ตอนที่ 1349 ไล่ตาม
จั่วมู่ลุกพรวดขึ้นมาทันใด จากนั้นก็หยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมา
เขาเห็นเป็นจุดสีดำซึ่งมองเห็นได้มิชัดเจนเท่าใดนักตรงเส้นขอบฟ้า เมื่อลองมองดูแล้วก็จะเห็นได้ว่าระยะห่างระหว่างกันนั้นยังไกลแสนไกล
เขาฉีกยิ้มออกมา เผยสีหน้าตื่นเต้นฮึกเหิม สองปีแล้วสินะ !
พวกเขาต้องอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่นี้มาสองปีเต็ม ๆ แล้ว !
บัดนี้ได้พบศัตรูที่จักรพรรดิพระเจ้าหลวงทรงหมายมั่นเป็นหนักหนาแล้ว นี่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่จักรพรรดิพระเจ้าหลวงทรงตรัสนั้นเป็นเรื่องจริง
ในขณะเดียวกันนั้น เรือทั้งหมดในกองทัพเรือร่วมก็ได้เห็นศัตรูที่กำลังคืบคลานเข้ามาแล้วเช่นกัน ในชั่วอึดใจนั้นเอง ทหารทุกคนบนเรือต่างก็เดือดดาลพลุ่งพล่านขึ้นมา
ราวกับพยัคฆ์ที่หิวโซหลุดเข้ามาในฝูงแกะฝูงใหญ่ก็มิปาน
บัดนี้ฟู่เสี่ยวกวนได้ยืนอยู่ด้านข้างของเรือพร้อมกับยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาเช่นกัน ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น ความสงสัยที่ขุ่นมัวอยู่ในใจได้อันตรธานหายไป…
นี่มิใช่ภาพจินตนาการ ทว่ามีกองทัพเรือของศัตรูอยู่บนผืนมหาสมุทรอันเวิ้งว้างแห่งนี้จริง ๆ นี่หมายความว่าแผนที่ทางทะเลนี้ถูกต้อง และหมายความว่าบัดนี้อยู่ห่างจากฝูหล่างจีมิไกลมากแล้ว
และชั่วอึดใจนั้นเช่นเดียวกัน กองทัพของฝูหล่างจีก็ได้ค้นพบขบวนเรือรบของต้าเซี่ยอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา
นั่นคือกองทัพเรือที่หนึ่งของฝูหล่างจี ผู้บัญชาการกองทัพเรือที่หนึ่งคือแกรนด์ดยุกวิลเลียม
กองทัพเรือที่หนึ่งของวิลเลียมมีทั้งหมด 60 ลำ ซึ่งคอยประจำการอยู่ด่านแรก หากเข้ามายังน่านน้ำของฝูหล่างจีทางทิศตะวันตก ฐานทัพของมันนั้นมิได้ตั้งอยู่บนอาณาเขตของฝูหล่างจี ทว่าอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าเกาะสเตอร์
วันนี้กองทัพเรือกองที่หนึ่งออกลาดตระเวนตามปกติ แต่มิคาดคิดเลยว่าจะพบเจอกับศัตรูบนน่านน้ำซึ่งอยู่ห่างจากเกาะสเตอร์ราว 300 ไมล์ทะเล
แกรนด์ดยุกวิลเลียมยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องไปทางผู้บุกรุก ทันใดนั้นก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งหัวใจ…
ในระยะที่กล้องส่องทางไกลสามารถส่องไปถึง เขามองเห็นขบวนเรือรบของศัตรูผุดขึ้นมาเต็มไปหมด !
นี่มันมีกี่ลำกัน ?
ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระราชินีแล้วนั้น หลังจากที่ค้นพบเรือศัตรู พวกเขามิสามารถจัดการด้วยตัวคนเดียวได้ จำต้องรายงานไปยังกองทัพเรือที่สองและสามซึ่งประจำการอยู่บริเวณเกาะโพกะราซึ่งรับหน้าที่เป็นด่านที่สอง ในตอนที่เผชิญกับการโจมตีจากข้าศึกนั้น จำต้องรอให้ทั้งสามกองทัพมารวมตัวกันเสียก่อน ถึงจะสามารถพิชิตข้าศึกได้ มิสามารถปล่อยโอกาสให้ข้าศึกได้โจมตีเป็นอันขาด !
บัดนี้ดูเหมือนว่าคำทำนายของสมเด็จพระราชินีจะถูกต้อง ด้วยความสามารถในการรบของตนที่มีเรือมากถึง 60 ลำแล้วนั้น เกรงว่านี่จะมิใช่คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อของศัตรู
“ข้าขอออกคำสั่ง ! ”
แกรนด์ดยุกวิลเลียมวางกล้องส่องทางไกลลง เขารีบปฏิบัติตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระราชินีมารีอาที่สองอย่างเฉียบขาด
“สั่งให้เรือรบทั้งหมดถอยหลังกลับ ! ”
“จากนั้นให้เดินเรือไปยังเกาะโพกะรา เพื่อแจ้งท่านแกรนด์ดยุกไซน์ให้ส่งกองทัพเรือที่สองและสามมาร่วมทำศึกตัดสินที่เกาะสเตอร์ ! ”
กองทัพเรือใหญ่โตมโหฬารหันหัวเรือกลับท่ามกลางสายตาจับจ้องของกองทัพต้าเซี่ย !
จัวมู่ตกตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้นมากยิ่งนัก ดังนั้นเขาจึงหันไปมองฟู่เสี่ยวกวน
“ท่านเเม่ทัพ ใช้ความเร็วสูงสุดไล่ตามไปดีหรือไม่ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อหยิบแผนที่การเดินเรือขึ้นมาศึกษาอย่างละเอียด
“ในเมื่อข้าศึกหนีไปแล้ว ข้าคิดว่าพวกเขาคงตกใจกลัวพวกเรา”
ฟู่เสี่ยวกวนชี้นิ้วไปยังเกาะสเตอร์ “เกรงว่าพวกเขาจะรอกองหนุนมาสมทบ เจ้าลองดูเกาะนี้สิ ด้วยความเร็วของเรือต้าเซี่ยแล้ว คาดว่าจะสามารถเดินทางไปถึงเกาะแห่งนี้ได้ภายในรุ่งสางของวันพรุ่งนี้”
“ระยะห่างระหว่างเกาะสเตอร์และเกาะโพกะรานั้นอยู่ที่ 50 ไมล์ทะเล เกาะสองแห่งนี้เป็นเกาะที่มีการบุกเบิกเป็นท่าเรือทางการทหารตั้งแต่แรกเริ่ม เช่นนั้นก็แสดงว่ากองหนุนอยู่ที่บริเวณเกาะโพกะรา…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)