห่ง​ใน​ต้าเซี่ย”​

“ทิวทัศน์​บน​ฝั่งนั้น​แปร​เปลี่ยนไป​ตาม​ภูมิประเทศ​และ​ฤดูกาล​ ส่วนมาก​ก็​จะเผย​ความงาม​ให้​เห็น​ใน​รูปแบบ​ของ​ภูเขา​หรือ​แม่น้ำ​ มองดู​แล้ว​สวย​สด​งดงาม​มาก​เลย​ล่ะ​”

“ทว่า​ทะเล​นี่​สิ…มัน​กว้างใหญ่​สุดลูกหูลูกตา​ ดูเหมือน​จะน่าเบื่อ​ แต่​มัน​กลับ​เปลี่ยนแปลง​มิซ้ำใน​แต่ละวัน​ ให้​ความรู้สึก​สง่างามและ​ยิ่งใหญ่​อย่าง​แท้จริง​”

“มัน​ยิ่งใหญ่​ยิ่งกว่า​ทุ่งหญ้า​ที่​ชื่อ​เล่อ​ชวน​เสีย​อีก​ ข้า​มิเพียง​ได้​เปิดหูเปิดตา​สิ่งใหม่​ ๆ เท่านั้น​ ทว่า​ทะเล​ยัง​ทำให้​ข้า​รู้สึก​ตื่นเต้น​ร้อนรน​และ​ปลดปล่อย​หัวใจ​ของ​ตนเอง​ให้​เป็นอิสระ​อีกด้วย​ ! ”

ริมฝีปาก​ของ​ซูม่อ​เผ​ยอขึ้น​ เขา​เหลือบ​ไป​มอง​ศิษย์​พี่ใหญ่​เเล้วเอ่ย​ “ศิษย์​พี่​วางท่า​เป็น​บัณฑิต​อีกแล้ว​นะ​ ! ”

ศิษย์​พี่ใหญ่​ยก​ถ้วย​ชาขึ้น​มาพลาง​ส่าย​ศีรษะ​ แล้ว​เอ่ย​อย่าง​เอาจริงเอาจัง​ว่า​ “ศิษย์​พี่​มิได้​วางท่า​เป็น​บัณฑิต​ ศิษย์​น้อง​แปด​ เจ้ามิรับรู้​ถึงความยิ่งใหญ่​ของ​ทะเล​เลย​หรือ​ ? ใต้​หล้า​อัน​กว้างใหญ่​ไพศาล​นี้​ มนุษย์​ตัวเล็ก​จ้อย​เท่านั้น​”

“เมื่อ​ทะเล​พิโรธ​ขึ้น​มาเมื่อใด​ มัน​จะสำแดง​คลื่น​ใหญ่​ยักษ์​ปาน​วัน​สิ้น​โลก​มาเยือน​ ยาม​ที่​มัน​เงียบสงบ​ก็​งดงาม​ราวกับ​บุตรี​ใน​ตระกูล​ใหญ่​ เจ้าลอง​ลิ้มรส​… จงลิ้มรส​ทิวทัศน์​เหล่านี้​ให้​ดี​ ! ”

ซูม่อ​ผงะ​ หลาย​ปี​มานี้​ศิษย์​พี่ใหญ่​ได้​เดินทาง​ไป​ทั่วทุกสารทิศ​เพื่อ​เผยแพร่​ลัทธิ​เต๋า​ เดิมที​คาด​ว่า​เขา​คงจะ​เหน็ดเหนื่อย​ ทว่า​เมื่อ​ได้​เห็น​เช่นนี้​…ถึงได้​รู้​ว่า​ตน​คิดมาก​ไป​เอง​ ดูเหมือนว่า​เขา​จะดื่มด่ำ​กับ​การ​ชมทิวทัศน์​ ดื่มด่ำ​เกิน​กว่า​มนุษย์​ธรรมดา​จะเข้าถึง​

ฟู่เสี่ย​วกวน​หัวเราะ​ร่า​ แล้ว​แสดง​ความ​เห็นด้วย​กับ​ซูเจวี๋ย​

“มหาสมุทร​กิน​พื้นที่​ใน​ใต้​หล้า​เจ็ด​ใน​สิบ​ส่วน​ของ​พื้นที่​ทั้งหมด​ ภาค​พื้นทวีป​ที่​พวกเรา​อยู่อาศัย​มีเพียงแค่​สามใน​สิบ​ส่วน​เท่านั้น​”

“ดังนั้น​ใน​มหาสมุทร​จึงมีทรัพยากร​มากกว่า​บน​ภาคพื้น​หลาย​เท่าตัว​ เพียงแต่​ความสามารถ​ทางวิทยาศาสตร์​ของ​พวกเรา​ใน​วันนี้​ยัง​ไป​มิถึงจุด​นั้น​”

“ประโยชน์​ที่​พวกเรา​ได้​ใช้สอย​จาก​ทะเล​นั้น​ช่างน้อย​นิด​ ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​…ประโยชน์​สูงสุด​ที่​พวกเรา​ได้รับ​จาก​ทะ​เลก็คง​จะเป็น​เส้นทางเดินเรือ​เส้น​นี้แหละ​”

ฟู่เสี่ยว​มิได้​เอ่ยถึง​การพัฒนา​อุตสาหกรรม​ทาง​ประมง​หรือ​การ​ขุดเจาะ​ปิโตรเลียม​และ​อื่น​ ๆ เขา​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​ไป​ทั้งอย่างนั้น​

“บัดนี้​สำนัก​เต๋า​มีทั้งหมด​กี่​แห่ง​แล้ว​หรือ​ ? ”

“9 แห่ง​ ! ”

ลมทะเล​พัดผ่าน​จน​ทำให้​หมวก​ของ​ซูเจวี๋ย​เอียง​เล็กน้อย​ เขา​จัด​หมวก​ให้​ตรง​แล้ว​เอ่ย​ต่อว่า​ “ทุกวันนี้​ศิษย์​น้อง​รอง​เกา​หยวน​หยวน​ดูแล​สำนัก​เต๋า​ที่​ชิงชาน​ ส่วน​ศิษย์​น้อง​สี่ซูปิง​ปิง​ดูแล​สำนัก​เต๋า​ที่​หนาน​ซาน​ ศิษย์​น้อง​ห้า​ซูเตี่ย​น​เตี่ย​น​ดูแล​สำนัก​เต๋า​ที่​ฉางจิน​ ศิษย์​น้อง​เจ็ด​ซูหยาง​หยาง​ดูแล​สำนัก​เต๋า​ที่​เมือง​กวน​หยุ​น”​

“ปัจจุบันนี้​สำนัก​เต๋า​ทั้ง​สี่แห่ง​นี้​มีขนาดใหญ่​ที่สุด​ นอกเหนือจากนี้​ก็​ยังมี​อีก​สี่เเห่งที่​ท่าน​อาจารย์​อา​รอง​ได้​มอบหมาย​ให้​ศิษย์​รุ่น​ที่สาม​เป็น​คน​ดูแล​ หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็​คือ​สำนัก​เต๋า​ใน​เมือง​ฉางอัน​ซึ่งบัดนี้​อยู่​ระหว่าง​การ​ก่อสร้าง​”

ซูเจวี๋ย​โน้มตัว​เข้าไป​พร้อมกับ​เอ่ย​ถามว่า​ “ท่าน​อาจารย์​อา​รอง​บอ​กว่า​พวกเรา​จะเดินทาง​ไป​เผยแพร่​ลัทธิ​เต๋า​บน​ทวีป​ยุ​โร​ป.​..ลัทธิ​เต๋า​ของ​เรา​จะแผ่ขยาย​ออก​นอก​ต้าเซี่ย​แล้ว​ ศิษย์​พี่​รู้สึก​ตื่นเต้น​เสีย​เหลือเกิน​ ศิษย์​น้อง​เล็ก​ได้​เตรียม​เงิน​สำหรับ​สร้าง​สำนัก​เต๋า​ที่​ต่างแดน​ไว้​แล้ว​หรือยัง​ ? ”

ซูเจวี๋ย​และ​ซูม่อ​ต่าง​ก็​ทำ​หน้า​งุนงง​

“ก็​เดินทาง​จาก​โลก​นี้​ไป​ยังอีก​โลก​หนึ่ง​เยี่ยง​ไร​เล่า​ ! ”

“แล้​วจะ​กลับมา​ได้​หรือไม่​ ? ”

ฟู่เสี่ย​วกวน​หวน​คิดถึง​ความลับ​ของ​หอ​เทียน​จีที่​ครา​หนึ่ง​จี้หยุ​น​กุย​และ​สวี่​หยุ​น​ชิงได้​บอก​กับ​เขา​ พันปี​ก่อนหน้านี้​มิรู้​ว่า​มีกี่​คน​กัน​แน่​ที่​เดินทาง​มายัง​โลก​ใบ​นี้​

พวกเขา​ได้​สร้าง​หอ​เทียน​จีขึ้น​มา

หนึ่ง​พัน​สามร้อย​ปี​ก่อนหน้านี้​ มีบุตรชาย​ของ​ผู้นำ​ชน​เผ่า​ห​ยู​หญิง​ได้​เข้าไป​ข้างใน​หอ​เทียน​จี

หลังจากที่​เขา​เดิน​ออก​มาจาก​หอ​เทียน​จี เขา​ได้​ใช้เวลา​สิบ​ปี​ใน​การ​ลงมือ​ปราบปราม​ทั่ว​สารทิศ​ พิชิต​ชน​เผ่า​น้อย​ใหญ่​ต่าง ๆ​ และ​สถาปนา​แคว้น​แรก​ขึ้น​มา ซึ่งนั่น​ก็​คือ​…จักรวรรดิ​ต้าห​ลี่​นั่นเอง​ !

หลังจากนั้น​ก็​เริ่ม​มีตัวอักษร​เข้ามา​ อารยธรรม​และ​สังคม​ของ​โลก​ใบ​นี้​ได้​ก้าว​กระโดด​จาก​ยุค​ดึกดำบรรพ์​มาเป็น​ยุค​ทาส​ การพัฒนา​ที่​เป็นไป​อย่าง​รวดเร็ว​นี้​ ย่อม​เป็น​เพราะ​คน​ที่​มีอารยธรรม​ก้าวหน้า​คอย​ผลักดัน​อยู่​เบื้องหลัง​เป็นแน่​

แม้แต่​ลัทธิ​เต๋า​ยัง​ถือกำเนิด​ขึ้น​หลัง​หอ​เทียน​จีเสีย​อีก​

เหตุผล​ที่​สำนัก​เต๋า​ยัง​คงอยู่​ คือ​ปกป้อง​และ​สังหาร​ !

ฟู่เสี่ยว​ชวนเชื่อ​ว่า​เมื่อ​พัน​ปีก่อน​มีคน​เดิน​ทางข้าม​กาลเวลา​มา พวกเขา​คงจะ​ค้นพบ​วิธี​อัน​ใด​บางอย่าง​ หรือ​อาจจะ​เชื่อม​กับ​โลก​ภายนอก​เอาไว้​ที่​หอ​เทียน​จีชั้น​ที่​สิบ​แปด​

“ข้า​ก็​มิรู้​ว่า​ถ้าไป​แล้​วจะ​กลับมา​ได้​หรือไม่​…ดังนั้น​ข้า​จึงต้อง​จัดการ​ทุกอย่าง​ให้​เรียบร้อย​เสีย​ก่อน​ถึงจะกล้า​ไป​”

“เจ้าละทิ้ง​ทุกสิ่ง​ที่​เจ้ามีใน​ตอนนี้​ได้​หรือ​ ? ” ซูเจวี๋ย​เอ่ย​ถาม

ทุกสิ่ง​ที่ว่า​…แท้ที่จริง​หมายถึง​คนใน​ครอบครัว​ของ​ฟู่เสี่ย​วกวน​

ฟู่เสี่ย​วกวน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ท้อง​นภา​ ท้ายที่สุด​แล้ว​เขา​ก็​มิได้​ตอบคำถาม​นั้น​ออก​ไป​ เพราะ​เขา​ยัง​มิได้​ตระเตรียม​คำตอบ​ของ​คำถาม​นี้​เอาไว้​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)