ตอนที่ 21 เดือนหกวันที่หนึ่ง
รัชสมัยเซวียนลี่ปีที่แปด เดือนหกวันที่หนึ่ง ฟ้าโปร่ง
วันนี้คือวันที่หยู๋ฝูจี้จะวางจำหน่ายเซียงเฉวียนและเทียนฉุน สุราทั้งสองชนิดนี้ออกสู่ตลาด แต่เดิมชุนซิ่วคิดว่าคุณชายจะต้องไปที่ร้าน นางถึงขั้นเตรียมรถม้าไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่แล้วคุณชายกลับไม่ไป
ฟู่เสี่ยวกวนกำลังดูบัญชีรายชื่อ ที่ให้พ่อบ้านจางเช่อของเรือนซีซานรวบรวมรายชื่อนายช่างไว้เมื่อหลายวันก่อน
มีทั้งช่างหินช่างไม้ช่างสีช่างสานช่างตัดผมมีแม้กระทั่งคนฆ่าหมูและอื่น ๆ อีกมากมายนัก
ฟู่เสี่ยวกวนอ่านอย่างถี่ถ้วน คิ้วขมวดบ้างเป็นบางครั้ง หลุดยิ้มบ้างเป็นบางครา ผ่านไปครึ่งชั่วยามถึงได้วางรายชื่อเหล่านั้นลง แล้วลุกขึ้นเดินไปเดินมาอยู่ในเรือนราวกับว่าเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ และนั่งลงอีกครั้ง เขาถือพู่กันขึ้นมาและวงลงไปที่ช่องหนึ่ง
เฟิ๋งหล่าวซื่อ อายุ 46 ปี อาชีพช่างหิน เพราะภัยแล้งทางตอนเหนือจึงได้ย้ายมาที่หมู่บ้านเสี้ยชุนในรัชสมัยเซวียนลี่ปีที่ 1 ครอบครัวมีภรรยาชื่อยวี๋ชื่อ มีบุตรชาย 2 คน คนโตนามเฟิ๋งตง เชี่ยวชาญทางด้านแกะสลัก ส่วนคนน้องนามเฟิ๋งซี แข็งแกร่ง แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านใด เฟิ๋งหล่าวซื่อสามารถแยกแยะคุณภาพของหินได้ เข้าใจพื้นที่ของภูเขาและวัสดุหินที่อยู่ในรัศมีสิบลี้ของหมู่บ้านเสี้ยชุน และนี่คือข้อมูลทั้งหมดของเฟิ๋งหล่าวซื่อ
“ซิ่วเอ๋อร์ พู่กัน แท่นหมึก กระดาษ ข้ากำลังรอเจ้าอยู่”
“เจ้าค่ะ”
ฟู่เสี่ยวกวนลงพู่กันเพื่อเขียนจดหมายให้กับจางเช่อหนึ่งฉบับ เพื่อให้จางเช่อพาเฟิ๋งหล่าวซื่อมาพบที่จวนฟู่
“ส่งสิ่งนี้ออกไป”
“เจ้าค่ะ… คุณชาย วันนี้คือวันที่หนึ่งเดือนหก” ชุนซิ่วรับจดหมายนั้นมาแต่ยังไม่ไปไหน
“ข้าทราบ แล้วมีอันใด?”
“หยู๋ฝูจี้เปิดขายสุราเซียงเฉวียนและเทียนฉุนวันแรก ท่านจะไม่ไปหรือเจ้าคะ” ชุนซิ่วร้อนรนเล็กน้อย
“โอ้ ไม่มีอันใดให้น่าไป พวกหวงหลงจู๊สามารถจัดการกันเองได้”
ชุนซิ่วเม้มริมฝีปากไว้ไม่กล้าพูดอันใดและหันหลังออกไป ในใจกำลังครุ่นคิดว่าคุณชายมีความมั่นใจอยู่เต็มอกหรือว่ากำลังกังวลว่าที่แห่งนั้นจะกลายเป็นที่หนาวเหน็บเกินไปกัน?
จวนฟู่กำลังถูกจับตามองจากผู้คนจำนวนมาก คุณชายทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในครานี้ หากในวันนี้หยู๋ฝูจี้ ณ ที่แห่งนั้นขายสุราไม่ได้แม้แต่ขวดเดียวแล้วล่ะก็… คุณชายจะโดนโจมตีหรือไม่?
คิดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ชุนซิ่วจึงตัดสินใจแอบออกไปสังเกตการณ์ที่หยู๋ฝูจี้ด้วยตนเอง
ฟู่เสี่ยวกวนกลับมาที่ห้องอักษรและเตรียมแต่งความฝันในหอแดงของเขาต่อ เพิ่งจะแต่งได้ถึงบทที่ 5 เพียงเท่านั้นเอง
ว่าแต่ชุนซิ่วไปใหนแล้วเล่า ?
เหตุใดนางยังมิกลับมาอีก ?
นางช่างเป็นผู้ที่เชื่อถือมิได้เสียเลย !
ฟู่เสี่ยวกวนจึงทำได้เพียงฝนหมึกด้วยตนเอง หลังจากนั้นก็นั่งลงแล้วจับพู่กัน จากนั้นก็เขียนลงบนกระดาษว่า
“บทที่ 6 เจี๋ยเป่าหยูลิ้มลองรสรักครั้งแรก ท่านยายหลิวจากจวนหรงกั่ว”
“…ยามที่สีเหรินเข้ามามัดกางเกงให้กับเขา เพียงยื่นมือไปแตะที่ต้นขา ก็สัมผัสได้เพียงความเย็นเยือกและเหนียวเหนอะ จึงตื่นตกใจจนต้องรีบถอนมือกลับ…”
บทนี้ฟู่เสี่ยวกวนแต่งไปได้อย่างรวดเร็ว เนื้อเรื่องที่เหมือนกับภาพยนตร์เหล่านั้นแล่นผ่านเข้ามาในศีรษะของเขา พู่กันยังคงโลดแล่นอยู่บนกระดาษ โดยไม่มีหยุดชะงัก
จากนั้น… ก็มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาจากทางหน้าต่าง
“คุณชายเจ้าคะ! คุณชาย!”
ชุนซิ่วพุ่งตัวมาราวกับสายลม และได้ขัดความคิดที่กำลังไหลลื่นของฟู่เสี่ยวกวนไปในทันที
แม่นางคนนี้…
ฟู่เสี่ยวกวนวางพู่กันลงและหาได้ตำหนิชุนซิ่วไม่
“คุณชายเจ้าคะ…”
ชุนซิ่ววิ่งเข้ามา ใช้มือหนึ่งตบหน้าอก อกที่สั่นเทาสงบลงอย่างช้า ๆ นางสูดลมหายใจลึก ๆ พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอไป ก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า “คุณชายเจ้าคะ ตรอกฉือปาหลี่… คลาคล่ำไปด้วยผู้คนแล้วเจ้าค่ะ”
หยู๋ฝูจี้ตั้งอยู่ที่ตรอกฉือปาหลี่
ฟู่เสี่ยวกวนมองชุนซิ่วด้วยความขบขัน สาวน้อยคนนี้ เวลาปกติหาได้สนใจสิ่งใดไม่ คาดไม่ถึงว่าจะมีท่าทางแตกตื่นเช่นนี้
“นี่มิใช่เรื่องปกติหรอกหรือ”
“คุณชายทราบหรือเจ้าคะ?”
“ย่อมทราบ”
“ข้าฝ่าผู้คนเข้าไปดูแล้ว หวงหลงจู๊ให้ข้ามาถามท่านว่า สามารถเพิ่มปริมาณจำกัดให้สูงขึ้นอีกได้หรือไม่ มีลูกค้าบางรายเดือดดาลเป็นอย่างมาก กล่าวว่าเซียงเฉวียนได้เพียงครึ่งชั่ง เทียนฉุนได้เพียงสามเหลียง น้อยเกินไปแล้ว ฉะนั้นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าได้หรือไม่เจ้าคะ”
“ย่อมไม่ได้ เจ้าจงจำไว้หนา ขายได้เพียงตามที่กำหนดไว้เท่านั้น นอกจากนี้ก็ส่งคนไปดูไว้ เพื่อป้องกันมิให้มีคนมาซื้อเป็นครั้งที่สอง ส่งคนไปบอกหวงหลงจู๊ เมื่อถึงเวลาให้ปิดทันที”
“เจ้าค่ะ”
ชุนซิ่ววิ่งออกไปอีกครา ฟู่เสี่ยวกวนกลับมารวบรวมอารมณ์อีกครั้ง และเริ่มเขียนความฝันในหอแดงของเขาต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)