ตอนที่ 252 ออกจากเมืองจินหลิง
การเดินทางในครานี้ ผู้ที่รับหน้าที่คุ้มกันคือราชองครักษ์ทหารม้า 500 นาย
โดยมีหัวหน้าคือลูกน้องของฮั่วหวยจิ่น นามว่าเซวียผิงกุย อายุอานามประมาณ 30 ปี เกิดที่เมืองฉีโจว มิได้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง
เขาจัดให้อัศวินชุดดำจำนวน 300 นายเดินนำขบวน และอีก 200 นายปิดท้ายขบวน และเมื่อพวกเขามาถึงข้างรถม้าขององค์หญิงเก้า แน่นอนว่าพวกเขาเคยได้ยินเรื่องราวของฟู่เสี่ยวกวนและองค์หญิงเก้ามาก่อน แต่ก็รู้สึกว่าการที่ฟู่เสี่ยวกวนร่วมนั่งในรถม้าขององค์หญิงช่างเป็นเรื่องที่มิถูกมิควร
แต่พวกเขายังจำคำพูดของนายพลฮั่วได้เป็นอย่างดีว่า การเดินทางไปราชวงศ์อู่ในครานี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดให้ทำตามคำสั่งของฟู่เสี่ยวกวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องดูแลปกป้องเขา อย่าให้เกิดเรื่องอันใดขึ้น !
ฟู่เสี่ยวกวนนั่งอยู่ด้านในกับองค์หญิงเก้า เขาทำสิ่งใดกันอยู่…เรื่องนี้จะให้ถามออกไปได้เยี่ยงไรเล่า
เขาขี่ม้าศึกขนาบข้างรถม้าขององค์หญิงเก้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงอันเบาว่า “ข้าน้อยเซวียผิงกุย มิทราบว่าคุณชายฟู่มีสิ่งใดให้รับใช้หรือไม่ขอรับ ?”
ฟู่เสี่ยวกวนกำลังกินองุ่นที่หยูเวิ่นหวินปอกเปลือกให้เขา แล้วตอบกลับไปว่า “ท่านแม่ทัพเซวีย ประเดี๋ยวรบกวนนำแผนที่มาให้ข้าดูสักหน่อย ส่วนเรื่องการหยุดพักหรือรับประทานอาหาร…เจ้าจัดการด้วยตนเองได้เลย”
อืม ช่างดูแลง่ายเสียจริง !
“ข้าน้อยรับทราบ ! ”
เขาหยิบแผนที่ออกมาฉบับหนึ่งแล้วส่งออกไป ฟู่เสี่ยวกวนรับมาดู เขาก็ได้เร่งฝีเท้าของม้าให้วิ่งนำไปยังหน้าขบวน
เขานึกอยู่ในใจว่า ฟู่เสี่ยวกวน ชายหนุ่มผู้นี้ได้ยินชื่อเสียงมานาน จากเหตุการณ์ที่ถนนสายยาว ความกล้าหาญของปัญญาชนคนหนึ่งได้แพร่หลายเข้าไปในกองทัพ ทำให้เหล่าทหารเองก็นับถือยิ่ง
หากเป็นพวกเขา การที่ต้องเผชิญหน้ากับบุตรชายของฮุ่ยชินอ๋องที่กำลังทำร้ายผู้อื่นอยู่เช่นนั้น พวกเขาจะกล้ายื่นมือเข้าไปวุ่นวายรึอย่างไรกัน ?
ปัญหานี้ท่านแม่ทัพฮั่วหวยจิ่นเคยได้กล่าวต่อหน้ากองทหารองครักษ์ และทหารทุกนายก็ได้แต่ถามตนเองอยู่ในใจ มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าตอบออกมา
เมื่อต้องพบเจอกับผู้มีอำนาจที่แข็งแกร่งแต่กลับไม่ก้มหัวยอมแพ้ มิใช่ว่าคนธรรมดาทั่วไปจะสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย !
แต่ทว่าฟู่เสี่ยวกวนกลับทำได้ อีกทั้งยังทำได้ดีเสียด้วย เขาชนะใจของทหารทุกนายแม้แต่ผู้ที่มิเคยพบ
เซวียผิงกุยเองก็เคารพยกย่องฟู่เสี่ยวกวน เขาตั้งใจว่าการเดินทางในครานี้จะต้องใส่ใจระมัดระวังเป็นพิเศษ คุ้มกันให้คุณชายฟู่ไปถึงราชวงศ์อู่ได้โดยสวัสดิภาพ
ภายในรถม้า ฟู่เสี่ยวกวนเปิดแผนที่วางลงบนโต๊ะแล้วอ้าปากกินองุ่นเข้าไป แต่รสชาติของมันค่อนข้างเปรี้ยว เขาโบกมือว่าพอแล้ว หลังจากนั้นมองดูแผนที่อย่างละเอียด
การเดินทางครานี้ระยะทางกว่าสามพันสองร้อยลี้ จากกำหนดการที่วางไว้ จะต้องเดินทางถึง 40 วัน พวกเขาจะไปถึงเมืองหยุนกุยซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งราชวงศ์อู่ในเดือนสามวันที่สิบห้าโดยประมาณ
เทศกาลฤดูหนาวจะถูกจัดขึ้นหลังจากเทศกาลตงจื้อ 105 วัน ในปีนี้ตรงกับวันที่ยี่สิบห้าเดือนสาม
หากว่าการเดินทางราบรื่น พวกเขาจะได้พำนักในเมืองหยุนกุยถึง 10 วัน
ฟู่เสี่ยวกวนนำนิ้วชี้ไปยังเส้นทางที่ผ่านมาและลากตรงไปเรื่อย ๆ ตามทาง จากนั้นหยุดลงที่ชายแดนระหว่างราชวงศ์หยูและราชวงศ์อู่ ด่านภูเขาฉีซาน !
เทือกเขาฉีซานยาวกว่าหนึ่งพันลี้ เมื่อผ่านด่านฉีซานมาก็คือทางเดินเท้าของภูเขาฉีซาน ทางเดินนี้…ฟู่เสี่ยวกวนลากนิ้วไปตามเส้น มันช่างยาวเสียจริง !
จากนั้นมือของเขาก็ย้อนวนกลับมายังตำแหน่งข้างภูเขาฉีซาน เป็นเมืองเล็กเมืองหนึ่ง แต่ชื่อของเมืองนั้นค่อนข้างจะเข้าใจง่าย มันชื่อว่าเมืองเปียนเฉิงหรือแปลว่าเมืองชายแดนนั่นเอง
เขาหยิบเอกสารปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เปิดดู จากนั้นหยิบเอกสารแผ่นหนึ่งออกมา
นี่คือข้อมูลของเส้นทางที่ก่อนหน้านี้เขาได้ให้หอซี่หยู่ไปตรวจมา
ดูจากแผนที่แล้ว เขารู้ว่าเมืองเปียนเฉิงมิใช่เมืองเล็ก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)