ตอนที่ 188 ผลลัพธ์
“เจ้าคุกเข่าอยู่ตรงนี้และคิดให้ดี เมื่อไหร่ที่คิดออกแล้ว เมื่อนั้นก็ค่อยกลับไป เรื่องที่ฟู่เสี่ยวกวนมาขอพบนั้น ก็ให้ข้าผู้เฒ่าคนนี้ไปพบเจ้าเด็กหนุ่มนั่นเถอะ”
“อีกอย่าง ฝ่าบาทตัดสินใจที่จะประหารนักโทษโดยไม่ไต่สวนอีก นี่ก็ไม่ใช่ข่าวดีนัก เจ้าคิดถึงเหตุผลนั้นให้ได้หน่อยเถอะ”
นายผู้เฒ่าชือก็ลุกขึ้นยืน จับไม้เท้าแล้วเดินออกไป
ชือเฉาหยวนใช้โอกาสนี้ค้นหาสิ่งผิดปกติในรับสั่งของฝ่าบาทอย่างละเอียด
เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นที่อำเภอเหยา ฟู่เสี่ยวกวนได้รับผู้ลี้ภัยนอกอำเภอเหยามาสามหมื่นกว่าคน ซึ่งประจวบเหมาะที่องค์หญิงเก้ากับต่งชูหลานอยู่ที่ซีซาน
พวกนางเป็นสักขีพยานของเหยื่อที่เคราะห์ร้าย ดังนั้นจึงเขียนจดหมายหนึ่งฉบับส่งกลับมาที่เมืองหลวง
ต่อจากนั้นฝ่าบาทก็ทรงกริ้วเมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้ จำได้ว่าวันนั้นที่พระราชวังจินเตี้ยน ฝ่าบาททรงด่าว่าพวกขุนนางใหญ่อย่างไม่มีชิ้นดี แม้กระทั่งอัครเสนาบดีเยี่ยนเป่ยซีก็ไม่ละเว้นเช่นกัน
ในสถานการณ์เช่นนี้ ฝ่าบาทไม่ได้ปรึกษาหารือกับเสมียนกลาง แต่กลับออกราชโองการลงมาด้วยตนเอง แล้วยังแต่งตั้งตัวแทนพระองค์โดยตรง โดยที่ไม่มีเวลาให้ผู้คนได้คัดค้าน จากนั้นก็เริ่มการตรวจสอบอย่างครึกโครม
นี่เป็นเหตุการณ์ที่ฝ่าบาททำขึ้นมา
ส่วนพระสนมเอกซั่งกุ้ยเฟยก็ให้ความร่วมมือกับฝ่าบาทในที่ลับ โดยเรียกหัวหน้าตระกูลใหญ่ทั้งหกมาเข้าเฝ้า เพื่อกล่าวถึงการตัดสินใจของฝ่าบาท และกล่าวว่าหวังว่าพวกเขาจะให้ความร่วมมือ ระหว่างตัดข้อมือกับตัดชีวิต พวกเจ้าเลือกกันเอาเอง !
นี่เป็นคำพูดที่พระสนมเอกซั่งกุ้ยเฟยตรัสเอาไว้ ชือเฉาหยวนเชื่อว่าแต่ละตระกูลล้วนจำได้ขึ้นใจ
จากเหตุการณ์เล็กน้อย ได้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตมาจนถึงตอนนี้ได้
แม้ว่าปีก่อนฝ่าบาทจะมีรับสั่งให้พวกเขามารวมตัวกันอีกครั้ง และกล่าวว่าเนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวโยงเป็นวงกว้าง จึงกลัวว่าจะเป็นการทำลายรากฐานของบ้านเมือง ดังนั้นนักโทษเหล่านั้นจะประหารโดยที่ไม่ต้องไต่สวนอีก นี่คือสิ่งที่ทุกตระกูลได้รับฟัง เยี่ยงนั้นก็เท่ากับว่าเรื่องนี้ได้จบลงแล้ว อย่าไปสืบสาวเอาความอีก แม้ว่าทั้งหกตระกูลใหญ่จะได้รับความเสียหายกันไป แต่รากฐานก็ยังคงอยู่ วันข้างหน้าก็ยังคงออกดอกออกผลได้
การประนีประนอมของฝ่าบาทเป็นบทสรุปที่ดีที่สุด และในกระบวนการนี้ ทั้งหกตระกูลใหญ่เดิมทีก็ไม่มีอำนาจที่จะต่อต้านได้อยู่แล้ว
แต่เมื่อได้ยินที่บิดากล่าวในวันนี้ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะมีเบื้องลึกเบื้องหลังยิ่งกว่านั้น หรือว่า……ชือเฉาหยวนใจสั่นขึ้นมา คนพวกนั้นไม่น่าจะเหิมเกริมถึงเพียงนั้นหรอกนะ ?
มีคนอยากจะยืมโอกาสนี้เพื่อก่อกบฏ นี่เป็นเพียงความคิดชั่ววูบที่ผ่านเข้ามาในหัวของชือเฉาหยวน แต่เขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ไป เนื่องจากความคิดนี้มันช่างบังอาจเกินไป
ถ้าเช่นนั้นฟู่เสี่ยวกวนเป็นตัวละครเช่นไรในเรื่องนี้กันล่ะ?
ชือเฉาหยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด ฟู่เสี่ยวกวนเป็นคนที่เริ่มเรื่องนี้ขึ้น แต่กลับสอดคล้องกับความปรารถนาของฝ่าบาท และนโยบายการบรรเทาสาธารณะภัยของเขาก็เป็นวิธีที่ดีที่ทำให้ฝ่าบาทจัดการแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรมดาที่ฝ่าบาทต้องการใช้งานเขา และแน่นอนว่าก็มีบางคนที่อยากจะฆ่าเขาเช่นกัน
แต่ใครกันที่เป็นคนวางแผนลอบฆ่าฟู่เสี่ยวกวน ?
ที่แย่กว่านั้นคือเรื่องนี้ดันเกิดขึ้นหลังจากที่ตนเพิ่งมีเรื่องกับฟู่เสี่ยวกวนที่พระราชวังจินเตี้ยน ไม่ว่าจะมองจากด้านไหน ตัวเองคงหนีไม่พ้นต้องเกี่ยวข้องเรื่องนี้
ใครกันที่อยากให้ฟู่เสี่ยวกวนตายที่สุด?
เขาคิดถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมา แต่กลับเชื่อได้ยาก
องค์ชายใหญ่ !
ท่านพ่อขอเข้าเฝ้าพระสนมเอกซั่งกุ้ยเฟยและขอให้องค์ชายห้าทำลายกิจการทั้งสองแห่งนั้นของตระกูลชือ เพื่อแสดงให้ซั่งกุ้ยเฟยเห็นว่าตระกูลชือไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารฟู่เสี่ยวกวนเลย
หากมองเข้าไปให้ลึกอีก การเคลื่อนไหวของท่านพ่อก็เท่ากับเป็นการบอกให้ทุกคนรู้ว่าตระกูลชือเป็นคนลอบสังหารฟู่เสี่ยวกวนเอง !
นี่ไม่ขัดแย้งกันหรือ เนื่องจากท่านพ่อขอเข้าเฝ้าพระสนมเอกซั่งกุ้ยเฟย เรื่องนี้ย่อมเป็นความลับ และพระสนมเอกซั่งกุ้ยเฟยก็ให้องค์ชายห้าไปจัดการสถานที่สองแห่งนั้น นี่ก็เป็นการทำให้ทุกคนได้เห็น
ในมือขององค์ชายห้าถือหอชิงเฟิงซี่หยู่อยู่ ดังนั้นเขาจึงลงมือกับตระกูลชือได้อย่างง่าย แต่ตระกูลชือก็ยังคงสงวนท่าทีมาจนบัดนี้ ถ้าเช่นนั้นก็เท่ากับว่าตระกูลชือก็คือมือมืดที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารฟู่เสี่ยวกวน
การที่ตระกูลชือแบกรับความผิดนี้ไว้ ก็เพื่อให้ความสำคัญกับฉากที่อยู่ในกระดานนี้
ถ้าเช่นนั้น ใครกันที่เข้ามาร่วมกระดานนี้ ?
ชือเฉาหยวนคิดตกกับปัญหาบางส่วนแล้ว แต่ยังมีส่วนที่ลึกลงไปอีก ที่ตนยังมองไม่ทะลุ
……
ประตูจวนชือเปิดออก ชืออีหมิงรับคำสั่งจากท่านปู่และตอนนี้ก็ยืนมองพายุหิมะอยู่ที่หน้าประตู รอการมาถึงของฟู่เสี่ยวกวน
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เป็นเวลากว่าสิบปีแล้วที่ท่านปู่ไม่ได้สนใจเรื่องราวในตระกูลชือ ในช่วงระยะเวลาสิบปีนี้ล้วนเป็นท่านลุงที่ดูแลตระกูลชืออยู่
วันนี้การมาเยี่ยมเยียนของฟู่เสี่ยวกวนก็เป็นแค่เรื่องเล็ก ทำไมถึงทำให้ท่านปู่ต้องออกหน้าได้ ?
หรือว่าเป็นเพราะร้อยแก้วบทนั้นเมื่อวานนี้ ?
ร้อยแก้วบทนั้นแม้ว่าจะดีมาก แต่ก็ไม่น่าทำให้ท่านปู่ต้องมาต้อนรับเขาด้วยตัวเองเลย !
ในระหว่างที่ชืออีหมิงกำลังสับสนกับความคิดอยู่นั้น รถม้าของฟู่เสี่ยวกวนก็มาถึงตระกูลชือแล้ว ในใจของเขาค่อนข้างเสียใจ โจรพวกนั้นที่แท้ก็มิได้โง่เขลาจนเกินไป
เมื่อลงจากรถม้า ชืออีหมิงก็กำมือคำนับอย่างสุภาพ ฟู่เสี่ยวกวนก็คำนับตอบกลับเช่นกัน
“ยังคงเป็นคำพูดประโยคนั้นที่เมื่อวานได้กล่าวไป แม้ว่าร้อยแก้วของเจ้าจะดี แต่ตัวเจ้านั้น ข้าก็ยังคงไม่ชอบอยู่ดี แต่ข้าได้รับคำสั่งจากท่านปู่ให้รอเจ้าอยู่ที่นี่ ซึ่งนี่ไม่ใช่ความต้องการของข้าเลย ดังนั้นเจ้าก็อย่าได้ยินดีเกินกว่าเหตุไปเลย”
ฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกขำในใจ เจ้าเด็กนี่นิสัยค่อนข้างดี แต่ดื้อรั้นไปหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)