นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1356

ตอนที่​ 1356 ลุง​กับ​หญิงสาว​

“บูรพาทิศ​…”

“คาด​ว่า​นี่​เป็น​ตัวอักษร​ที่​มาจาก​บูรพาทิศ​ มัน​เป็น​บทกลอน​ของ​ที่นั่น​”

สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​รีบ​เปิด​หนังสือ​ไป​ที่​หน้าหนึ่ง​อย่าง​เร็วไว​ หน้า​นี้​ได้​วาด​หอคอย​สูงสิบ​แปด​ชั้น​เอาไว้​

ชั้นล่าง​สุด​มีประตู​บาน​ใหญ่​ที่​เปิด​อ้า​ออก​

และ​เบื้องหน้า​ประตู​บาน​นั้น​มีถนน​เส้น​หนึ่ง​ ถนน​เส้น​นั้น​สั้น​เป็นอย่างมาก​ ปลายทาง​ของ​ถนน​ดำทะมึน​

ใต้​หอคอย​สู่งมีตัวอักษร​เขียน​ไว้​ดังนี้​

“จักรวาล​ประกอบ​ไป​ด้วย​ชั้น​ภูมิ มิมีจุดสิ้นสุด​”

“พวกเรา​เดิน​ทางข้าม​ภูมิภพ​มายัง​บูรพาทิศ​ของ​โลก​ใบ​นี้​ ใน​เมื่อ​พวกเรา​ตื่นขึ้น​มารู้สึก​ราวกับว่า​หลุด​เข้ามา​อยู่​ใน​โลก​แห่ง​เทพนิยาย​ซึ่งเต็มไปด้วย​ดวง​ดารา​จรัส​ฟ้า”

“ที่นี่​ช่างงดงาม​ยิ่งนัก​ ทว่า​ที่นี่​ก็​ว่างเปล่า​จน​เกินไป​”

“พวกเรา​คิด​ว่า​ควรจะ​ทำให้​ที่นี่​ครึกครื้น​มากกว่า​นี้​สักหน่อย​ ดังนั้น​พวกเรา​จึงโปรย​เมล็ด​พันธ์​ชีวิต​เอาไว้​ที่นี่​ พวกเรา​จะคอย​ดู​เมล็ดพันธุ์​ของ​พวกเรา​แผ่ขยาย​ไป​ทั่วหล้า​ ทว่า​เยี่ยง​ไร​เสีย​ พวกเรา​ก็​รอ​วันที่​มนุษย์​รุ่นใหม่​เติบโต​ขึ้น​มามิไหว​แล้ว​เช่นกัน​”

“พวกเรา​รอคอย​วัน​ที่จะ​มีคน​เดินทาง​มาถึงที่นี่​ พวกเรา​หวัง​ว่า​อารยธรรม​ของ​พวกเรา​จะได้รับ​การสืบทอด​ต่อไป​”

“พวกเรา​ลงมือทำ​สิ่งหนึ่ง​ขึ้น​มา ซึ่งก็​คือ​สร้าง​หอ​เทียน​จีขึ้น​มาใน​โลก​ใบ​นี้​ พวกเรา​สร้าง​ฐาน​นิวเคลียร์​ขึ้น​มาที่​ธาร​น้ำแข็ง​ใน​แดน​เหนือ​ พวกเรา​คาดการณ์​เอาไว้​ว่า​โลก​ใบ​นี้​จะดำเนิน​ไป​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​ ดั่ง​อารยธรรม​ของ​โลก​ใบ​นั้น​”

“พวกเรา​หวัง​ว่า​วันหนึ่ง​จะมีคน​เข้ามา​ที่​หอ​เทียน​จีชั้น​ที่​สิบ​แปด​ ที่นี่​มิใช่นรก​ ทว่า​ที่นี่​เป็น​จุดเริ่มต้น​ของ​อารยธรรม​ที่​พวกเรา​เคย​มี”

“……”

สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​เอ่ย​เสียง​แผ่ว​ นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มาแล้ว​เพ่งเล็ง​ไป​ที่​ใบหน้า​สยดสยอง​ของ​พระ​คาร์​นิ​ดัล​ “บูรพาทิศ​… ต้าเซี่ย…​ พวกเขา​คือ​ลูกหลาน​ของ​พระผู้เป็นเจ้า​ ! ”

“โบสถ์​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​… ธาร​น้ำแข็ง​ทางเหนือ​นั้น​… มัน​มิใช่โบสถ์​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ ! ”

“ทว่า​มัน​เป็น​ฐาน​นิวเคลียร์​ ! แต่​ฐาน​นิวเคลียร์​คือ​อัน​ใด​เล่า​ ? ”

“พวกเรา​ทุกคน​ถูก​สร้าง​ขึ้น​มาจาก​พวกเขา​ ! ”

“ทว่า​พวกเขา​เป็น​ผู้ใด​เล่า​ ? ”

พระ​คาร์ดินัล​ตกตะลึง​อยู่​ครู่ใหญ่​

ผ่าน​ไป​เนิ่นนาน​ เขา​จึงพึมพำ​ออกมา​ว่า​ “พวกเขา​คือ​ผู้บุกเบิก​ที่​กล่าวขาน​กัน​อย่าง​แพร่หลาย​ใน​รัฐ​วาติกัน​ ! ”

“ใน​วาติกัน​มีคำอธิบาย​เช่นนี้​ ว่า​กัน​ว่า​ผู้บุกเบิก​ได้​เดินทาง​มายัง​โลก​ใบ​นี้​เมื่อ​พัน​ปีก่อน​ พวกเขา​นำ​แสงสว่าง​มาให้​และ​พวกเขา​ได้​สร้าง​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​”

“มัน​เป็น​เรื่องจริง​สินะ​ ! ”

“พวกเขา​ได้​เดินทาง​มาถึงแดน​บูรพา​…ที่นั่น​จึงเป็น​ถิ่นกำเนิด​ของ​มวลมนุษย์​ทั้งหลาย​ ! ”

“บัดนี้​ชาว​บูรพา​เดินทาง​มาถึงที่นี่​แล้ว​ พวกเขา​มีอารยธรรม​ที่​ล้ำหน้า​ พวกเรา​มิใช่คู่ปรับ​ของ​พวกเขา​ พวกเรา​มิควร​มอง​พวกเขา​เป็น​ศัตรู​ด้วยซ้ำ​…”

สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ลุกขึ้น​ยืน​ “ข้า​จะไป​หยุดยั้ง​ศึก​ครา​นี้​ ! ”

……

รัชสมัย​ต้าเซี่ย​ที่หก​ เดือน​เจ็ด​ วันที่​สิบ​ กองทัพเรือ​ได้​เดินทาง​มาถึงน่านน้ำ​ฝูหล่า​งจี

เรือรบ​จำนวน​ 150 ลำ​ได้​จอด​เทียบท่า​ ฟู่เสี่ย​วกวน​กับ​จั่ว​มู่ยืน​อยู่​บน​หอ​สังเกตการณ์​ชั้นดาดฟ้า​ของ​เรือ​ฉางอัน​ เขา​กำลัง​มอง​กองเรือรบ​ที่​ดำทะมึน​เป็น​แถบ​อยู่​เบื้องหน้า​

“ครา​นี้​ค่อนข้าง​เยอะ​เลย​ทีเดียว​ เจ้าวางแผน​จะรบ​เยี่ยง​ไร​ ? ”

จั่ว​มู่วาง​กล้องส่องทางไกล​ลง​แล้ว​ยิ้ม​ร่า​ “ก็​แค่​สอง​ร้อย​กว่า​ลำ​ นาน​สุดคิด​ว่า​สงคราม​จะเสร็จสิ้น​ภายใน​สามถึงห้า​วัน​”

ฟู่เสี่ยว​กวน​พยักหน้า​เล็กน้อย​ “ใช่ ! เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​สอง​เดือน​ เยี่ยง​ไร​ศึก​ครา​นี้​ก็​ต้อง​จบ​ลง​ มิทราบ​เช่นกัน​ว่า​บัดนี้​พวก​กวน​เสี่ยว​ซีอยู่​ที่ใด​กัน​แล้ว​”

“แต่​การ​ที่​ศึก​ครา​นี้​สิ้นสุดลง​ก็​มิได้​หมายความว่า​ศึก​พิชิต​แดน​ไกล​ครา​นี้​จะสิ้นสุดลง​”

“หลังจากนี้​ ข้า​หวัง​เป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​สมเด็จ​พระราชินี​แห่ง​ฝูหล่า​งจีผู้​นั้น​จะมิปลุกระดม​ให้​ราษฎร​ของ​นาง​ลุกฮือ​ขึ้น​มาต่อต้าน​…”

เรือรบ​ของ​แต่ละ​ฝ่าย​เตรียมพร้อม​ที่จะ​เผชิญหน้า​กัน​

ในขณะที่​จั่ว​มู่กำลังจะ​ประกาศ​ให้​โจมตี​ อยู่ ๆ​ ฟู่เสี่ย​วกวน​ก็​เอ่ย​ปราม​เขา​

“ช้าก่อน​ เจ้าดู​นั่นสิ​ ! ”

จั่ว​มู่ยก​กล้องส่องทางไกล​ขึ้น​มามองดู​…

กองทัพ​ของ​อีก​ฝ่าย​มีการเคลื่อนไหว​ช้า ๆ ทว่า​มิใช่การ​เคลื่อน​มาข้างหน้า​ แต่​เคลื่อน​มาสอง​ฝั่งซ้าย​ขวา​แทน​

ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​หลังจากนั้น​เรือรบ​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​ก็ได้​แยก​ออก​เป็น​สอง​ฝั่งแล้ว​เว้น​ช่องว่าง​ขนาดใหญ่​ไว้​ตรงกลาง​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)