ตอนที่ 1385 แดนขั้วโลก
รัชสมัยต้าเซี่ยที่เจ็ด เดือนห้า วันที่แปด
ยามเช้าตรู่ เรือฉางอันที่จอดอยู่ในที่ท่าเรืออิงเทียนได้ส่งเสียงแตรดังลั่น
ฟู่เสี่ยวกวนยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือฉางอัน พลางทอดสายตามองเมืองอิงเทียนที่พอเห็นเป็นเงาอยู่ราง ๆ จากนั้นก็รับกล่องดำมาจากมือของไป๋ยู่เหลียน
“มิใช่ว่าข้ามิอยากพาเจ้าไปด้วย ! ”
“เสี่ยวไป๋เอ๋ย”
ฟู่เสี่ยวกวนรับกล่องดำมาจากไป๋ยู่เหลียนแล้วส่งให้หนิงซือเหยียน เขาตบบ่าของไป๋ยู่เหลียนเบา ๆ พร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้เขา
“ปีนั้น ตอนที่พวกเราเดินทางออกมาจากเรือนซีซาน พวกเราร่วมดื่มสุราด้วยกัน และเคียงบ่าเคียงไหล่ออกรบด้วยกัน แม้ว่าข้าจะเรียกเจ้าว่าเสี่ยวไป๋ ทว่าในใจของข้าเห็นเจ้าเป็นพี่น้องมาโดยตลอด เจ้าคือพี่ไป๋ของข้า ! ”
“ในเมื่อสายลับทหารได้ไปสืบมาแล้วว่าสถานที่ที่ห่างไกลออกไปราวหนึ่งพันลี้มีประเทศอื่นตั้งอยู่ เช่นนั้นแล้วดินแดนที่พวกเราก่อตั้งขึ้นมา จำต้องมีทหารที่แข็งแกร่งคอยพิทักษ์รักษา”
“เจ้าใช้เวลาสามปีสร้างกองทัพดาบเทวะขึ้นมาใหม่ที่นี่ พวกเขาต้องการเจ้าเป็นผู้นำ และก็มีเพียงแค่เจ้าเท่านั้นที่สามารถเป็นผู้นำได้ ! ”
“เจ้าดูแลสถานที่แห่งนี้เอาไว้ให้ดี แล้วรอข้ากลับมา ! ”
ครานี้ไป๋ยู่เหลียนมิได้มีปากเสียงกับฟู่เสี่ยวหวน เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถึงจะพยักหน้า
“ข้าจะรอเจ้ากลับมา ! ”
“อืม…หลังจากที่ข้ากลับมาแล้ว พวกเรามาดื่มสุราร่วมกันสักหน่อย ! ”
“ตกลง ! ”
ไป๋ยู่เหลียนเดินลงไปจากเรือ
เขาหันหลังให้ฟู่เสี่ยวกวนแล้วโบกมือลา ทว่ามิได้เดินออกไปแต่อย่างใด เขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
เรือฉางอันได้แล่นออกไปจากท่าเรือแล้ว
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ไป๋ยู่เหลียนถึงจะหันหน้ากลับมา เขาทอดสายตามองไปทางเรือฉางอันที่ลอยเคว้งอยู่ไกล ๆ กลางมหาสมุทร จากนั้นก็เอ่ยพึมพำว่า “เจ้าจะต้องกลับมาให้ได้ ! ”
“เขาจะต้องกลับมาอยู่แล้ว ! ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาข้างหูของไป๋ยู่เหลียน เขาหันกลับไปมอง เห็นบรรดาภรรยาของฟู่เสี่ยวกวนยืนอยู่ด้านหลัง
สวี่ซินเหยียนยืนมองมหาสมุทรด้วยจิตใจล่องลอย
นางเป็นคนที่อายุมากที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งหลาย โดยปกติแล้วนางค่อนข้างนิ่ง ทว่าบัดนี้หัวใจของนางกลับรู้สึกโหวง ๆ ชอบกล
และแล้วความทรงจำก็ไหลทะลักเข้ามาราวกับสายน้ำ เหมือนว่านางได้ย้อนกลับไปตอนที่อยู่เมืองจินหลิงอีกครา
การพบกันครานั้นได้เปลี่ยนแปลงชื่อของนางและชีวิตของนางไปตลอดกาล นางมิใช่คนของลัทธิจันทราอีกต่อไป นางกลายเป็นบุตรสาวของรองเสนาบดีกรมพิธีการ และกลายเป็นสตรีของเขา
นางได้อยู่เคียงข้างเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ภูเขาสูงใหญ่ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าเขาถูกเขาพังทลายลง ร่องน้ำลึกที่กว้างใหญ่ถูกเขาทำให้ราบเรียบ สำหรับนาง…มิว่าจะเป็นเรื่องใดเขาก็สามารถจัดการได้ทั้งสิ้น !
“ใช่ เขาจะต้องกลับมา ! ”
สีหน้าของสวี่ซินเหยียนแปรเปลี่ยนเป็นตั้งมั่นแน่วแน่ นางมิได้มีสีหน้าเศร้าสร้อยเหมือนตอนที่จากลา บัดนี้นางกลับมาสงบนิ่งดังเดิมแล้ว
“พวกเรากลับไปรอเขาที่บ้านกันเถิด ! ”
“ท่านแม่ไปที่ใดแล้วกัน ? ” หนานกงตงเซวี๋ยเอ่ยถามด้วยความตื่นตกใจ
หลิงเอ๋อร์ก้มศีรษะลง หลังจากที่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จึงตอบออกมาว่า “ท่านแม่กล่าวว่า… ท่านแม่กล่าวว่า…นางมีธุระจำเป็นต้องออกเดินทางเช่นเดียวกัน ข้าคิดว่า…คิดว่านางคงเป็นห่วงท่านพ่อ”
ท่านพ่อที่นางเอ่ยถึงก็คือฟู่ต้ากวน
บัดนี้ฟู่ต้ากวนกำลังพาศิษย์สำนักเต๋าและทหารพลเรือนนับพันนายเดินเท้าไปที่โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น
……
……
อู๋เทียนซื่อเดินตามความฝันที่สองไปยังทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่แห่งนั้น
“สถานที่แห่งนี้มิมีการเปลี่ยนผ่านฤดูกาลเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ความฝันที่สองเก็บเห็ดขึ้นมา แล้วตอบอู๋เทียนซื่อว่า “มีสิ ใกล้เข้ามาแล้วล่ะ”
อู๋เทียนซื่อชะงักงันไปชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยถามต่อว่า “ต่อไปคือฤดูใบไม้ร่วงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“มิใช่ ต่อไปคือความดำมืด…ความดำมืดในรอบหนึ่งพันปี”
“…เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นเล่า ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)