ตอนที่ 1290 เจิ้นมิเห็นด้วย !
เยี่ยนซีเหวินยากที่จะข่มตาหลับในราตรีนี้
ฉินโม่เหวินและหนิงหยู่ชุนก็มิอาจข่มตานอนได้เช่นกัน หรือแม้แต่หนานกงอี้หยู่ที่เกษียณไปแล้วก็ยังรู้สึกว่าจักรพรรดิพระองค์ใหม่ดูผิดหูผิดตาไป
ทว่าเยี่ยนซีเหวินคิดถึงเรื่องนี้มากกว่าผู้ใด เพราะเขาคือคนที่คบหากับฟู่เสี่ยวกวนนานที่สุด และเป็นคนที่เข้าใจในคำเอ่ยของฟู่เสี่ยวกวนได้ถ่องแท้ที่สุด
เขาบอกว่ากฎหมายถือเป็นกฎพื้นฐาน !
หน้าที่ของมันคือรักษาศีลธรรมขั้นพื้นฐานเอาไว้ !
มิว่าผู้ใดที่กระทำผิดกฎหมายล้วนแต่ต้องได้รับการลงโทษทั้งสิ้น เช่นนี้…ความยุติธรรมถึงจะบังเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ !
หลังจากฟู่เสี่ยวขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิ เขาได้มีการเสนอให้ทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และสิ่งนี้ถูกบรรจุเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูแห่งต้าเซี่ย !
ในกฎหมายรัฐธรรมนูญมีการระบุอย่างชัดเจนว่าจักรพรรดิมิอาจอยู่เหนือกฎหมายได้ !
แม้จะเป็นจักรพรรดิก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเช่นเดียวกัน !
นี่เป็นเรื่องที่มิเคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ เพราะแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นล้วนมีกฎหมายเป็นของตนเอง ตามหลักแล้วมีไว้บังคับราษฎรและขุนนางที่อยู่เบื้องล่างเท่านั้น
มิว่ากฎหมายใดก็มิอาจบังคับและจำกัดพระราชอำนาจของฝ่าบาทได้เพราะฝ่าบาทมักจะอยู่เหนือกฎหมายเสมอ
เขาบอกว่าโครงสร้างกฎหมายเช่นนั้นเป็นตัวกำหนดให้คนที่กุมพระราชอำนาจสามารถเปลี่ยนแปลงกฎหมายได้ตามอำเภอใจและสามารถปฏิเสธการพิพากษาได้ทุกเมื่อ เขาจะเข้ามาข้องเกี่ยวกับการดำเนินการทางกฎหมาย เปลี่ยนแปลงกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้วเดิมทีให้กลายเป็นเศษขยะอันไร้ค่า
ทว่าในตอนนี้เรื่องที่ฟู่เสี่ยวกวนเป็นกังวลเป็นอย่างยิ่งได้เกิดขึ้นในรัชสมัยของอู๋เทียนซื่อ !
เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับอู๋เทียนซื่อก็เป็นได้
เพราะเยี่ยงไรเสียเขาก็เป็นถึงจักรพรรดิ และการตัดสินโทษในปัจจุบัน จักรพรรดิมิสามารถเอ่ยคำขาดได้ดั่งอดีตแล้ว !
หากเป็นแต่ก่อนนี่ย่อมมิผิด
ทว่าในตอนนี้…อู๋เทียนซื่อกำลังทำผิดอย่างมหันต์ !
เยี่ยนซีเหวินฉุกคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าตั้งแต่อู๋เทียนซื่อขึ้นครองบัลลังก์ เขามิเคยเรียกท่าป๋าวั่งเข้าเฝ้ามาก่อน แทบจะเป็นไปมิได้ที่พวกเขาทั้งสองคนจะรวมตัวกัน หรือว่า…ท่าป๋าวั่งจะส่งจดหมายไปขอร้องพระองค์
จริงสิ ! อยู่ ๆ พระองค์ก็มีเงินเพิ่มขึ้นถึงห้าสิบล้านตำลึง…
เยี่ยนซีเหวินมิกล้าคาดเดาต่อไป ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง ๆ ย่อมมิใช่เรื่องดี เพราะการกระทำของฝ่าบาทเป็นการละเมิดกฎหมายอาญาอย่างร้ายแรง !
ซึ่งนั่นก็คือการรับสินบนนั่นเอง !
เป็นถึงจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยแต่กลับรับสินบน... หากฟู่เสี่ยวกวนรู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็ เขาจะคิดเยี่ยงไรกันนะ ?
ซึ่งแน่นอนว่านี่คือการคาดเดาเยี่ยนซีเหวินคิดว่าต้องเข้าพบจี้หยุนกุยหัวหน้าหอเทียนจีสักครา เพื่อสืบหาที่มาของเงินห้าสิบล้านตำลึงซึ่งมีที่มามิชัดเจนนัก
……
……
วันถัดมา เยี่ยนซีเหวินได้นำโครงร่างถนนที่จัดทำโดยกรมคลังมายังห้องทรงพระอักษร
อู๋เทียนซื่อเองก็ประทับอยู่ที่ห้องทรงพระอักษรในขณะนี้ เขากำลังโน้มตัวลงอ่านสมุดพับ
หลิวจิ่นที่ยืนอยู่ข้างกายของเขาโค้งตัวลงมาเอ่ยเสียงเบาว่า “ฝ่าบาท เสนาบดีเยี่ยนประสงค์ที่จะเข้าพบพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
“อือ…เจ้าบอกให้เสนาบดีเยี่ยนนั่งรอข้าสักครู่ ข้ากำลังตรวจดูว่าตำหนักแห่งนี้ยังมีจุดที่ขาดตกบกพร่องอีกหรือไม่”
เยี่ยนซีเหวินนั่งอยู่หน้าโต๊ะชาแล้วมองอู๋เทียนซื่อที่กำลังขีด ๆ วาด ๆ อยู่บนโต๊ะ เขารออยู่ครึ่งชั่วยามกว่าอู๋เทียนซื่อจะวางพู่กันลง สีหน้าของเขาดูดีอกดีใจยิ่งนัก
“ครานี้มันสมบูรณ์แบบเเล้ว พระราชตำหนักจะต้องมีของที่น่าสนใจอยู่ในนั้น ข้าจะเพิ่มคอกสัตว์ขึ้นมาอีกสักแห่ง อืม…เจ้าจงนำโครงร่างนี้ไปให้กรมโยธาธิการ ให้พวกเขาก่อสร้างตามโครงร่างนี้”
“เมื่อสร้างเสร็จ จงส่งคนไปตามหาสัตว์ดุร้ายทั่วทั้งต้าเซี่ยแล้วนำมาขังไว้ที่คอกแห่งนี้ เมื่อเจิ้นมีเวลาว่างเจิ้นจะได้ฝึกยิงธนูเยี่ยงไรเล่า ! ”
เขายื่นสมุดพับให้หลิวจิ่น หลิวจิ่นโค้งคำนับแล้วก้าวถอยหลังออกไป เยี่ยนซีเหวินจึงเดินมานั่งลงเบื้องหน้าของเยี่ยนซีเหวิน
“เสนาบดีเยี่ยน มีเรื่องอันใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“กระหม่อมมีสองเรื่องที่อยากจะทูลถามฝ่าบาท”
อู๋เทียนซื่อต้มชาพลางเอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านเยี่ยนเอ่ยมาเถิด”
“เรื่องแรกคือโครงร่างถนนของเขตเยวี่ยซานทั้งสองถูกออกแบบเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อฝ่าบาททรงประทับตราเสร็จแล้ว กระหม่อมจะนำไปให้คณะรัฐมนตรีลงมติเป็นลำดับต่อไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)