นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 133

ตอนที่ 133 ควันหลงที่ยังไม่จบสิ้น

ตกกลางคืน เรื่องของตรอกชิงหลวนก็ได้เผยแพร่ไปทั่วจินหลิงอย่างรวดเร็ว ผู้คนในเมืองหลวงต่างก็คิดว่ากำลังมีฉากละครที่ยิ่งใหญ่กำลังแสดงอยู่ แต่แล้ว ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องผิดหวัง

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลชือที่คอยควบคุมกิจการทั้งสอง หรือจวนผู้ว่าที่คอยรับผิดชอบความสงบสุขของเมืองหลวง ก็มิได้เปล่งเสียงแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป

สองสถานที่ที่กลายเป็นเพียงเถ้าถ่านท่ามกลางสายฝนอยู่ที่นั่น เปรียบเสมือนรอยแผลสองแห่งของทางตอนใต้และตอนเหนือของตรอกชิงหลวน

……

…..

สองวันให้หลัง ก็ได้มีคนทยอยมาเยี่ยมเยียนฟู่เสี่ยวกวนถึงเรือนหลังใหม่อีก เขายังคงนอนอยู่บนเตียง ผู้ที่มาเยี่ยมเยียนต่างก็ถูกซูม่อและชุนซิ่วขวางไว้ข้างนอก

“แม้อาการบาดเจ็บของคุณชายจะควบคุมได้แล้ว แต่บาดแผลนั้นก็ยังสาหัสยิ่งนัก พวกท่านคงมิทราบ ในยามที่พวกข้าหาเขาเจอ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยโลหิต จนทำให้เสื้อผ้าแข็งตัว ท่านหมอหลวงกล่าวว่าเป็นโชคดีอย่างใหญ่หลวงของคุณชาย หากล่าช้าไปอีกหนึ่งชั่วยาม ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ยากที่ช่วยชีวิตเขาได้ ดังนั้นพวกข้าขอขอบพระคุณในความมีน้ำใจของพวกท่านแทนคุณชายของพวกข้า แต่คุณชายต้องการการพักผ่อนอย่างสงบ และ…เขาอาจจะหมดสติได้ทุกเมื่อ”

ต่งคังผิงส่งคนมามอบของขวัญ ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินจากไป

เมื่อคนอื่น ๆ เห็นว่าต่งคังผิงมิเข้ามา ก็ครุ่นคิด และเลือกจะวางของขวัญไว้และเดินออกไป

จวนฟู่ที่ใหญ่โตได้สงบลงมาอีกครั้ง ฟู่เสี่ยวกวนปีนลงจากเตียง มองชุนซิ่วที่พาสาวใช้กลุ่มหนึ่งมาตรวจของขวัญที่กองพะเนินเป็นภูเขาอย่างขบขัน ทันใดนั้นก็รู้สึกขึ้นมาว่าหากมีคนมาลักพาตัวเขาอีกก็จะสมบูรณ์ทันที

ตกเย็น ฉินปิ่งจงและฉินโม่เหวินก็ได้มายังจวนฟู่ ฟู่เสี่ยวกวนรอรับพวกเขาอยู่ที่ศาลาชิงซินในสวนดอกไม้ทางด้านหลัง

“ข้าและโม่เหวินจะออกจากเมืองหลวงพรุ่งนี้ ข้าจะพาเฉิงเย่ไปหลินเจียง ส่วนโม่เหวินจะไปเจียงเป่ยเต้าเพื่อรับตำแหน่ง”

“พวกท่านออกตัวเดินทางไปก่อน คาดว่าอีกสองวันข้าก็จะกลับหลินเจียง”

“ฝ่าบาทจะปล่อยเจ้าไปหรือ ? ” ฉินโม่เหวินเอ่ยถาม

“หึหึ ถือโอกาสใช้อาการบาดเจ็บนี้หนีหายไประยะเวลาหนึ่ง”

ฟู่เสี่ยวกวนชงชาให้ทั้งสองคน ฉินโม่เหวินเอ่ยถามอีกว่า “เจ้าอยู่ที่หลินเจียง… มีอุปสรรคอันใดหรือไม่ ?”

นี่คือการไถ่ถามความคิดเห็นของฟู่เสี่ยวกวน ที่ซีซานหลินเจียงแห่งนั้นฟู่เสี่ยวกวนมีอุตสาหกรรมอยู่มากมาย หากทางสำนักก่ออุปสรรคจนทำให้เรื่องมิอาจราบรื่นได้ เยี่ยงนั้นฉินโม่เหวินก็จะช่วยเขาจัดการเรื่องนี้ให้ได้โดยปริยาย

“ขอบคุณพี่โม่เหวินมาก แต่หลินเจียงจือโจวนามหลิวจือต้ง คนผู้นี้ถือว่าใช้ได้ แท้จริงแล้วที่มาเมืองหลวงในครานี้ก็เพราะเขาแนะนำมา มิฉะนั้นข้าก็ยังมิทราบว่าการรับผู้ประสบภัยมานับหมื่นคนมาจะมีผลลัพธ์เยี่ยงนี้อยู่ด้วย”

ฉินโม่เหวินพยักหน้า และกล่าวอีกว่า “องค์ชายห้าถูกฝ่าบาทกักบริเวณอีกแล้ว”

ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะ หยูเวิ่นเต้าผู้นั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง อยู่ที่จวนของหยูเวิ่นเต้ามาได้สิบวัน ทั้งสองคนมักจะสนทนากันบ่อยครั้ง ย่อมเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว

หยูเวิ่นเต้าจบจากป่ากระบี่ สี่ปีก่อนหน้านั้นได้พาเจ็ดกระบี่แห่งป่ากระบี่กลับมายังเมืองหลวง และได้เปิดกิจการดังเช่นในวันนี้ ฟู่เสี่ยวกวนคิดว่าเขากำลังใช้ความสามารถอย่างสูญเปล่า แต่หยูเวิ่นเต้ากลับยังยืนหยัดในอาชีพนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)