นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 28

ตอนที่ 28 หยูเวิ่นหวิน

หลังจากพักรักษาตัวอยู่เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน ร่างกายของฟู่เสี่ยวกวนก็เริ่มดีขึ้นเล็กน้อย

แม้เมื่อคืนเขาจะมิไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ แต่ทว่าเขาก็ยังคงฝึกฝนชุดหมัดอยู่ที่ลานบ้าน อีกทั้งยังฝึกฝนทักษะมวยไทย ตบท้ายด้วยการวิ่งรอบลานบ้าน

ซูม่อนั้นตื่นมาแต่เช้าตรู่ เขายืนมองฟู่เสี่ยวกวนฝึกฝนชุดหมัด จากนั้นจึงมองดูฟู่เสี่ยวกวนวิ่งรอบลาน ทันใดนั้นเขาก็มีความประหลาดใจต่อชายหนุ่มผู้นี้

เมื่อคืนที่ฟู่เสี่ยวกวนไม่ได้นอนนั้น ตัวเขารู้ดียิ่ง กระทั่งรู้ว่าเหตุที่เขามิได้พักผ่อนนั้น ก็มาจากการอ่านคัมภีร์ฉุนหยางซินจิง สำหรับคุณชายในตระกูลพ่อค้าถือว่าเป็นผู้มีความขยันขันแข็งอย่างยิ่ง และน้อยคนนักจักเป็นเช่นนี้ อีกทั้งคน ๆ นี้ยังสามารถแต่งบทกวีได้ไพเราะยิ่งนัก

เพียงแต่หมัดที่เขาฝึกฝนนั้น ท่าทางการออกหมัดดูคล้ายกับเป็นระเบียบหนักแน่น แต่สำหรับซูม่อแล้วนี้เป็นเพียงหมัดแสนธรรมดาที่เรียนเชิญอาจารย์มาแสดงให้ดู แล้วตนนั้นก็ทำตามนิดหน่อยเท่านั้นเอง

ฟู่เสี่ยวกวนวิ่งไปในใจพลางนึกถึงเส้นลมปราณของร่างกายทีละจุดในคัมภีร์ฉุนหยางซินจิง จากนั้นก็ฝึกหายใจเข้าออกเป็นลำดับ เขาพยายามให้เส้นลมปราณเหล่านั้นทำงานขึ้นมา

หลังจากเขาวิ่งไปได้ 10 รอบก็พบเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ ในเช้าวันนี้เขาไม่รู้สึกเมื่อยล้าเช่นเมื่อวาน นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

พูดกันตามเหตุผล การที่เขามิได้นอนหลับพักผ่อนในคืนที่ผ่านมา ในวันนี้หากเขาสามารถวิ่งได้สัก 10 รอบก็นับว่าไม่เลวแล้ว หรือนี่คือผลของการฝึกลมปราณอย่างนั้นหรือ?

ฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกดีใจยิ่งนัก เขามิได้หยุดพักแต่กลับวิ่งได้ถึง 30 รอบ เขาถึงจะรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้า

หลังอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว เขาก็ร่วมรับประทานอาหารเช้ากับซูม่อ จากนั้นจึงนั่งสมาธิใต้ต้นไทร ทั้งสองมิได้เอ่ยคำใดออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ

พวกเขานั่งสมาธิเป็นเวลานานหลายชั่วยามจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ยอดไผ่ ฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ตามบันทึกในหนังสือนั้น เขามิได้รู้สึกถึงการไหลเวียนของลมปราณตรงบริเวณตันเถียน แต่เขามิได้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือรำคาญแต่อย่างใด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจที่แท้จริงของสำนักเต๋า ซึ่งจะฝึกฝนสำเร็จง่าย ๆ ได้อย่างไร

ชุนซิ่วนั่งอยู่บนเก้าอี้หินมองมายังฟู่เสี่ยวกวน ในใจนางนึกเพียงว่าหนังสือความฝันในหอแดงนั้นเมื่อใดจึงจะเขียนเสร็จ หรือจะล้มเลิกเพียงเท่านั้นแล้วหรือ ?

คุณชายกำลังทำอันใดอยู่กันแน่ ?

จะฝึกฝนเป็นเซียนหรืออย่างไร ?

ขณะที่ชุนซิ่วกำลังครุ่นคิดไปต่าง ๆ นานานั้น อี้หยู่ก็เดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน ชุนซิ่วรีบเดินหน้าไปต้อนรับ

ในสวนหลังบ้านที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่นี้ ชุนซิ่วกลายเป็นผู้ดูแลส่วนตัวของฟู่เสี่ยวกวนไปเสียแล้ว

“คนจากเรือนชินอ๋องเดินทางมา กล่าวว่าต้องการเข้าพบคุณชาย”

ชุนซิ่วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ในใจนางคิดว่าคำพูดที่แฝงความโกรธเคืองไม่พอใจของนางเมื่อคืนนั้น ทำให้ใครในจวนชินอ๋องมิพอใจหรือไม่ ?

ถ้าเช่นนั้นจักทำให้คุณชายต้องเดือนร้อนหรือไม่!

“คุณชายกำลังทำธุระ นำทางข้าไปดูเถอะ”

อี้หยู่ชายตาไปพบฟู่เสี่ยวกวนกำลังนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นไทร ก็ไม่เข้าใจนักว่าคุณชายของเขาทำสิ่งใดอยู่

เขาจึงเดินนำชุนซิ่วมายังด้านนอกลานกว้าง เรือนรับแขกมีเงาของสองคนนั่งอยู่ นั่นก็คือหยูเวิ่นหวินและหยูหงอี้ที่พบกันในงานเลี้ยงฉลองเมื่อคืนนั่นเอง “ข้าน้อยคารวะท่านทั้งสองเพคะ”

ชุนซิ่วทำความเคารพต่อหน้าทั้งสอง จากนั้นหยูเวิ่นหวินจึงได้เอ่ยถามว่า “คุณชายของเจ้าเล่า ? ”

“เรียนท่านทั้งสอง หากท่านมิพอใจในการกระทำอันเสียมารยาทของข้าน้อยเมื่อคืนนี้ ขอโปรดลงโทษที่ข้าน้อยด้วยเถิด คุณชายของข้าน้อยไม่ได้เป็นผู้สั่งการใด ๆ ท่านมิได้เกี่ยวข้องด้วย”

หยูเวิ่นหวินหัวเราะและเอ่ยว่า “ข้ามิได้เดินทางมาเพื่อจะกล่าวโทษเจ้าแต่ประการใด เพียงแค่ต้องการเข้าพบคุณชายเจ้าเท่านั้น”

ชุนซิ่วตกตะลึง นางมองไปยังรอยยิ้มอันอ่อนหวานของหยูเวิ่นหวิน ช่างจริงใจยิ่งนัก มิได้รู้สึกถึงการหลอกลวงเลยแม้แต่น้อย จึงตอบกลับไปว่า “ขอให้ท่านทั้งสองรอสักครู่ ข้าน้อยจะไปรายงานแก่คุณชายให้เจ้าค่ะ”

ชุนซิ่วรีบเดินออกไป หยูหงอี้ทำท่าทีรำคาญเล็กน้อย เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมาดมแล้ววางลงไปโดยมิได้ดื่ม ภายในใจคิดว่าเรือนเก่า ๆ นี้ช่างมีกฎระเบียบมากมายเสียจริง เขาเป็นถึงทายาทของชินอ๋องแต่กลับต้องมานั่งรอเยี่ยงนี้

เขาช่างไม่เข้าใจเสียจริงว่าเหตุใดองค์หญิงเก้าจึงได้เร่งรีบมายังจวนฟู่แต่เช้าตรู่

ในความคิดของเขานั้นเพียงแค่ให้คนมาเชิญ ฟู่เสี่ยวกวนก็ควรจะรีบเดินทางเข้ามาพบด้วยความยินดี?

ผ่านไปชั่วครู่ ชุนซิ่วรีบเดินออกมาแล้วกล่าวว่า “เรียนเชิญท่านทั้งสองเจ้าค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)