ดวงอาทิตย์ลอยเหนือท้องนภา ท้องฟ้ายังคงเป็นสีฟ้าสดใส
แสงแดดที่อบอุ่นแผ่ซ่านมาที่คฤหาสน์จิ้งหูแห่งนี้ ราวกับกำลังปลุกฤดูใบไม้ผลิที่กำลังหลับไหลอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงจักจั่นที่ใสดังกังวาลขึ้นมารอบด้าน
คูฉานดูสง่างาม เคร่งขรึมคฑาฉานที่อยู่ด้านหลังของเขาเกิดประกายเจ็ดสีใต้แสงแดด ประกายนั้นราวกับกำลังปกคลุมคูฉาน
เขานั่งอยู่ในจวนอย่างเห็นได้ชัด แต่ในสายตาของฟู่เสี่ยวกวน เงาของร่างนั้นกลับดูเลือนรางไปเล็กน้อย
มันสว่างจ้าจนทำให้ตาของเขาแทบจะบอด !
เกรงว่าไข่มุกเม็ดนั้นจะเป็นสมบัติที่ล้ำค่า
ต่อจากเสียงจักจั่นที่ดังกังวานขึ้นมา ทันใดนั้นร่างของคูฉานก็แผ่ประกายสีทองอร่ามออกมา มันเคลื่อนไหวออกมาคล้ายระลอกคลื่น แต่แล้วเขาก็เก็บกลับไปอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น แสงอันมีค่าบนร่างของเขาได้หายแล้วไป และประกายเจ็ดสีจากคทาฉานนั้นก็ได้หายไปด้วย
เขาในตอนนี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนอย่างไร้ที่เปรียบ ราวกับพระพุทธรูปสีขาวที่ผ่านการชำระล้างด้วยฝนฤดูใบไม้ผลิ
เขาลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ในดวงตามีประกายแล่นผ่าน เขาได้กลายเป็นพระอรหันต์ที่รูปงาม
คูฉานลุกขึ้นยืน หันหน้ามองไปทางฟู่เสี่ยวกวน สองมือยกขึ้นพนม และโค้งคำนับ “อาตมา คูฉาน ขอบคุณโยมที่มีจิตเมตตาสั่งสอนอาตมาให้บรรลุได้”
…..
…..
รถม้าห้าคันได้ออกไปจากคฤหาสน์จิ้งหู
สองคันรถม้าในกลุ่มนั้นติดตามเหวินสิงโจวไปยังจวนเหวิน อีกหนึ่งในนั้นคือฝานเทียนหนิงและคูฉาน ทั้งสองคนจะไปยังสถานทูตของแคว้นฝาน ส่วนอีกคันหนึ่งมีหยูเวิ่นหวิน ต่งชูหลาน และซูซู พวกนางต้องการไปยังจวนโหวเพื่อเข้าพบองค์หญิงรองหยูหยู ยามเว่ยพวกนางต้องการไปดูรอบ ๆ เมืองกวนหยุน เพื่อดูทำเลในการตั้งร้านค้า
บนรถม้าของฝานเทียนหนิง ทั้งสองคนได้สนทนากันว่า
“เจ้าจะเข้านิกายฝูจริง ๆ เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“พ่ะย่ะค่ะ หลังจากได้ฟังบทสวดพระโพธิสัตว์ ก็รู้สึกถึงบางอย่างขึ้นมาในใจ และตรัสรู้ถึงสัจธรรมบางอย่างขึ้นมาได้ทันพลัน”
“ลองเล่าให้ข้าฟังหน่อย ในตอนนั้นเจ้าจับสัมผัสอันใดได้บ้าง และได้รับสัจธรรมเยี่ยงไรมาบ้าง ? ”
คูฉานอ้าปากพะงาบ ในแววตาดูงุนงงเล็กน้อย…ข้าสัมผัสอันใดได้เยี่ยงนั้นหรือ และข้าได้รับสัจธรรมเยี่ยงไรน่ะหรือ ?
เขามิรู้หรอก มันช่างเลอะเลือนยิ่ง กลับกันในยามนี้เขากลับมีวรยุทธ์อย่างแท้จริง ในส่วนของกระบวนการนั้น เป็นกระบวนการที่สับสนและมึนงงมิสามารถอธิบายออกมาได้
ดังนั้นเขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “ทูลฝ่าบาท ในชั่วขณะนั้น ราวกับมีการรดน้ำมนต์ของพระไตรปิฎก ราวกับมีแสงแห่งพระพุทธลอยลงมาจากฟากฟ้า ราวกับมีเสียงสวดที่นุ่มนวลดังอยู่ข้าง ๆ หู ราวกับได้เห็นอาณาจักรพระธรรมสีทอง ราวกับได้ฟังบทสวดพระโพธิสัตว์มาสามภพสามชาติ”
ฝานเทียนหนิงอ้าปากค้างแต่กลับพูดอะไรไม่ออก ลึกลับเพียงนั้นเลยหรือ เพราะบทสวดพระโพธิสัตว์เยี่ยงนั้นหรือ ?
ฟู่เสี่ยวกวนนำบทสวดมาประพันธ์เป็นบทกวี เพื่อเผยแพร่คำสอนเยี่ยงนั้นหรือ ?
“บทสวดพระโพธิสัตว์มีจริงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
คูฉานจะไปทราบได้เยี่ยงไร แต่เขากลับพยักหน้ารับอย่างจริงจัง “มีจริง ๆ ! ”
“เยี่ยงนั้นคนที่เผยแพร่ใต้ต้นโพธิ์นั้นเป็นผู้ใดกัน ? ”
“…คาดว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า แต่จากที่ดูแล้วกลับเหมือนฟู่เสี่ยวกวน…คาดว่านี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ฟู่เสี่ยวกวนเป็นผู้กล่าวบทสวดพระโพธิสัตว์ ในใจของข้าเลยคิดถึงภาพของเขา”
“…” ฝานเทียนหนิงจ้องคูฉานเขม็ง หากผู้นำนิกายมาได้ยินคำเอ่ยเยี่ยงนี้ของเจ้าเข้า เจ้าจะต้องโดนตีก้นเป็นแน่ !
“แล้วเจ้าล่ะ ? หรือว่าเจ้าจะเป็นเด็กชายใต้ต้นโพธิ์นั่นกัน ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)