นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1355

ตอนที่​ 1355 พระ​คาร์​นิ​ดัล​

มีคน​ผู้​หนึ่ง​เดิน​ออก​มาจาก​ด้าน​ข้าง​ของ​อาคาร​สองชั้น​

เป็น​ชาย​ชรา​ที่​แก่​หง่อม​

เขา​สวม​ชุด​คลุม​สีดำทะมึน​ บน​ใบหน้า​มีผ้าคลุม​สีดำ​ ส่วน​บน​ศีรษะ​ของ​เขา​สวม​หมวก​ทรง​กรวย​

เรือนร่าง​ของ​เขา​ห่อหุ้ม​ด้วย​อา​ภารณ์​สีดำ​ มีเพียงแค่​ดวงตา​สีเทา​คู่​หนึ่ง​เท่านั้น​ที่​โผล่​พ้น​ออกมา​ให้​เห็น​ มือ​ที่​แห้งเหี่ยว​คู่​นั้น​ถือ​คทา​สีทอง​เอาไว้​

สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​หัน​ร่าง​กลับ​ไป​มอง​ชาย​ชรา​ผู้​นั้น​แล้ว​โค้ง​คารวะ​ “สวัสดี​ท่าน​พระ​คาร์​นิ​ดัล​1 ! ”

“องค์​ราชินี​ที่​เคารพ​ ข้า​มองเห็น​ความขุ่นมัว​ใน​ใจของ​ท่าน​”

บาทหลวง​เดิน​มาเบื้องหน้า​โต๊ะ​หนังสือ​ วาง​คทา​สีทอง​พิง​โต๊ะ​เอาไว้​ จากนั้น​ก็​หันไป​กวักมือ​เรียก​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ “มานี่​ นั่งลง​เถิด​ ข้า​จำต้อง​บอก​บางอย่าง​ให้​ท่าน​ได้​ทราบ​”

สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ชะงัก​ลง​เล็กน้อย​ พระ​คาร์​นิ​ดัล​เป็น​ผู้​มอบ​หนังสือ​ศิลปะ​การ​ทำนาย​เล่ม​นั้น​ให้​แก่​นาง​ ทว่า​ท่าน​มิได้​ถ่ายทอด​อัน​ใด​ให้​นาง​เลย​

ช่วงเวลา​หลาย​ปี​มานี้​ หลาย​คำทำนาย​ของ​นาง​ล้วน​มาจาก​หนังสือ​เล่ม​นี้​

ใน​นั้น​มีตัวอักษร​และ​มีรูป​เช่นเดียวกัน​ นาง​ต้อง​อ่าน​ตัวอักษร​และ​ลอง​พิจารณา​รูปภาพ​เหล่านั้น​ หลังจากนั้น​ก็​ใคร่ครวญ​ ในขณะที่​ใคร่ครวญ​ก็​ต้อง​มอง​หาความ​เชื่อมโยง​ระหว่าง​ตัวอักษร​และ​ภาพ​นั้น​ หลังจากนั้น​ค่อย​ทำการ​ทำนาย​

หนังสือ​ศิลปะ​การ​ทำนาย​ มิใช่ตัวอักษร​ของ​ยุโรป​ มิมีผู้ใด​ทราบ​ว่า​มัน​คือ​ตัวอักษร​อัน​ใด​ ทว่า​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ก็​สามารถ​อ่าน​ตัวอักษร​พวก​นี้​ออก​โดยที่​มิต้อง​ศึกษา​ร่ำเรียน​

เรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​เมื่อ​สิบสอง​ปีก่อน​

นาง​รู้สึก​ราวกับว่า​ได้รับ​การ​ชี้นำ​พิเศษ​จาก​พระเจ้า​ตั้งแต่​ครา​แรก​เมื่อ​เข้า​มายัง​อาคาร​ไม้หลัง​นี้​ นาง​หยิบ​หนังสือ​เล่ม​ที่​มีฝุ่น​เขรอะ​เล่ม​นี้​มาจาก​ชั้น​วาง​ จากนั้น​นาง​ก็​อ่านหนังสือ​เล่ม​นี้​อยู่​ใน​อาคาร​ไม้หลัง​นี้​ถึงสามวัน​สามคืน​ด้วยกัน​

และ​ตั้งแต่​ตอนนั้น​นาง​ก็ได้​กลายเป็น​ศิษย์​ของ​พระ​คาร์​นิ​ดัล​ท่าน​นี้​

การ​แต่งกาย​ของ​พระ​คาร์​นิ​ดัล​ท่าน​นี้​เมื่อ​สิบสอง​ปีก่อน​เป็น​เยี่ยง​ไร​ ปัจจุบัน​ก็​ยัง​เป็น​เช่นนั้น​

เพียงแต่ว่า​เรี่ยวแรง​ใน​สายตา​คู่​นั้น​ได้​เหือดหาย​ไป​ และ​มือ​คู่​นั้น​ก็​แห้งเหี่ยว​ราวกับ​อยู่​ใน​ฤดูหนาว​

“สิบ​หก​ปีก่อน​ฝูหล่า​งจีได้​ริเริ่ม​เคลื่อนไหว​ด้าน​การเดินเรือ​อย่าง​อึกทึก​คึก​โครม​”

สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​นั่ง​อยู่​เบื้องหน้า​พระ​คาร์​นิ​ดัล​ และ​พระ​คาร์​นิ​ดัล​เหมือน​ได้​ย้อน​เวลา​กลับ​ไป​ใน​อดีต​ เขา​พึมพำ​ต่อว่า​

“ตอนนั้น​ข้า​อายุ​เพียง​ 26 ปี​ เป็น​นักเรียน​ดีเด่น​ใน​นครรัฐ​วาติกัน​แห่ง​ฝูหล่า​งจี… และ​แน่นอน​ว่า​ตอนนั้น​พระ​สันตะปาปา​คือ​ลุง​แท้ ๆ​ ของ​ข้า​เอง​ ข้า​ได้​เป็นตัวแทน​รัฐ​วาติกัน​เข้าร่วม​การเดินเรือ​ครา​แรก​ของ​ฝูหล่า​งจี”

“มิมีแผนที่​เดินเรือ​ และ​มิมีผู้ใด​ทราบ​ว่า​มหาสมุทร​อัน​กว้างใหญ่​ไพศาล​นี้​สิ้นสุดลง​ที่ใด​”

พวกเรา​ล่องเรือ​อยู่​กลาง​มหาสมุทร​หนึ่ง​ปี​เต็ม​ผ่าน​พายุ​และ​ผ่าน​วิกฤต​โรคระบาด​… มีผู้คน​มากมาย​ตก​ตาย​ระหว่าง​การ​เดินทาง​ครานั้น​ และ​มีผู้คน​มากมาย​ยอมแพ้​ ทว่า​เรือ​ก็​ไป​ต่อ​ใน​ท้ายที่สุด​ด้วย​ความ​ยืนหยัด​และ​ตั้งมั่น​ของ​ข้า​

“ข้า​ก็​มิทราบ​เช่นกัน​ว่า​เหตุใด​ถึงได้​ยืนหยัด​และ​ตั้งมั่น​แบบ​นั้น​ ทว่า​บัดนี้​เมื่อ​กลับมา​คิดดู​แล้ว​ บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​ใจที่​มัน​ถวิลหา​ดินแดน​แห่ง​ใหม่​”

“พวกเรา​ล่องเรือ​ขึ้น​เหนือ​ ผ่าน​ความลำบาก​ที่​ยาก​จะจินตนาการ​ถึงและ​ก็​ผิดหวัง​ใน​ท้ายที่สุด​ กระสุน​และ​เสบียง​ของ​พวกเรา​หมด​ลง​ พวกเรา​…เริ่ม​กิน​ศพ​ของ​สหาย​ร่วมทาง​เพื่อ​ความอยู่รอด​”

สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​เบิกตา​สีฟ้าคู่​งามกว้าง​ นาง​จ้องมอง​บาทหลวง​ด้วย​สายตา​ที่​มิอยาก​จะเชื่อ​ ผ้า​ปิดหน้า​ของ​บาทหลวง​ขยับ​เล็กน้อย​ มิทราบ​ว่า​เขา​กำลัง​หัวเราะเยาะ​หรือว่า​กำลัง​ถอนหายใจ​อยู่​กัน​แน่​

“ตอน​ออกเดินทาง​ พวกเรา​มีกัน​ทั้งสิ้น​ 16 ลำ​ ทว่า​หนึ่ง​ปี​หลังจากนั้น​กลับ​เหลือ​เพียงแค่​เรือ​ของ​พวกเรา​ลำ​เดียว​”

“ตอน​ออกเดินทาง​เรือ​ทั้ง​สิบ​หก​ลำ​มีผู้​ร่วม​ชะตากรรม​ทั้งสิ้น​ 2,372 คน​ หนึ่ง​ปี​ให้หลัง​…เรือ​ที่​พวกเรา​แล่น​ไป​นั้น​เหลือ​ผู้​ร่วม​ชะตากรรม​เพียงแค่​ 37 คน​เท่านั้น​ที่​มีชีวิตรอด​กลับมา​ได้​”

“เมื่อ​สหาย​ร่วม​ชะตากรรม​คน​หนึ่ง​ล้ม​ลง​… พวกเรา​ 37 คน​จะเข้าไป​ล้อม​พวกเขา​เอาไว้​ รอ​จนกว่า​ลมหายใจ​สุดท้าย​ของ​พวกเขา​จะสิ้นสุด​ไป​… เนื้อสด​ใหม่​ก็​จะอร่อย​กว่า​สักหน่อย​… เลือด​สด ๆ​ จะอร่อย​กว่า​เล็กน้อย​ ข้า​ยัง​จำสีหน้า​หวาดกลัว​ของ​สหาย​ร่วม​ชะตากรรม​ได้​ และ​จำประโยค​สุดท้าย​ของ​เขา​ได้​เช่นกัน​”

“เขา​บอ​กว่า​…อย่า​กิน​เขา​เลย​”

“ทว่า​พวกเรา​ก็​กิน​เขา​อยู่ดี​”

“บางที​เขา​อาจจะ​นำ​โชคลาภ​มาให้​พวกเรา​ก็​เป็นได้​ วัน​ที่สอง​ พวกเรา​ได้​พบ​ผืน​ปฐพี​… แท้ที่จริง​ก็​มิใช่ผืน​ปฐพี​หรอก​ ทว่า​เป็น​ธาร​น้ำแข็ง​ที่อยู่​ไกล​สุดลูกหูลูกตา​”

“แต่​การ​ที่​ได้​ลง​ไป​เหยียบ​บน​ธาร​น้ำแข็ง​นั้น​เป็นเรื่อง​ดี​ พวกเรา​ช่วย​พยุง​กันและกัน​ พวกเรา​คิด​หา​วิธี​การล่าสัตว์​บน​ธาร​น้ำแข็ง​แห่ง​นั้น​”

“ในที่สุด​พวกเรา​ก็​รอดชีวิต​มาได้​”

“หลังจากนั้น​…ข้า​เสนอ​ให้​พวกเขา​ไป​สำรวจ​ธาร​น้ำแข็ง​ ดังนั้น​พวกเรา​จึงเริ่ม​เดินทาง​ไก​ล.​.. ใช้เวลา​เดินทาง​ทั้งสิ้น​หนึ่งร้อย​กว่า​วัน​”

“ลม​จาก​หิมะ​พัด​โหมกระหน่ำ​หนาวเหน็บ​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ สหาย​ร่วมทาง​ของ​พวกเรา​ค่อย ๆ​ ล้ม​ลง​ ดังนั้น​พวกเรา​จึงตัดสินใจ​ยอมแพ้​”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)