เหตุใดกัน ?
เพราะอาวุธนี้มิจำเป็นต้องใช้กำลังภายใน !
ฟู่เสี่ยวกวนมิมีกำลังภายใน แต่กลับใช้มันจนเกือบจะสังหารเป่ยหวังฉวนผู้มีชื่อเสียงคับฟ้าได้ !
เยี่ยงนั้น พลังภายในของมันแฝงไปด้วยพลังของผู้แข็งแกร่งแบบใดกัน ?
หรือว่าภายในจะถูกผนึกด้วยพลังของปรมาจารย์กัน ?
ของสิ่งนี้ได้โค่นล้มความคิดของซูเจวี๋ยและคนอื่นจนสิ้น
สิ่งที่เรียกว่าอาวุธ จำต้องปลุกเสกโดยกำลังภายในของผู้แข็งแกร่ง พวกมันจึงจะสามารถแสดงแสนยานุภาพที่แรงกว่าอาวุธอันอื่นได้
ตัวอย่างเช่นฉินของซูซู หรือคันธนูของเป่ยหวังฉวน หรือแม้แต่เลี่ยงเทียนฉือด้ามนั้นของสำนักเต๋า
บนโลกใบนี้มิมีสิ่งใดที่จะสามารถกำจัดอาวุธของปรมาจารย์ได้โดยมิใช้กำลังภายใน ดังนั้น พลังภายในของอาวุธชนิดนี้ ย่อมสาบสูญไปเนิ่นนานแล้ว มิมีผู้ใดที่รับรู้ถึงความลับนี้ได้
สีหน้าของซูเจวี๋ยเคร่งเครียดกว่าเดิม หันหลังกลับและมองไปยังทุกคน และกล่าวด้วยท่าทีจริงจังอย่างถึงที่สุด “เรื่องเกี่ยวกับอาวุธตัวนี้ อย่าได้แพร่งพรายออกไปเด็ดขาด”
เขาหันไปมองฟู่เสี่ยวกวนอีกครา “ตั้งแต่นี้ไป เจ้าเองก็ไม่สามารถยกขึ้นมาได้อีก คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก หากมีคนรับรู้ว่าอาวุธชนิดนี้สามารถคุกคามผู้แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์ได้ เชื่อข้าเถิด ผู้คนทั้งใต้หล้าจะแตกตื่นไปกับมัน ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า การปรากฏตัวของสิ่งนี้ในคืนนี้ เกรงว่าจะทำให้ยุทธภพต้องสั่นสะเทือน
เขาปิดล็อคกล่อง และส่งมันให้กับซูเจวี๋ย
“หมายความว่าเยี่ยงไร ? ”
“เจ้าสะพายไว้ ข้าจะได้วางใจ”
“…ได้ ข้าจะสะพายมันไว้เอง เจ้าสบายใจเถิด ! ”
…..
…..
ที่มาที่ไปของสิ่งนี้ บนโลกใบนี้มีเพียงต่งชูหลานที่รู้
ยามที่อยู่หลินเจียงเมื่อปีที่แล้ว นางได้ให้ทหารองครักษ์พาตัวเขาไปยังลำธารแห่งหนึ่ง และใช้ไม้ตะบองตีเขาจนสลบ หลังจากนั้นผู้คุ้มกันของนางก็พบว่าข้างกายของฟู่เสี่ยวกวนได้มีกล่องสีดำปรากฏตัวขึ้นมา
ผู้คุ้มกันนำของสิ่งนั้นกลับมาให้ต่งชูหลาน
ต่งชูหลานมิทราบว่านั่นคือของสิ่งใด จึงนำมันกลับไปยังเมืองหลวงด้วย
แรกเริ่มนางก็รู้สึกประหลาดมากยิ่งนัก จึงได้เชิญช่างกุญแจมากมายทั่วทั้งเมืองหลวงมาทดลองเปิดมันออก แต่กลับมิมีผู้ใดที่สามารถเปิดมันออกได้ เพราะมันมิมีรูกุญแจ
หลังจากนั้นก็เป็นตอนที่จะออกเดินทางไปยังราชวงศ์อู่ ฟู่เสี่ยวกวนได้เข้าห้องของนางเป็นคราแรก
ยังจำได้ว่าคืนนั้นฟู่เสี่ยวกวนมีความสุขที่ได้เห็นของสิ่งนั้น เขารู้จักเจ้ากล่องดำใบนี้ !
เขาเปิดกล่องดำนั้นออก เพียงแค่สัมผัสเท่านั้น มันก็เปิดออก !
นางเคยถามเขาแล้วว่านี่คือสิ่งใด เขากล่าวว่า…นี่คือศาสตราเทพ !
คำถามจึงได้เกิดขึ้น ในเมื่อเขามีศาสตราเทพที่แข็งแกร่งเยี่ยงนี้ไว้ในครอบครอง เหตุใดจึงถูกทหารยามที่ธรรมดาเหล่านั้นของตนตีจนสลบไปกัน ?
หรือว่าเขาจะจงใจกัน ?
แต่เหล่าทหารยามมิได้กล่าวว่ายามที่ลักพาตัวเขาไป เขาได้สะพายกล่องไว้ใบหนึ่ง
ต่งชูหลานนอนพลิกตัวไปมาด้วยอาการนอนไม่หลับ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าฟู่เสี่ยวกวนที่ตนเองคุ้นเคยได้เปลี่ยนจนแปลกไปเล็กน้อย
คิดว่าตนเองเข้าใจเขามากพอแล้ว แต่ราวกับว่าเขามีความลับที่ซ่อนอยู่อีกมากมาย
เขา…แท้จริงแล้วเป็นคนเยี่ยงไรกันแน่ ?
“เจ้ากำลังคิดถึงเขาอยู่รึ ?” หยูเวิ่นหวินพลิกร่างมา เผชิญหน้าและเอ่ยถามต่งชูหลาน
“เวิ่นหวิน เจ้าว่าหากมีวันหนึ่ง เขาเปลี่ยนไปจนเก่งกาจอย่างมาก…เปลี่ยนไปจนอยู่สูงเป็นพิเศษ แต่พวกเรากลับยังเหมือนเฉกเช่นในตอนนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วพวกเราจะดูต่ำต้อยเกินไปหรือไม่ ? เขายังจะปฏิบัติกับพวกเราเฉกเช่นในตอนนี้หรือไม่ ? ”
ไฟดับไปแล้ว กลางคืนมืดยิ่งนัก ยังคงมีเสียงฝนโปรยด้านนอกหน้าต่าง ที่นี่เงียบสงบมากยิ่งนัก
ผ่านไปเนิ่นนาน หยูเวิ่นหวินก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “ต่อให้เขาเปลี่ยนไปจนเก่งกาจยิ่งกว่าเดิม เขาก็จะยังปฏิบัติกับพวกเราดังเช่นวันวาน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)