นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1291

สายฝน​ยาม​วสันตฤดู​ตก​ติดต่อกัน​เป็นเวลา​สิบ​กว่า​วัน​

ข่าว​การทะเลาะ​กัน​ระหว่าง​ฝ่าบาท​และ​เสนาบดี​เยี่ยน​ใน​ห้อง​ทรง​พระ​อักษร​มิอาจ​ปกปิด​ได้​มิดชิด​ แม้ว่า​เรื่อง​นี้​มิถูก​นำ​ไป​เอ่ย​ปากต่อปาก​ใน​หมู่​ราษฎร​ ทว่า​ก็​เป็นที่​ทราบ​โดย​ทั่วกัน​สำหรับ​ขุน​นางใน​ท้องพระโรง​

นี่​เป็น​สัญญาณที่​มิดี​เท่าใด​นัก​

โครงร่าง​ถนน​ของ​เขต​เยวี่ย​ซาน​ที่​กรมโยธาธิการ​และ​กรม​คลัง​ได้​ทุ่มเท​ออกเเบบนั้น​ จำต้อง​พับ​เก็บ​ไป​ก่อน​เนื่องจาก​ฝ่าบาท​มิประทับตรา​เห็นชอบ​ แม้ใน​ภายหลัง​ฉิน​โม่เห​วิน​และ​หนิง​ห​ยู่​ชุน​จะนำ​แผนการ​นี้​ไป​เสนอ​ต่อ​ฝ่าบาท​อีก​ครา​ ทว่า​องค์​จักรพรรดิ​ก็​ยัง​แสดง​ความ​ต่อต้าน​ออกมา​ให้​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​

แต่​ถึงกระนั้น​พระองค์​ก็ได้​เสนอ​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​มา

ถ้าหาก​กรมราชทัณฑ์​ทำตาม​ข้อเรียกร้อง​เมื่อใด​ เขา​จะประทับตรา​เห็นชอบ​ใน​แผนการ​นี้​ทันที​

แม้จะมีการหารือ​ราชกิจ​ระหว่าง​เสนาบดี​ทั้ง​สามฝ่าย​และ​มีการ​ลงมติ​ของ​คณะรัฐมนตรี​ก็​จริง​ ทว่า​มัน​ก็​มีข้อจำกัด​อยู่​ หาก​เป็น​นโยบาย​ของ​ประเทศ​ มัน​จำต้อง​ได้รับ​ความ​เห็นชอบ​จาก​องค์​จักรพรรดิ​ด้วย​เช่นกัน​

นี่​คือ​สามขั้ว​อำนาจ​ที่​ฟู่เสี่ย​วกวน​เป็น​ผู้​กำหนดกฎเกณฑ์​ สิ่งแรก​คือ​พระ​ราช​อำนาจ​แห่ง​องค์​จักรพรรดิ​ อำนาจ​ใน​การ​ออ​กว่า​ราชกิจ​และ​อำนาจ​ใน​การ​ตรวจสอบ​ ซึ่งทั้ง​สามฝ่าย​นี้​มีเส้น​แบ่ง​แยกกัน​อย่าง​ชัดเจน​

จัว​อี้​สิงเอง​ก็​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​เป็น​อย่าง​ดี​

ใน​สำนัก​คณะรัฐมนตรี​นั่นเอง​ หนาน​กง​อี้​ห​ยู่​และ​เมิ่งฉางผิง​กำลัง​นั่ง​หารือ​อยู่​ต่อหน้า​จัว​อี้​สิง

“เรื่อง​นี้​…คง​ต้อง​ขอให้​เจ้าออกโรง​แล้ว​ล่ะ​”

จัว​อี้​สิงส่าย​ศีรษะ​ “ข้า​เคย​เข้าเฝ้า​ฝ่าบาท​มาก่อน​ หรือว่า​…พวกเรา​จะถอย​สัก​ก้าว​ดี​ ? ”

การถอย​สัก​ก้าว​หมายถึง​การตอบรับ​ข้อเสนอ​ที่​ให้​ปล่อยตัว​ท่า​ป๋า​ฉางฮวน​ออกมา​

เมิ่งฉางผิง​ส่าย​ศีรษะ​มิเห็นด้วย​ “นี่​มิถูกต้อง​ ! หาก​ยอมให้​มีกรณี​เกิดขึ้น​เมื่อใด​ ต่อไป​กฎหมายรัฐธรรมนูญ​คง​ไร้​ซึ่งความหมาย​ ! ”

“ตอนที่​พวกเรา​ยัง​อาศัย​อยู่​ที่​เมือง​กวน​หยุ​น​ จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ทรง​เพียรพยายาม​อย่าง​หนัก​ที่จะ​นำ​กฎหมายรัฐธรรมนูญ​มาบังคับใช้​ เพื่อให้​ราษฎร​ได้​เข้าใจ​ใน​หลักกฎหมาย​และ​สิทธิ​ของ​พวกเขา​เอง​”

“อีก​อย่าง​ทุกวันนี้​มหาวิทยาลัย​ต้าเซี่ย​ต่าง​ก็​เปิด​สอน​สาขา​กฎหมาย​โดยเฉพาะ​แล้ว​ นักศึกษา​กฎหมาย​เหล่านั้น​ต่าง​ก็​เข้าใจ​ใน​กฎหมาย​เป็น​อย่าง​ดี​ ถ้าหาก​เรื่อง​นี้​ถูก​เผยแพร่​ออก​ไป​สู่สาธารณชน​เมื่อใด​ ท่าน​จัว​…ท่าน​คิด​นักศึกษา​เหล่านั้น​จะมอง​กฎหมาย​เยี่ยง​ไร​ ? พวกเขา​จะมอง​ฝ่าบาท​เยี่ยง​ไร​ ? ”

จัว​อี้​สิงนิ่งเงียบ​ไป​

หนาน​กง​อี้​ห​ยู่​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​ปริปาก​เอ่ย​ขึ้น​มาว่า​ “เอา​เช่นนี้​ดี​หรือไม่​ ? เรื่อง​การ​สร้าง​ถนน​ของ​เขต​เยวี่ย​ซาน​ทั้งสอง​นั้น​ ถือเป็น​โครงการ​ใหญ่​ที่​จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ทรง​วางแผน​ไว้​ มัน​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​นโยบาย​พัฒนา​ชุมชน​ มีวัตถุประสงค์​เพื่อ​ต้องการ​ให้​ราษฎร​ทั้งสอง​เขต​เยวี่ย​ซาน​ได้​สสัด​ทิ้ง​ความยากจน​”

“กองทุน​เฉพาะกิจ​ของ​กรม​คลัง​ได้​เตรียมพร้อม​เอาไว้​แล้ว​ กอง​ทหารช่าง​ก็ได้​เตรียม​เสร็จสรรพ​เเล้ว เหลือ​เพียง​คำสั่ง​ดำเนินการ​เท่านั้นเอง​”

“ท่าน​จัว​ หรือว่า​…เรื่อง​นี้​มิจำเป็นต้อง​ผ่าน​ฝ่าบาท​อีกต่อไป​ เพียงแค่​เสนาบดี​ทั้ง​สามฝ่าย​และ​คณะรัฐมนตรี​เห็นชอบ​ก็​พอแล้ว​ จากนั้น​ก็​เริ่ม​ดำเนิน​การตาม​แผน​ต่อไป​ เช่นนี้​ดี​หรือไม่​ ? ”

“มิได้​เด็ดขาด​ ! จะยอมให้​เรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​มิได้​เด็ดขาด​ ! ” จัว​อี้​สิงผงะ​

“นี่​เป็น​กรณี​ตัวอย่าง​ที่​มิดี​เช่นกัน​…พวก​เจ้าลอง​คิด​ดูเถิด​ หาก​พวกเรา​ดำเนินการ​เรื่อง​นี้​โดยที่​มิได้รับ​ความ​เห็นชอบ​จาก​ฝ่าบาท​ พระองค์​จะคิด​เยี่ยง​ไร​ ? ”

“เช่นนั้น​องค์​จักรพรรดิ​ยัง​จะมีความหมาย​อัน​ใด​สำหรับ​ต้าเซี่ย​ ? หาก​มีครา​แร​ก.​.. เช่นนั้น​การอนุมัติ​นโยบาย​ครั้ง​ต่อ​ ๆ ไป​ก็​ให้​ผ่าน​เสนาบดี​ทั้ง​สามฝ่าย​และ​การ​ลงมติ​ของ​คณะรัฐมนตรี​ก็​เป็น​พอ​ แบบ​นั้น​ฝ่าบาท​ก็​จะมีสภาพ​มิต่าง​อัน​ใด​จาก​จักรพรรดิ​หุ่นเชิด​มิใช่หรือ​ ? ”

จัว​อี้​สิงโบกมือ​ไปมา​พลาง​ส่าย​ศีรษะ​มิเห็นด้วย​ “เช่นนั้น​พระ​ราช​อำนาจ​ของ​องค์​จักรพรรดิ​ก็​จะไร้​ความหมาย​มิใช่หรือ​ ? ต่อให้​จักรพรรดิ​พระ​เจ้าหลวง​ยัง​ประทับ​อยู่​ที่นี่​ พระองค์​ก็​คงจะ​มิยอม​เห็นด้วย​เป็นแน่​”

เมิ่งฉางผิง​ที่​เป็น​ผู้ฟัง​พยักหน้า​ตาม​ “ท่าน​หนาน​กง​อี้​ห​ยู่​รีบร้อน​จน​เกิน​เหตุ​ หาก​จะทำ​เช่นนั้น​ก็​ดูเหมือน​จะมิถูกต้อง​เท่าใด​นัก​”

“แล้​วจะ​ทำ​เยี่ยง​ไร​เล่า​ ? จะปล่อย​ให้​เสียเวลา​ไป​ทั้ง​อย่างนี้​น่ะ​หรือ​ ? พวกเรา​น่ะ​มิเป็นไร​หรอก​ ทว่า​ชาวบ้าน​ใน​เขต​เยวี่ย​ซาน​กำลัง​เฝ้ารอ​ที่จะ​หลุดพ้น​จาก​ความยากจน​อย่าง​มีความหวัง​ ! ”

จัว​อี้​สิงถอนหายใจ​ยาว​ “ผู้ใด​ก่อปัญหา​ขึ้น​ คน​นั้น​ต้อง​แก้ไข​ด้วย​ตนเอง​ เยี่ยง​ไร​เรื่อง​นี้​ก็​จำต้อง​ไป​สนทนา​กับ​ฝ่าบาท​ดี ๆ​ ข้า​จะไป​พบ​ท่าน​นักปราชญ์​เห​วิน​สิงโจว​ เพราะ​เขา​คือ​อาจารย์​ของ​ฝ่าบาท​ ข้า​จะขอให้​เขา​เกลี้ยกล่อม​ฝ่าบาท​ให้​ยอม​ถอย​สัก​ก้าว​”

……

……

ณ ห้อง​ทรง​พระ​อักษร​

เห​วิน​สิงโจว​นั่ง​อยู่​เบื้องหน้า​อู๋​เทียน​ซื่อ​ สีหน้า​ของ​เขา​หม่นหมอง​ลง​เล็กน้อย​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)