นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1277

ตอนที่​ 1277 ทิ่มแทงใจ​

“ท่าน​ชางระวัง​วาจา​ด้วย​ ! ”

“เหตุใด​จะเอ่ย​มิได้​เล่า​ ? พวก​เจ้าคง​มิได้​อ่าน​กฎหมายรัฐธรรมนูญ​ที่​ฝ่าบาท​ทรง​ประกาศใช้​เมื่อ​ครา​ที่​พระองค์​ยัง​ครอง​บัลลังก์​อยู่​สินะ​ ? ใน​นั้น​ได้​บัญญัติ​เอาไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ราษฎร​มีเสรีภาพ​ใน​การ​เอ่ย​”

“ประเด็น​มัน​อยู่​ที่​คำ​ว่า​เสรีภาพ​นี่แหละ​ เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​จักรพรรดิ​พระองค์​ใหม่​จะยกเลิก​กฎ​ที่​จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ทรง​กำหนด​เอาไว้​ก่อนหน้านี้​ ? ”

“ข้า​คิด​ว่าที่​ต้าเซี่ย​เจริญรุ่งเรือง​ได้​อย่าง​ทุกวันนี้​ก็​เพราะ​เสรีภาพ​นี้แหละ​ ! พวก​เจ้าลอง​คิด​ดูเถิด​ ถ้าหาก​ไร้​ซึ่งเสรีภาพ​ พวกเรา​ก็​คงจะ​ถูก​จำกัด​ให้​อยู่​แค่​พื้นที่​ของ​ตนเอง​เหมือน​สมัยก่อน​ ธุรกิจ​ที่​ทำ​ไร้​หนทาง​ขยับขยาย​ออก​ไป​ข้างนอก​ ! ”

“ดังนั้น​แต่ก่อน​คน​ที่​เป็น​พ่อค้า​รายใหญ่​ล้วน​เป็น​คนใน​ราชสำนัก​ เพราะ​พวกเขา​สามารถ​ขยาย​ธุรกิจ​ไป​ทั่วประเทศ​ได้​ ทว่า​นับตั้งแต่​ที่​จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​ พ่อค้า​สามัญชน​คนธรรมดา​ก็​เริ่ม​ผงาด​ขึ้น​มาเป็นใหญ่​ ส่วน​พวก​พ่อค้า​ขุนนาง​เริ่ม​ตกต่ำ​ลง​เรื่อย ๆ​ ”

“เป็น​เพราะ​เหตุ​อัน​ใด​กัน​ ? เพราะ​พ่อค้า​ขุนนาง​เหล่านั้น​ได้​ศูนย์​เสีย​ฐาน​ลูกค้า​ใน​พื้นที่​ของ​ตน​ เมื่อ​ต้อง​แข่งขัน​บน​เวที​เดียวกัน​ก็​จำต้อง​พ่ายแพ้​อย่าง​น่า​อดสู​ ! ”

ชาย​วัยกลางคน​แซ่ชางผู้​นี้​ดู​เป็น​คน​มีการศึกษา​ สิ่งที่​เขา​เอ่ย​มานั้น​มีเหตุมีผล​และ​มีหลักฐาน​อ้างอิง​ พ่อค้า​ทั้ง​วง​สนทนา​จึงพยักหน้า​เห็นด้วย​กับ​แนวคิด​ของ​เขา​

“ท่าน​ชาง… จะว่า​ไป​แล้ว​ตระกูล​ของ​เจ้าเดิมที​ก็​เคย​เป็น​ขุนนาง​มาก่อน​ เหตุใด​ทุกวันนี้​ถึงได้​เปลี่ยน​มาค้าขาย​ได้​เล่า​ ? ”

“จะว่า​ไป​แล้วก็​น่า​ละอายใจ​มาก​ยิ่งนัก​ ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​ถูก​ปลด​ออกจาก​ตำแหน่ง​หลังจาก​สิ้นสุด​ราชวงศ์​ห​ยู​ ส่วนตัว​ข้า​นั้น​…ตอนนั้น​เข้า​รับราชการ​ใน​ราชสำนัก​ของ​ราชวงศ์​ห​ยู​เช่นกัน​ ตอนนั้น​ข้า​ยัง​ปรับตัว​มิทัน​ ข้า​หลงผิด​คิด​ว่า​ใน​ฐานะ​อดีต​ขุนนาง​ของ​ราชวงศ์​ห​ยู​ การ​สร้าง​ผลประโยชน์​ให้​แก่​ต้าเซี่ย​ผู้​ที่​กำจัด​ราชวงศ์​ห​ยู​จน​สิ้น​ซาก.​..มัน​ช่างเจ็บช้ำ​หัว​ใจเสีย​จริง​”

“แท้ที่จริง​ท่าน​พ่อ​ก็​เคย​โน้มน้าว​ข้า​เช่นกัน​ เพราะ​ท่าน​พ่อ​กับ​จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​เคย​มีความสัมพันธ์​อัน​ดีงาม​ต่อกัน​มาก่อน​ ท่าน​พ่อ​เข้าใจ​จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ดี​ ทว่า​ข้า​กลับ​แค้น​ฝังใจมิลืมเลือน​… แต่​พอ​ย้อน​กลับมา​คิด​ใน​ทุกวันนี้​ ข้า​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​คิดผิด​ไป​แล้ว​จริง ๆ​ จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ทรง​พลิก​ต้าเซี่ย​จาก​หน้า​มือ​มาเป็น​หลัง​มือ​ภายใน​ระยะเวลา​สั้น​ ๆ ซึ่งมิมีจักรพรรดิ​องค์​ใด​ทำได้​ตลอด​ระยะเวลา​พันปี​ที่ผ่านมา​ ! ”

“ข้า​กล้า​เอ่ย​ได้​อย่าง​เต็มปาก​เลย​ว่า​…มิมีผู้ใด​เทียบเคียง​กับ​พระองค์​ได้​ทั้ง​ใน​อดีต​และ​ปัจจุบัน​ ! แต่​ข้า​ก็ได้​พลาดโอกาส​ที่จะ​ทำ​เพื่อ​ต้าเซี่ย​ไป​เสียแล้ว​ ดังนั้น​ข้า​ก็​เลย​ผัน​ตัว​มาทำการค้า​เยี่ยง​ไร​เล่า​ จะว่า​ไป​แล้ว​ช่วงนี้​ข้า​ก็​โกย​กำไร​จาก​ความเจริญรุ่งเรือง​ของ​ต้าเซี่ย​ได้​มาก​โข​ ข้า​จึงคิด​ขึ้น​มาได้​ว่า​เป็น​เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​ ดังนั้น​ข้า​ย่อม​หวัง​ว่า​เมื่อ​เปลี่ยน​มาอยู่​ภายใต้​การบริหาร​ของ​จักรพรรดิ​พระองค์​ใหม่​…ข้า​มิหวัง​ให้​มัน​ดีขึ้น​กว่า​เดิม​ เพียง​หวัง​ให้​รักษา​ความเป็นอยู่​ใน​ทุกวันนี้​ต่อไป​เรื่อย ๆ​ เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ยุคทอง​ของ​ต้าเซี่ย​ก็​จะดำรง​ต่อไป​ได้​ ชีวิต​และ​ความเป็นอยู่​ของ​ราษฎร​ก็​จะดีขึ้น​เรื่อย ๆ​ ด้วย​เช่นกัน​”

อู๋​เทียน​ซื่อ​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​เพื่อ​สงบจิตสงบใจ​ของ​ตนเอง​ จากนั้น​เสี่ยว​เอ้อร์​ก็ได้​นำ​อาหาร​กลิ่น​หอมฉุย​ออกมา​จัดเรียง​จน​เต็มโต๊ะ​ ทว่า​บัดนี้​อู๋​เทียน​ซื่อ​ไร้​ซึ่งความอยาก​อาหาร​

พ่อค้า​พวก​นั้น​ยัง​คำนึงถึง​เสด็จ​พ่อ​ !

เจิ้น​อ่อนแอ​ถึงเพียงนั้น​เชียว​หรือ​ ?

มิมีผู้ใด​เทียบเคียง​พระองค์​ได้​ทั้ง​ใน​อดีต​และ​ปัจจุบัน​… มิว่า​เจิ้น​จะทำ​เยี่ยง​ไร​ก็​มิอาจ​เอาชนะ​เสด็จ​พ่อ​ได้​สินะ​ !

ใน​เมื่อ​อยาก​จะรักษา​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​เป็นอยู่​ใน​ทุกวันนี้​ไป​เรื่อย ๆ​ เช่นนั้น​เจิ้น​ก็​จะมิทำ​อัน​ใด​ทั้งสิ้น​ แบบนี้​ก็​จะเป็น​ดั่ง​ที่​พวกเขา​หวัง​แล้ว​ใช่หรือไม่​ ?

อู๋​เทียน​ซื่อ​ใน​วัยเยาว์​ซึ่งถือเป็น​ช่วงชีวิต​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ ขาด​ผู้ชี้นำ​ทำให้​เขา​เดิน​ออก​มาจาก​วงจร​ของ​ปัญหา​ เขา​เลือก​ที่จะ​แข่ง​กับ​ผู้​เป็น​บิดา​โดย​การ​สร้าง​ปัญหา​ !

เขา​หลง​เดินทาง​ผิด​ !

เขา​เลือก​ที่จะ​แข่งขัน​กับ​บิดา​ใน​ทาง​ที่​ผิด​ !

“จ่าย​เงิน​ แล้วไป​กัน​เถิด​ ! ”

“นาย​ท่าน​ ทานอาหาร​สักหน่อย​เถิด​” หลิว​จิ่น​ผงะ​

“ข้า​มิมีอารมณ์​กิน​ มิต้อง​เอ่ย​อัน​ใด​ให้​มากความ​ รีบ​ไป​จัดการ​ประเดี๋ยวนี้​ ! ”

อู๋​เทียน​ซื่อ​ลุก​พรวด​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​จาก​หอ​ซื่อ​ฟางโดยที่​มิแตะ​อาหาร​เลย​สักนิด​

เขา​ยืน​อยู่​บริเวณ​หัวสะพาน​ชีเต้า​พลาง​ก้มหน้า​มอง​สายน้ำ​ที่​ค่อย ๆ​ ไหล​เอื่อย​ภายใต้​สะพาน​ ทันใดนั้น​อู๋​เทียน​ซื่อ​ก็​รู้สึก​ว่างเปล่า​และ​เลื่อนลอย​เกิน​ต้านทาน​

เมื่อ​ทอดสายตา​มองออก​ไป​เห็น​ต้น​หลิว​แตกหน่อ​เขียวขจี​ตลอด​สอง​ข้างทาง​ของ​เเม่น้ำ ผู้คน​เดิน​พลุ่ก​พ​ล่น​มิขาด​สาย​บน​สะพาน​ ใบหน้า​ของ​พวกเขา​เปี่ยมล้น​ไป​ด้วย​ความสุข​ ทว่า​อู๋​เทียน​ซื่อ​กลับ​รู้สึก​ว่า​มัน​ช่างเป็น​ภาพ​ที่​บาดตา​และ​บาด​ใจเสีย​เหลือเกิน​

ใช่สิ ! แม้แต่​เมือง​ที่​ใหญ่โต​แห่ง​นี้​ก็​เป็น​ฝีมือ​การ​ออกแบบ​ของ​เสด็จ​พ่อ​ด้วย​เช่นกัน​ !

ตอนนั้น​พระองค์​ทรง​วางผังเมือง​นี้​ได้​เยี่ยง​ไร​กัน​นะ​ ?

เมือง​ฉางอัน​ขนาดใหญ่​มีโรงงาน​ทั้งสิ้น​ 9 แห่ง​ มีถนน​ 36 สาย​ มีตรอก​ทั้งสิ้น​ 72 ตรอก​ มีตลาด​สำหรับ​แลกเปลี่ยน​และ​ค้าขาย​ทั่ว​ทั้ง​สี่ทิศ​ของ​เมือง​ หรือ​แม้แต่​สถานีรถไฟ​ก็​มีถึง 2 แห่ง​ด้วยกัน​ ซึ่งขนาบ​ทั้ง​ด้าน​ตะวันออก​และ​ตะวันตก​

ถ้าหากว่า​ตนเอง​ต้อง​เป็น​คน​ที่​วางผังเมือง​เอง​…อู๋​เทียน​ซื่อ​รู้ตัว​ในทันที​ว่า​ตนเอง​มิสามารถ​ทำได้​ !

“หลิว​จิ่น”​

“ขอรับ​ ! ” หลิว​จิ่น​โค้ง​ตัว​อยู่​ด้านหลัง​ของ​อู๋​เทียน​ซื่อ​ เขา​พอ​จะเข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​จักรพรรดิ​พระองค์​นี้​ แต่​เขา​มิรู้​ว่า​ควรจะ​ปลอบ​พระองค์​เยี่ยง​ไร​ดี​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)