สรุปตอน ตอนที่ 142 อาหารพื้นบ้าน – จากเรื่อง นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet
ตอน ตอนที่ 142 อาหารพื้นบ้าน ของนิยายทะลุมิติเรื่องดัง นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 142 อาหารพื้นบ้าน
ฟู่เสี่ยวกวนไปยังเรือนพักอาศัยของหวางเอ้อ
บัดนี้ฟู่เสี่ยวกวนกับหวางเอ้อและหวางเฉียงได้นั่งดื่มชาร่วมกัน หลีเสี่ยวเหมยภรรยาของหวางเอ้อกำลังวุ่นวายกับการทำอาหารอยู่ในครัว
สำหรับครอบครัวของหวางเอ้อแล้ว ฟู่เสี่ยวกวนเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณของเขา ซึ่งในวันนี้ผู้มีพระคุณเดินทางมาหาตน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง
เพียงแต่พวกเขามิมีอาหารเลิศหรูราคาแพง มีเพียงผักหญ้าที่เก็บเกี่ยวมาตามป่าเขา พวกเขารู้สึกกังวลอย่างยิ่ง แต่บัดนี้มองดูคุณชายกินดื่มอย่างเอร็ดอร่อยมิมีทีท่ารังเกียจใด ๆ
“ช่วงนี้ภายในครอบครัวมีสิ่งใดติดขัดหรือไม่ ? ” ฟู่เสี่ยวกวนถามออกไปตามมารยาท
“ไม่มีขอรับ ต้องขอบพระคุณคุณชายที่สร้างเรือนอย่างดีให้พวกเราอาศัยอยู่ อีกทั้งผลผลิตในปีนี้มากกว่าปีก่อนหนึ่งส่วน คุณชายยังให้วัวควายสำหรับไถนา ทำให้พวกเรามิต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างมากทีเดียวขอรับ”
หวางเอ้อกล่าวออกมาจากใจจริงด้วยความซาบซึ้ง หากคุณชายมิได้สร้างที่พักอาศัยนี้ให้แก่พวกเขา หากไม่มีวัวควายสำหรับไถนา คาดว่าต้องใช้เวลาสามถึงห้าปีจึงจะดีขึ้นมาได้
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว หากมีสิ่งใดติดขัดจงบอกกล่าวกับข้า หรือถ้าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างไรก็ให้พวกเขาบอกกับข้าได้โดยตรง หากข้าช่วยเหลือได้ข้าจะช่วยเหลือเต็มที่……หวางเฉียงสร้างเรือนหอเรียบร้อยแล้วหรือ ? ”
“เรียบร้อยแล้วขอรับ แม้แต่เรือนเก่าของเสี่ยวเหมยเองก็ได้ซ่อมแซมด้วย”
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า มองดูแล้วปัญหาต่าง ๆ ของตระกูลหวางจัดการได้ดีทีเดียว
“งานแต่งงานของหวางเฉียงและเสี่ยวเหมยจัดขึ้นแล้วหรือยัง ? ข้าเดินทางไปเมืองหลวงใช้เวลานานพอควร”
“ยังมิได้จัดขอรับ ดูฤกษ์ยามเหมาะสมแล้วจะจัดขึ้นวันที่สิบสองเดือนสิบสองนี้”
“อืม เวลานั้นข้ายังคงอยู่ที่ซีซาน เมื่อถึงเวลาข้าจะมาดื่มร่วมยินดีด้วย”
หวางเฉียงยิ้มออกมาอย่างดีใจ คุณชายให้เกียรติเดินทางมาร่วมยินดีกับเขา ทำให้เขาซาบซึ้งใจยิ่งนัก
“ยินดีอย่างยิ่งขอรับ ตอนนี้พวกเรามีรายได้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก บุตรชายคนรองทำงานที่โรงปูนได้ค่าแรงวันละ 40 อีแปะ ข้าและพี่ชายก่อตั้งกลุ่มก่อสร้างขึ้นมา รับจ้างงานทั่วไป เราทั้งสองมีรายได้วันละเจ็ดแปดสิบอีแปะ ข้าและภรรยาคำนวณดูแล้วว่างานแต่งงานนี้จะจัดให้ดีที่สุด”
ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ชีวิตใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และจะดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ตนเองได้ทำความรู้จักกับฟู่เสี่ยวกวนโดยบังเอิญ และสนิทสนมกับคุณชายเนื่องจากป้ายจื่อนั้น ทำให้เขาเข้าใจนิสัยของคุณชายมากขึ้น อีกทั้งเข้าใจว่าครอบครัวตนหรือกระทั่งหมู่บ้านหวังเจียชุนก็ล้วนได้รับความเมตตาจากคุณชาย จึงทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้
งานแต่งงานนี้ ประการที่หนึ่งเนื่องจากหวางเฉียงมีเงินมากขึ้น ประการที่สองเนื่องจากจะทำให้คุณชายเสียหน้ามิได้ ดังนั้นต่อให้ตอนนี้พวกเขาไม่มีหมูสักตัว ก็จะต้องไปหาซื้อหมูมาให้ได้สัก 3 ตัว และเชิญพ่อครัวที่มีฝีมือที่ดีที่สุด จัดงานสามวันสามคืน ให้ลูกชายของตนต้อนรับเสี่ยวเหมยเข้าบ้านอย่างสมเกียรติ บัดนี้นางเป็นถึงผู้รับผิดชอบโรงกลั่นน้ำหอมที่ซีซานเชียว คุณชายให้ค่าตอบแทนวันละ 100 อีแปะ !
เรื่องงานแต่งนี้จึงจำเป็นจะต้องจัดใหญ่โตให้เสี่ยวเหมยพึงพอใจจึงจะดี
ทั้งสามพูดคุยกันในเรื่องราวที่ผ่านมาและในอนาคตที่จะถึง ฟู่เสี่ยวกวนมองไปมิได้เหมือนกับเจ้าของที่ดินแต่อย่างใด อีกทั้งเรื่องของการเพาะปลูกต่าง ๆ แลเหมือนจะชำนาญกว่าผู้ทำการเพาะปลูกมาทั้งชีวิตอย่างหวางเอ้อเสียด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ทำให้หวางเอ้อและหวางเฉียงเคารพนับถือยิ่งนัก ความรู้ใหม่หลาย ๆ อย่าง หวางเอ้อเรียกให้หวางเฉียงจดจำเอาไว้ในหัว เนื่องจากเขาทั้งสองไม่รู้หนังสือ
เช่น วิธีการเลี้ยงแม่พันธุ์หมู วิธีการฆ่าเชื้อโรคในเล้าไก่ อีกทั้งเรื่องการติดตาต่อกิ่งก็น่าอัศจรรย์เช่นกัน สามารถนำต้นไม้สองชนิดมาต่อกิ่งเข้าด้วยกันได้ หวางเฉียงคิดว่าคุณชายนั้นกำลังคุยโว แต่ก็วางแผนว่าหลังปีใหม่จะลองทำดู
จากนั้นหลีเสี่ยวเหมยก็สวมผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้เดินออกมา นางเช็ดทำความสะอาดโต๊ะแล้วกล่าวกับหวางเอ้อว่า “ท่านลุง เชิญคุณชายรับประทานอาหารเถิด”
ฟู่เสี่ยวกวนมิได้เกรงใจ เขากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแอบแฝงว่า “ยังมิแก้ไขคำเรียกอีกหรือ ? ”
สตรีทั้งสองนางมีท่าทีอึดอัดใจ พวกนางนำมือเช็ดกับผ้ากันเปื้อน จากนั้นดึงเก้าอี้ออกมานั่ง แต่มิกล้าหยิบตะเกียบ
ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะ “ข้อบังคับบางข้อก็จำต้องมีการปรับปรุง จากที่ข้ามองดู ข้าเองมิได้แตกต่างไปจากพวกท่าน เหตุใดจึงต้องแบ่งแยกชายหญิงกัน ทุกคนล้วนเท่าเทียม บัดนี้เสี่ยวเหมยเป็นผู้รับผิดชอบโรงกลั่นน้ำหอม นางมีความสามารถมากกว่าชายบางคนเสียอีก เหตุใดจึงจะร่วมโต๊ะมิได้ ? ”
หลีเสี่ยวเหมยกล่าวด้วยเสียงอันเบาว่า “เนื่องจากท่านเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวาง หากผู้อื่นมาพบเข้า จักนำไปนินทาได้”
เรื่องนี้ฟู่เสี่ยวกวนมิได้เถียงกลับไป เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับความคิดเห็นส่วนตัวของหลาย ๆ คน หากจะทำการปรับปรุงแก้ไข มิใช่เรื่องที่จะทำได้ในวันสองวัน
“เอาเป็นว่า หากข้าร่วมกินข้าวด้วย พวกเจ้าก็อย่าได้ทำตัวห่างเหิน มา ๆ ๆ ข้าได้กลิ่นหอมเช่นนี้ก็หิวเสียจนท้องร้อง รีบกินเถอะ”
ฟู่เสี่ยวกวนไม่มีพิธีรีตองมากมาย เขากล่าวจบก็ลงมือกินในทันที รสชาติอาจมิได้เลิศรสเสียไร้ที่ติ เนื่องจากวัตถุดิบมีจำกัด นอกจากเกลือแล้วพวกเขามิได้มีเครื่องปรุงอื่นอีก
หวางเอ้อหยิบตะเกียบขึ้นมา หวางเฉียงพยักหน้าให้เสี่ยวเหมย หลีเสี่ยวเหมยก็หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารให้ว่าที่แม่สามี ภรรยาของหวางเอ้อจึงได้เริ่มกินอย่างกังวล
ฟู่เสี่ยวกวนชื่นชอบยิ่งนัก เขาเอ่ยชมรสมือของเสี่ยวเหมยมิขาดปาก ทำให้เสี่ยวเหมยรู้สึกอาย
“เสี่ยวเหมย ต่อไปนี้เรื่องน้ำหอมเจ้าจงจัดการด้วยตนเอง วิธีการผสมน้ำหอมของเจ้ายอดเยี่ยมนัก สามารถเพิ่มประเภทของดอกไม้ให้มากกว่าเดิม ปีหน้าเจ้าจงไปแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์แก่ชาวบ้าน ให้พวกเขาได้เพาะปลูกกุหลาบในพื้นที่ขนาดใหญ่ อีกทั้งดอกมะลิด้วย สองกลิ่นนี้ใช้เป็นกลิ่นหลัก ส่วนอย่างอื่นเอาตามที่เจ้าเห็นสมควร ข้าจะมิเอ่ยถามใด ๆ ให้มากความ”
“หา ! ข้า…ข้า เกรงว่าจะมิได้”
“วางใจเถิด มีข้าเป็นผู้สนับสนุน เจ้าจะเกรงกลัวสิ่งใด ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)