ตอนที่ 1331 หน่วยกล้าตาย
“ทุกท่าน นี่คือสถานการณ์ที่พวกเรากำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ ! ”
กวนเสี่ยวซีชี้ไปยังแผนที่พลางอธิบายให้เผิงยวี๋เยี่ยนและเหล่าแม่ทัพทั้งสิบคนถึงเหตุการณ์ที่กองทัพกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ เขาเงยหน้าขึ้นแล้วกวาดมองทุกคน จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“จักรพรรดิพระเจ้าหลวงทรงตรัสถึงทวีปยุโรปว่า… ทวีปยุโรปนั้นมีประเทศต่าง ๆ มากมาย แต่มากเพียงใดพระองค์มิได้ตรัสถึง บัดนี้ได้ข่าวมาว่าทวีปยุโรปแห่งนี้ถูกสมเด็จพระราชินีมารีอาที่สองซึ่งมีพระชนมพรรษาเพียงแค่ 24 พรรษารวมเอกราชทวีปยุโรปมาแล้วสามปี……”
“แน่นอนว่ามันแตกต่างกับจักรพรรดิพระเจ้าหลวงของเรา เพราะเขาใช้เวลาแค่เดือนกว่าในการรวมเอกราชทั้งห้าแคว้น ทว่าตระกูลที่มีสตรีสืบเชื้อสายเป็นหลักสามารถทำได้ถึงเพียงนี้เป็นเรื่องที่พวกเรามิอาจดูแคลนได้เป็นอันขาด ! ”
“นอกเหนือจากนี้ เวลลีสเอ่ยว่าสมเด็จพระราชินีผู้นี้สามารถทำนายอนาคตได้…นี่ค่อนข้างแปลกประหลาด แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะเวลลีสบอกว่าแม้แต่ราษฎรในจักรวรรดิซิลูซิดก็ทราบข่าวคราวการมาเยือนของกองทัพแดนบูรพาครานี้เช่นกัน”
“ระหว่างการเดินทางมานี้ ข้าคิดว่าคำทำนายอันใดนั่นมิอาจเชื่อถือได้ น่าจะเป็นเพราะการที่กองทัพเรือของฝูหล่างจีถูกพวกเราโจมตีเมื่อสามปีก่อนเสียมากกว่า มีบางคนที่รอดชีวิตกลับไปได้ ทำให้สมเด็จพระราชินีพระองค์นั้นให้ความสำคัญกับพวกเราเป็นพิเศษ จึงเป็นเหตุให้นางกังวลถึงการเดินทางไกลของพวกเราเพื่อมาพิชิตดินแดนแห่งนี้”
“บัดนี้เห็นได้ชัดว่านางได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้ว กองทัพบกในมือของนางมี 8 กองทัพด้วยกัน รวมทั้งสิ้น 1,600,000 นาย ทว่าถูกส่งมาประจำการที่เมืองปาแลร์โมถึง 4 กองทัพด้วยกัน ซึ่งมีกำลังพลทั้งสิ้น 800,000 นาย”
“นี่อาจจะเป็นศึกที่ลำบากที่สุดในการเดินทัพครานี้ กองทัพอากาศของพวกเรามิมีกระสุนมากพอที่จะสร้างภัยคุกคามต่อเมืองปาแลร์โมได้ ดังนั้นแล้วพวกเรามีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำศึกครานี้ ! ”
กวนเสี่ยวซีหันกลับมามองแผนที่บนโต๊ะอีกครา นิ้วของเขาชี้ลงไปที่เทือกเขาพีเรนีส เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “เทือกเขาแห่งนี้มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ส่วนกองทัพของพวกเรามีความช่ำชองในการสู้รบบนพื้นที่ภูเขาเป็นอย่างมาก ทว่าพวกเราจะล่อข้าศึกที่อยู่ในเมืองออกมาบนเทือกเขาแห่งนี้ได้เยี่ยงไร ? ”
“ทุกท่านลองเอ่ยความคิดของตนออกมาก่อน”
แม่ทัพทั้งหลายต่างก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด หยูติ้งชานนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงเอ่ยออกมาว่า “จากความคิดเห็นของข้า หากต้องการจะล่อข้าศึกออกมา ก็จำต้องทำให้พวกเขาโกรธแค้นเสียก่อน...”
“เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าจะนำกองพลที่หนึ่งลงไปก่นด่าข้าศึก ถ้าหากว่าข้าศึกยอมเปิดเมืองแล้วไล่ตีพวกเรา ข้าจะแสร้งว่าพ่ายแพ้แล้วถอยทัพกลับมา ? ”
กวนเสี่ยวซีส่ายศีรษะพลางเอ่ยขึ้นมาว่า “เมืองปาแลร์โมนั้นอยู่ห่างจากเทือกเขาพีเรนีสมากนัก ถ้าหากว่าเจ้าจะถอย ข้าศึกอาจจะมิไล่โจมตีพวกเจ้าก็เป็นได้”
หยูติ้งชานคิดตามแล้วพยักหน้า ข้าศึกมีเมืองปาแลร์โมให้ปักหลักคุ้มกัน ทว่ากองทัพของตนจะต้องตีฝ่าเมืองปาแลร์โมเท่านั้นถึงจะเดินทัพสู่ทิศตะวันตกได้ ข้าศึกไร้ความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องมาทำศึกกับกองทัพต้าเซี่ยบนเทือกเขานี่ด้วยซ้ำไป
และแล้วสายตาของหยูติ้งชานก็พลันส่องประกายวาววับราวกับคิดออกแล้ว “เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ฉวยเอาความมืดมิดยามราตรีกาลอำพรางตัว แล้วใช้เรือเหาะส่งกองกำลังบุกโจมตีกะทันหัน โดยใช้แผนการตัดศีรษะ ! ”
“พวกเราจะตัดศีรษะแม่ทัพของข้าศึก บางทีอาจจะนำความโกรธเคืองมาให้ข้าศึกก็เป็นได้”
กวนเสี่ยวซีกำลังวิเคราะห์ว่าสิ่งที่หยูติ้งชานเอ่ยมานั้นสามารถทำได้หรือไม่
กองทัพบกต้าเซี่ยที่หนึ่งเป็นกองทัพเก่าแก่ และทหารเหล่านั้นสามารถใช้วิชาตัวเบาได้ นี่คือข้อได้เปรียบของพวกเขา
กองทัพบกต้าเซี่ยที่หนึ่งก็เป็นทหารดาบเทวะเก่าอยู่แล้วเดิมที ทหารแต่ละคนมีความสามารถในการรบสูงเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าจัดกองทัพโจมตีกะทันหัน ความสามารถในการห้ำหั่นศัตรูมิอาจมองข้ามได้เลย
ทว่าปัญหาในตอนนี้ดูเหมือนว่าสายลับจากหอเทียนจีมิสามารถนำข่าวคราวในเมืองปาแลร์โมส่งออกมาได้เลย ถ้าหากมิทราบว่าแม่ทัพของกองทัพข้าศึกนั้นหลบซ่อนอยู่ที่ใด เช่นนั้นก็มิมีทางเป็นไปได้เลยที่ทหาร 500 นายจะตามหาเป้าหมายในเมืองที่ใหญ่มโหฬารเช่นนี้เจอ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่โหดหินเช่นนี้ แม่ทัพทั้งหลายต่างก็ตกอยู่ในภวังค์ความเงียบ เพราะนี่เป็นงานที่ยากยิ่งนัก ส่วนกวนเสี่ยวซีหวังให้พวกเขาใช้เล่ห์เหลี่ยมให้มากสักหน่อย มิใช่การเข้าสู้โดยขาดการตริตรอง เพราะกองทัพของเขามิอาจรับมือกับความสูญเสียที่มากจนเกินไปได้
ทันใดนั้นเผิงยวี๋เยี่ยนก็ได้เอ่ยเสนอความคิดเห็นออกมา “ข้าศึกมีการวางกำลังอย่างแน่นหนา คนของหลี่ฉางซู่หัวหน้าสายลับหอเทียนจีมิอาจออกมาได้ หรือว่าจะให้ข้าลงไปที่เมืองปาแลร์โมสักเที่ยวดี”
”มิได้ ! ” นี่เป็นคราแรกที่กวนเสี่ยวซีปฏิเสธความคิดเห็นของเผิงยวี๋เยี่ยน “หน้าตาของพวกเราชาวตะวันออกแตกต่างกับหน้าตาของพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งบัดนี้ยังเป็นช่วงสงคราม แค่ท่านปรากฏโฉมขึ้นที่เมืองปาแลร์โม เกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อตัวท่าน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)