นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 281

ตอนที่ 281 ฟู่เสี่ยวกวนสุดยอดปรมาจารย์

กวนถงเปียกโชกไปทั้งร่าง บนใบหน้าของเขามีหยดน้ำฝนไหลลงมาเป็นทาง ปลายนิ้วของเขานั้นชี้ลงสู่พื้นธรณีและมีหยดน้ำฝนไหลย้อยลงมาเช่นกัน

ใบหน้าของเขานั้นซีดเซียวเล็กน้อย ปากของกำลังพึมพำบางสิ่งบางอย่าง แต่ทว่าในใจของเขากลับรู้สึกสงบยิ่งนัก

ณ เวลานั้นเองฟู่เสี่ยวกวนที่กำลังนั่งอยู่ในรถนั้นกำลังบำเพ็ญสมาธิเข้าสู่ช่วงที่สำคัญที่สุด

เขาสามารถกำหนดลมหายใจเข้ากับเส้นลมปราณได้แล้ว

มันช่างเป็นความรู้สึกที่สุดแสนจะบรรยาย เดิมทีนั้นไม่ควรมีอยู่ แต่กลับมีอยู่จริงและสามารถรู้สึกได้จริงอีกด้วย

เขาฝึกบำเพ็ญตนตามคัมภีร์พระสูตรเก้าหยาง และปฏิบัติตามคำแนะนำของซูเจวี๋ย เขาขับพลังลมปราณนั้นเข้าไปในจุดตันเถียน ทันใดนั้นราวกับได้มองเห็นเมฆหมอกลอยตัวขึ้น ณ จุดตันเถียนของเขา

หมอกนั้นยิ่งหนาขึ้นเรื่อย ๆ และลมหายใจตรงจุดลมปราณนั้นยิ่งทวีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ราวกับได้แปลสภาพเป็นลำธารเล็กที่ไหลเอื่อย มันไหลลงไปรวมที่จุดตันเถียนและก่อตัวเป็นหมอกทึบขึ้นมาอีกครา

และหลังจากนั้น…

หมอกทึบเหล่านี้ก็ได้กลั่นตัวเป็นสายฝน ราวกับตกลงมาจากฟากฝ้า ตกลงมาใจกลางจุดตันเถียน และค่อย ๆ รวมตัวกันเป็นแอ่งน้ำเล็ก ๆ แอ่งหนึ่ง

และนี่คือสสารแห่งกำลังภายใน เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเขาได้บรรลุข้ามผ่านธรณีประตูที่ยากที่สุดของการบำเพ็ญตนบรรลุเป็นจอมยุทธ์ได้สำเร็จแล้ว

เขานึกปิติขึ้นมาในใจ และยังคงปฏิบัติตามคัมภีร์พระสูตรเก้าหยาง และน้ำที่ตกลงรวมอยู่ในแอ่งน้ำนั้นได้เคลื่อนไหวตามทิศทางที่เขาบังคับไป และแผ่ซ่านไปในทุกเส้นลมปราณของร่างกาย หล่อรวมผสมเขากับลมหายใจที่รวยริน แล้วค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นทีละนิด ๆ

เขาหมกมุ่นอยู่ในความรู้สึกนั้นโดยไม่ได้สนใจโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย…

เมื่อยามที่อู่หลิงได้นำทัพหญิงหนึ่งพันนางตามมาถึงที่นี่ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

นางหันไปมองกวนถงที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน แต่หาได้เข้าไปถามไถ่ถึงสถานการณ์ไม่ แต่นางกลับเอ่ยถามเหวินชางไห่ที่ตอนนี้ลงมาจากรถแล้วมายืนข้างนางแทน “คุณชายฟู่อยู่ในที่แห่งนี้หรือไม่ ? ”

เหวินชางไห่คำนับพร้อมตอบคำถาม “อยู่ขอรับ แต่ทว่า…” เขารายงานเรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียด ครานี้อู่หลิงจึงได้รับรู้ถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น แล้วส่งสายตาที่เย็นชายิ่งกว่าเดิมไปทางกวนถง

นางลงจากม้าและเดินเข้าไปหาต้นตอของปัญหา กวนถงคำนับนางด้วยความรีบร้อน

กวนถงกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ คาดว่าในเมื่อองค์หญิงแห่งไท่ผิงทรงเสด็จมาด้วยตนเอง ครานี้ฟู่เสี่ยวกวนคงมิกล้ายโสโอหังถึงเพียงนี้ได้อีกต่อไป

“กระหม่อมเดินทางออกนอกเมืองมาราว 10 ลี้ หากแต่ตำแหน่งของกระหม่อมแสนต่ำต้อย วาจาของกระหม่อนนั้นแสนไร้ค่า ได้โปรดอย่าได้ทำการแตะต้องใต้เท้าฟู่ท่านนี้เลย กระหม่อมมีสภาพแสนอนาถาเยี่ยงนี้ ก็เพื่ออ้อนวอนให้ใต้เท้าฟู่ได้โปรดเห็นใจคนน่าเวทนาเยี่ยงกระหม่อม และยินยอมตามกระหม่อมกลับเมืองกวนหยุนเสียโดยดี”

วาจานี้กล่าวด้วยท่าทีซื่อสัตย์ยิ่ง กวงถงถึงขนาดยกแขนเสื้อมาปาดหยาดฝนที่ไหลย้อยตรงใบหน้า

วาจานี้เยี่ยงนี้ช่างลึกซึ้งยิ่งนัก เดินทางออกจากเมืองมาราว 10 ลี้ กล่าวเยี่ยงนี้ช่างเป็นการไว้หน้าของฟู่เสี่ยวกวนเป็นที่สุด ทว่าฟู่เสี่ยวกวนเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่ได้ไว้หน้าเขาเสียเลย ไม่แม้นแต่จะชายตามองเสนาบดีกรมพิธีการแห่งราชวงศ์อู๋ผู้นี้เสียด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าไม่แม้แต่จะเห็นแก่เกียรติขององค์จักรพรรดิเหวินตี้เลยแม้แต่น้อย

เขานึกคิดว่าประโยคนี้จะทำให้องค์หญิงไท่ผิงบันดาลโทสะได้ องค์หญิงไท่ผิงนั้นทรงพิโรธขึ้นมาดังที่คาดไว้มิผิด อีกทั้งยังพิโรธอย่างใหญ่หลวงเสียด้วย

แววตาขององค์หญิงยิ่งเย็นชามากยิ่งขึ้นไปอีก ราวกับมีเมฆดำปกคลุมอยู่บนใบหน้าที่ชวนหลงใหลนั่น

กวนถงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่ากลับมิคิดฝันว่าองค์หญิงไท่ผิงจะง้างมือเข้ามาตบเข้าที่หน้าตนอย่างจังจนเสียงดัง “เปรี้ยะ… ! ” ราวกับโดนเคาะกะโหลกเข้าอย่างแรง เขาได้ลิ้มรสหวานของโลหิตอยู่ข้างในปาก โลหิตสีแดงสดไหลออกมาจากมุมปากของเขาแล้วจึงหยดลงบนพื้นที่ชุ่มช้ำด้วยหยาดน้ำฝนวาดเป็นวงสีแดงราวกับดอกท้อ

เขายกมือขึ้นป้องหน้าตนเอง แววตาแสดงความหวั่นผวาขึ้นมา ศีรษะรู้สึกมึนงงเล็กน้อย

“องค์หญิง… ! ”

“เปรี้ยะ… ! ” หูของเขาดับไปอีกครา ครานี้เขารู้สึกตื่นขึ้นมาเต็มตา !

นี่องค์หญิงกำลังกล่าวโทษข้าที่ทำงานมิได้ความเยี่ยงนั้นรึ !

ข้าเป็นถึงเสนาบดีผู้ทรงเกียรติกลับต้องประจบประแจงอย่างไร้ศักดิ์ศรีต่อฟู่เสี่ยวกวน นี่มันทำให้เสื่อมเสียแก่เกียรติและศักดิ์ศรีของราชวงศ์อู๋ยิ่งนัก !

“กระหม่อมสำนึกผิดไปแล้วองค์หญิงขอรับ ! ” เขากลัวจนหัวหด แต่ในใจยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่องขึ้นมา ขอเพียงแค่องค์หญิงมีทัศนคติที่ตั้งมั่นมากพอ เจ้าฟู่เสี่ยวกวนก็คงจะได้ลิ้มรสของหายนะ !

“เจ้าทำสิ่งใดผิด เจ้ารู้หรือไม่ ? ”

“เวลานี้กระหม่อมมิควรอยู่ที่นี่เพื่อยื้อขบวนของฟู่เสี่ยวกวนเป็นอย่างยิ่ง ควรจะให้เขาเดินทางกลับไปเสียโดยดี กระหม่อมทำเช่นนี้ถือเป็นการทำให้เสื่อมศักดิ์ศรีแก่ราชวงศ์อู๋เป็นอย่างยิ่ง องค์หญิงโปรดลงโทษกระหม่อมด้วยเถิด ! ”

“หึ ๆ ”

อู่หลิงทำท่าทีเริงร่า แต่กลับง้างมือไปตบใบหน้าเขาอีกครา “เจ้ามันไอ้ลูกหมา ตนเองทำสิ่งใดผิดหาได้รู้ไม่ ! ”

เวลานี้กวนถงรู้สึกมึงงงมากยิ่งนัก มิใช่หรอกรึ มิใช่เพราะเหตุนี้หรอกรึ ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)