นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1337

สรุปบท ตอนที่ 1337 แมวตาบอด: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอนที่ 1337 แมวตาบอด – ตอนที่ต้องอ่านของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอนนี้ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1337 แมวตาบอด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่​ 1337 แมว​ตาบอด​

“พ่อ​หนุ่ม​ เจ้ามีนาม​ว่า​อัน​ใด​ ? มาจาก​กองพล​ที่​เท่าใด​กัน​ ? ”

ทหาร​เก่า​อายุ​ราว​ 40 ปี​คน​หนึ่ง​ได้​เอ่ย​ถามขณะที่​กลุ่ม​ที่​เจ็ด​กำลัง​เดิน​อยู่​ใน​ตรอก​ซอย​แห่ง​หนึ่ง​

“อ่า​…ข้า​มีนาม​ว่า​จงอู๋​ มาจาก​กองพล​ที่สอง​ กองพลน้อย​ที่สาม​ กองพัน​ที่​แปด​ กองร้อย​ที่หก​ หมู่​ที่สี่​ แล้ว​เจ้าเล่า​ ? ”

“จ้าว​ซู่เซิง กองพล​ที่​เจ็ด​ กองพลน้อย​ที่สอง​ กองพัน​ที่​เจ็ด​…เจ้าคิด​จะพา​พวกเรา​ไป​ที่ใด​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ”

“ข้า​ก็​มิรู้​เหมือนกัน​ พวกเขา​บอก​ให้​เคลื่อนไหว​แบบ​อิสระ​มิใช่หรือ​ ? ”

จ้าว​ซู่เซิงยก​ยิ้ม​ยิงฟัน​ เดิมที​ทิศทาง​ที่​พวกเขา​จะต้อง​มุ่งหน้า​ไป​นั้น​ควรจะเป็น​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ​เสีย​มากกว่า​ ทว่า​พ่อ​หนุ่ม​ผู้​นี้​กลับ​พา​ทุกคน​วิ่ง​มั่วซั่ว​มาทาง​ทิศตะวันออกเฉียงใต้​

ท้ายที่สุด​ มิว่า​เยี่ยง​ไร​ก็​มีเป้าหมาย​เพียงแค่​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ ซึ่งก็​คือ​หวัง​ว่า​จะพบ​สายลับ​ของ​หอ​เทียน​จี เพื่อที่จะ​ได้​รายงาน​ข่าวสาร​ฉบับ​นั้น​มา

“พ่อ​หนุ่ม​ หาก​เจ้าอยาก​จะพบ​สายลับ​ของ​หอ​เทียน​จี จำต้อง​ให้​พวกเขา​มาหา​พวกเรา​เท่านั้น​ ดังนั้น​พวกเรา​ควรจะ​เคลื่อนไหว​บางอย่าง​ใช่หรือไม่​ ? ”

จงอู๋​ผงะ​ “อย่า​เรียก​ว่า​พ่อ​หนุ่ม​ ข้า​อายุ​ 22 ปี​แล้ว​นะ​ ! ”

“เอาเถิด​พ่อ​หนุ่ม​ เจ้าเป็นฝั่งเป็นฝา​แล้ว​หรือยัง​เล่า​ ? ”

“ยัง​น่ะ​สิ…ทว่า​ไป​ขอ​เมีย​มาแล้ว​ ขอ​มาเกือบจะ​สี่ปี​แล้ว​ล่ะ​ หาก​ข้า​ดวง​แข็ง​มาก​พอ​ เมื่อ​เสร็จ​ศึก​ครา​นี้​ข้า​ก็​จะกลับ​ไป​แต่งงาน​”

“เจ้ามิกังวล​ว่า​เมีย​เจ้าจะต้อง​รอ​นาน​หรือ​ ? ”

“มิมีทาง​ ก่อน​จะออกเดินทาง​มารบ​ครา​นี้​ ข้า​ได้​กลับ​ไปหา​นาง​หนึ่ง​ครา​ นาง​รับปาก​แล้ว​ว่า​ นาง​จะรอ​ข้า​ห้า​ปี​ แล้ว​เจ้าเล่า​ ? ลูก​ของ​เจ้าคงจะ​เติบใหญ่​แล้ว​สินะ​ ? ”

จ้าว​ซู่เซิงแสดง​สีหน้าที่​มิอาจ​เอ่ย​ออกมา​เป็น​คำพูด​ได้​ ทว่า​บัดนี้​สิ่งที่​ทุกคน​เพ่งเล็ง​มิใช่บทสนทนา​ระหว่าง​กัน​ จึงมิมีผู้ใด​สนใจ​กันและกัน​

เขา​มิได้​ตอบคำถาม​ของ​จงอู๋​ แต่กลับ​ยิ้ม​แล้ว​เปลี่ยน​เรื่อง​สนทนา​ไป​ทั้งอย่างนั้น​ “เมื่อ​กลับ​ไป​แต่งงาน​แล้ว​จะปลด​ประจำการ​หรือไม่​ ? ”

“ยัง​มิแน่นอน​ ค่อย​ดู​สถานการณ์​ตอนนั้น​อีกที​ก็แล้วกัน​ ข้า​เข้ามา​เป็น​ทหาร​ตั้งแต่​อายุ​สิบ​สี่ เพียงแค่​พริบตาเดียว​ก็​ผ่าน​ไป​แปด​ปี​แล้ว​ ถือ​ปืน​มานาน​รู้สึก​วาง​มิลง​… เจ้าเป็น​ทหาร​มานาน​เพียงใด​แล้ว​เล่า​ ? ”

“ข้า​หรือ​…14 ปี​ได้​แล้ว​ล่ะ​ ! ”

จงอู๋​ตะลึงงัน​ จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​จ้าว​ซู่เซิงหนึ่ง​ครา​ “เคย​ร่วม​ศึก​บน​ที่ราบ​ฮวา​จ้งมาแล้ว​สินะ​ ? ”

ศึก​บน​ที่ราบ​ฮวา​จ้งผิง​เกิดขึ้น​เมื่อ​สิบ​ปีก่อน​ ใน​ตอนนั้น​ราชวงศ์​อู๋​ได้​รวม​เอกราช​ทั้ง​ห้า​แคว้น​เข้าด้วยกัน​ และ​ศึก​ครา​ใหญ่​ที่​ได้​ถือเป็น​ศึก​สถาปนา​ต้าเซี่ย​ขึ้น​มาถูก​ขนานนาม​ว่า​เป็น​ศึก​ก่อตั้ง​ราชวงศ์​

ใน​บรรดา​ทหาร​เหล่านั้น​ ทหาร​ที่​เคย​ร่วม​ศึก​บน​ที่ราบ​ฮวา​จ้งมาต่างหาก​ถึงจะถูก​ขนานนาม​ว่า​เป็น​ทหาร​เก่า​ได้​อย่าง​แท้จริง​ ! อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​ทหาร​เก่า​ที่​คู่ควร​ต่อ​การ​เคารพนับถือ​เป็น​อย่างยิ่ง​ !

ทหาร​เหล่านี้​ โดยมาก​จะได้​เลื่อนขั้น​ขึ้น​มา มิได้​ติด​แหง็ก​อยู่​ที่​ผู้​บังคับ​หมู่​เท่านั้น​

จ้าว​ซู่เซิงพยักหน้า​แล้ว​ตอบ​สั้น​ ๆ แค่​ “อืม​”

แท้จริง​แล้ว​ จ้าว​ซู่เซิงมิเพียงแต่​ได้​เข้าร่วม​ศึก​บน​ที่ราบ​ฮวา​จ้งเมื่อ​รัชสมัย​เทียน​เต๋อ​ที่สาม​เท่านั้น​ ทว่า​เขา​ยัง​ได้​เข้าร่วม​ศึก​บน​เซียว​เห​อห​ยวน​ก่อนหน้า​นั้น​อีกด้วย​ !

ศึก​บน​เซียว​เห​อห​ยวน​นั้น​เกิดขึ้น​เมื่อ​รัชสมัย​เซวียน​ลี่​ที่​สิบเอ็ด​ ฟู่เสี่ย​วกวน​เป็น​ผู้นำ​กองทัพ​ดาบ​เท​วะ​ไป​ปะทะ​กับ​แคว้น​ฮวง​ด้วย​ตนเอง​ !

ตอนนั้น​เขา​ยัง​เป็น​แค่​พลทหาร​ใหม่​ที่​ถูก​จัด​ให้​อยู่​ใน​กองทัพ​ดาบ​เท​วะ​กองพล​ที่หนึ่ง​ ภายใต้​บังคับบัญชา​ของ​เฉิน​ป๋อ​ แน่นอน​ว่า​ตอนนั้น​เขา​เป็น​แค่​พลทหาร​ ทว่า​บัดนี้​เขา​ได้​ไต่เต้า​มาเป็น​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ที่​เจ็ด​ของ​กองพลน้อย​ที่สอง​แล้ว​ !

จงอู๋​สำรวจ​ดู​ท่าที​ของ​จ้าว​ซู่เซิง พลาง​ครุ่น​คิดในใจ​ว่า​นายทหาร​ผู้​นี้​น่าจะเป็น​ทหาร​ที่​นิสัย​มิดีมาก​นัก​ คาด​ว่า​น่าจะเป็น​ประเภท​ที่​ชอบ​หา​ลูกเล่น​กลเม็ด​ใน​การ​หลบหลีก​ใน​สนามรบ​ จึงทำให้​ผ่าน​มาสิบ​สี่ปี​แล้วก็​ยัง​มิได้รับ​ความไว้วางใจ​ให้​รับ​ตำแหน่ง​สำคัญ​

หน่วย​จู่โจมนี้​จะต้อง​เลือก​ทหาร​ฝีมือดี​ ทว่า​มิรู้​เหตุใด​ทหาร​นาย​นี้​ถึงถูก​คัดเลือก​มาได้​

จงอู๋​มิได้​เอ่ย​ความคิด​ของ​ตน​ออกมา​ ใน​ใจของ​เขา​รู้สึก​ดูถูก​จ้าว​ซู่เซิงมาก​ยิ่งนัก​

“พวก​เจ้าลอง​หันมา​ดู​อาคาร​หลัง​นี้​สิ หน้าตา​ของ​มัน​มิเหมือนกับ​บ้านเรือน​หลัง​อื่น​ ๆ มัน​มีกำแพง​ล้อมรอบ​ซึ่งกว้างใหญ่​เป็น​อย่าง​ บน​กำแพง​ยังมี​ทหาร​คอย​ประจำการ​ อีก​ทั้ง​ยังมี​การ​วาง​กำลัง​ป้องกัน​อย่าง​แน่นหนา​ ที่นี่​จะต้อง​เป็น​หน่วย​บัญชา​การทหาร​ของ​ศัตรู​เป็นแน่​ ! ”

“ฮ่า ๆ ” จงอู๋​หัวเราะ​ร่า​ แล้ว​เอ่ย​ออกมา​เสียง​แผ่ว​ว่า​ “ถ้าหาก​พวกเรา​โจมตี​หน่วย​บัญชา​การทหาร​ของ​ศัตรู​เสีย​ จากนั้น​ก็​ลงมือ​ตัด​ศีรษะ​ผู้บัญชาการ​ เช่นนี้​พวกเรา​ก็​จะทำให้​การโจมตีทางอากาศ​ครา​นี้​สำเร็จ​มิใช่หรือ​ ? ”

จ้าว​ซู่เซิงหันไป​มอง​จงอู๋​อีก​หนึ่ง​ครา​ รู้สึก​ว่า​สิ่งที่​พ่อ​หนุ่ม​ผู้​นี้​วิเคราะห์​ออกมา​นั้น​มีเหตุมีผล​

เขา​หยิบ​กล้องส่องทางไกล​มาสำรวจ​ตรวจตรา​เวร​ยาม​บน​กำแพง​ จากนั้น​ก็​ส่งกล้องส่องทางไกล​ให้​จงอู๋​ “เจ้าดู​นี่​สิ พวกเรา​มีการ​แค่​ 7 คน​ เจ้าคิด​ว่า​พวกเรา​จะจู่โจมที่นี่​ได้​เยี่ยง​ไร​ ? ”

จงอู๋​รับ​กล้องส่องทางไกล​ขึ้น​มาส่อง​พลัน​อ้าปากค้าง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ บน​กำแพง​มิได้​มีแค่​นายทหาร​ที่​ยืน​ตรง​รักษาการณ์​อยู่​เท่านั้น​ ทว่า​ยังมี​ป้อม​ หอ​ธนู​และ​หอ​สังเกตการณ์​อีกด้วย​

เท่านี้​ก็​เพียง​พอที่จะ​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​สถานที่​ตรงนี้​เป็น​สถานที่สำคัญ​ แต่​คำถาม​ก็​คือ​…จะย่องเบา​เข้าไป​ใน​กำแพง​โดยที่​มิโดน​จับได้​ได้​เยี่ยง​ไร​กัน​ ?

กลุ่ม​เล็ก​ ๆ ที่​มีกัน​เพียงแค่​แปด​คน​ ทว่า​บน​กำแพง​จาก​ที่​เห็น​น่าจะ​มีราว​หนึ่งร้อย​กว่า​คน​ และ​มิทราบ​ว่า​ข้างใน​นั้น​มีสถานการณ์​เป็น​เยี่ยง​ไร​บ้าง​

จงอู๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​ลูบ​ระเบิด​มือสอง​ลูก​ที่​แขวน​เอาไว้​ตรง​เอว​ แล้ว​ออกคำสั่ง​เป็น​ครา​แรก​ใน​ชีวิต​

“พวก​เจ้ารอ​อยู่​ที่นี่​ ข้า​จะอ้อม​ไป​ทาง​ทิศตะวันตก​ เพื่อ​หา​ช่องว่าง​โจมตี​กำแพง​ทาง​ทิศเหนือ​”

“ศัตรู​จะต้อง​แตกตื่น​เป็นแน่​ เมื่อ​ถึงเวลา​นั้น​พวก​เจ้าลอง​หา​ช่องโหว่​แล้ว​กระโดด​ข้าม​กำแพงเมือง​ไป​ แต่​จงจำเอาไว้​ว่า​อย่า​ต่อสู้​เป็นอันขาด​ ! ”

“พวก​เจ้าจงเข้าไป​ด้านใน​อาคาร​สูงนั่น​ ถ้าหากว่า​พบ​ผู้บัญชาการ​ก็​จงจับตัว​มัน​มาให้ได้​ แต่​หาก​มิพบ​…ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​หลังจากนี้​ให้​ทุกคน​ถอยร่น​ออกมา​ แล้ว​มารวมตัวกัน​ที่นี่​ ! ”

จ้าว​ซู่เซิงครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ แล้ว​เอ่ย​ออกมา​ว่า​ “ข้า​จะไป​ล่อ​ศัตรู​เอง​ ส่วน​เจ้าพา​พวกเขา​เข้าไป​เถิด​”

“ข้า​เป็น​หัวหน้ากลุ่ม​ ทุกคน​ต้อง​ฟังคำสั่ง​ของ​ข้า​ ! ”

จ้าว​ซู่เซิงยิ้ม​ร่า​จน​เห็น​ฟัน​ “ข้า​คือ​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ที่​เจ็ด​ของ​กองพลน้อย​ที่สอง​ ! เจ้าเป็น​เพียง​ทหาร​ชั้นผู้น้อย​ เจ้าต้อง​ปฏิบัติ​ตามคำสั่ง​ของ​ข้า​ ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)