นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 352

สรุปบท ตอนที่ 352 แผนการลอบสังหาร: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

อ่านสรุป ตอนที่ 352 แผนการลอบสังหาร จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 352 แผนการลอบสังหาร คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 352 แผนการลอบสังหาร

ในขณะที่ฟู่เสี่ยวกวนกำลังตกตะลึงอยู่ ประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออก มีนางในหน้าตางดงามนางหนึ่งเดินออกมา

สายตาของนางกวาดมองไปยังทุกคนที่นั่น จากนั้นก็ได้หยุดลงตรงฟู่เสี่ยวกวน

นางเอียงศีรษะมองอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็คารวะอย่างงดงามพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าน้อยหวินกุย คารวะคุณชายฟู่”

“เจ้ารู้ได้เยี่ยงไรว่าข้าคือคุณชายฟู่ ? ”

หวินกุยยืดตัวตรงแล้วหัวเราะ “เนื่องจากในที่นี้ ท่านดูเยาว์ที่สุดน่ะสิ”

ดูเหมือนข้าจะเอ่ยถามคำถามโง่ ๆ ออกไปเสียแล้ว ! ฟู่เสี่ยวกวนยกมือขึ้นลูบจมูกของตนเอง จากนั้นหวินกุยก็ได้เอ่ยต่อไปว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าท่านจะมาอาศัยอยู่ที่นี่สักระยะ ข้าน้อยจึงได้จัดเตรียมห้องหับไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เชิญพวกท่านตามข้ามาเถิด”

……

……

ด้านในคุกแห่งเมืองกวนหยุนช่างมืดมิด กลิ่นเหม็นอับผสมกับกลิ่นคาวเลือดตีเข้าจมูกชวนให้อาเจียนยิ่งนัก

อู๋หลิงเอ๋อร์กลั้นหายใจเดินตามผู้คุมคุกเข้ามาจนถึงชั้นในสุด ที่นี่มีการคุมเข้มกว่าที่ใด ๆ แน่นอนว่านักโทษที่ถูกกังขังอยู่ในนั้นต้องสำคัญยิ่ง

นางจะต้องสอบถามขันทีเกา อดีตหัวหน้าขันทีผู้ยิ่งใหญ่ให้รู้แจ้งว่า แผนการที่ตั้งใจจะจัดการกับฟู่เสี่ยวกวนเหล่านั้น เป็นฝีมือของเสด็จแม่จริงเยี่ยงนั้นหรือ ?

นึกถึงสตรีที่ถูกกังขังไว้ในตำหนักเย็นผู้นั้น นางสูญเสียความสง่างามและความน่าเกรงขามไปเสียสิ้นแล้ว แม้ภายนอกมองไปจะดูสงบนิ่ง แต่ตรงกลางคิ้วทั้งสองที่ขมวดเข้ามาติดกันนั้นมิอาจปิดบังความผิดหวังและเศร้าโศกได้

สตรีผู้นั้นคือเสด็จแม่ของนาง นางหวังว่าจะมีความหวังอันเล็กน้อยที่จะสามารถช่วยเสด็จแม่ออกมาได้ มิใช่ในฐานะจักรพรรดินี แต่ในฐานะมารดาธรรมดา ๆ คนหนึ่งก็เพียงพอ

หากต้องการจะช่วยเหลือมารดาของนางออกมา ก็จะต้องให้ขันทีเกาเป็นผู้ยอมรับผิดทั้งหมด และนางเชื่อว่าขันทีเกาจะยอมรับความผิดนี้ เนื่องจากนางได้จับตัวบุตรชายของเขาเกาฟู่ลวี่ไว้ในกองทัพทหารหญิงแล้ว

เดิมทีนางตั้งตารองานชุมนุมวรรณกรรมที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ แต่บัดนี้นางมิอาจปลีกตัวออกไปได้ ฟู่เสี่ยวกวนจะประพันธ์กวีเช่นใดขึ้นมากัน ?

น่าเสียดายยิ่งที่มิมีโอกาสได้เห็นเขาโดดเด่นในสนามประลอง

ผู้คุมคุกเดินตรงมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องขังท้ายสุด จากนั้นก็หยิบกุญแจขึ้นมาไขประตู แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “องค์หญิง กระหม่อมให้เวลาได้เพียง 1 ก้านธูปเท่านั้น นี่คือสิ่งที่กระหม่อมทำเพื่อองค์หญิงได้มากสุดแล้ว มิเช่นนั้นหากฝ่าบาททรงรู้เข้า…”

“ไปเถิด ข้าเข้าใจดี”

นางก้าวเข้าไปด้านในห้องคุมขังอันมืดมิด เกาเสี่ยนถูกโซ่ตรวนเส้นใหญ่ล่ามเอาไว้ เขานั่งหันหลังเข้ากำแพงในมุมมืดนั้น

เดิมทีที่แห่งนี้ คือสถานที่ที่เขาใช้ควบคุมตัวนักโทษต่าง ๆ แต่บัดนี้ตนกลับเข้ามานั่งอยู่ด้านในฐานะนักโทษเสียเอง

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา เขาจึงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วหรี่ตามอง เมื่อพบว่าเป็นองค์หญิงไท่ผิงก็ทำให้เขารู้สึกตกใจยิ่ง เดิมทีเขาคิดว่าจะเป็นคนจากศาลต้าหลี่ หรืออาจจะเป็นขันทีเข้ามาประกาศพระราชโองการ

“ลุกขึ้นนั่งเถิด”

อู๋หลิงเอ๋อร์นั่งลงตรงโต๊ะเก่า ๆ ตัวหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยกับเกาเสี่ยนว่า “ข้ามิได้มาเพื่อช่วยเจ้า ข้ามาเพื่อถามคำถามกับเจ้าสักหน่อย”

เกาเสี่ยนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็พยุงตนเองเดินมานั่งลงที่โต๊ะนั้น เสียงโซ่เหล็กครูดกับพื้นชวนให้ขนลุกยิ่ง

“กระหม่อมมิมีสิ่งใดจะเอ่ยกับองค์หญิง”

สายตาของอู๋หลิงเอ๋อร์จ้องไปที่เกาเสี่ยนไม่กะพริบ “ฟู่เสี่ยวกวนคือบุตรนอกสมรสขององค์จักรพรรดิจริงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

เดิมทีนางมิได้ตั้งใจจะถามคำถามนี้ในตอนแรก แต่ทว่านางกลับเอ่ยถามขึ้นมาเป็นอันดับแรก

เกาเสี่ยนเผยอยิ้ม “ในเมื่อฝ่าบาททรงตรัสออกมาด้วยพระองค์เอง แน่นอนว่าต้องมิใช่เรื่องเท็จ”

“มีหลักฐานอื่นอีกหรือไม่ ? ”

“กระหม่อมคิดว่าองค์หญิงจะทรงเสด็จมาเพื่อเสด็จแม่เสียอีก คาดมิถึงว่าทรงมาเพื่อชายผู้นั้น หากองค์หญิงทรงต้องการหลักฐาน ควรจะเสด็จไปเข้าเฝ้าไทเฮา เนื่องจากบันทึกชีวิตในสามปีนั้นอยู่ในพระหัตถ์ของไทเฮามิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ ? ”

อู๋หลิงเอ๋อร์ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าไทเฮาแล้ว แต่ทว่าพระนางมิได้ประทับอยู่ในตำหนัก แม้แต่นางในรับใช้ก็มิรู้ว่าไทเฮาทรงเสด็จไปที่ใด

“ฮ่า ๆ ๆ…” เกาเสี่ยนหัวเราะออกมาด้วยเสียงดังกึกก้อง “องค์หญิง เกรงว่าท่านจะมิรู้จักเสด็จแม่ของตนดีพอ ! ”

อู๋หลิงเอ๋อร์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เสด็จแม่ถูกขังอยู่ในตำหนักเย็นแล้ว นางจะทำสิ่งใดได้อีกกัน ?

“กล่าวมา ! ”

“บัดนี้คาดว่าฟู่เสี่ยวกวนคงจะเดินทางไปถึงวันหานหลิงแล้ว องค์หญิงเพียงแค่ทรงให้สัญญาว่าจะมอบความปลอดภัยให้แก่บุตรชายข้า ข้าถึงจะบอกเรื่องที่น่าตกใจนี้ให้แก่ท่าน”

“เจ้ามิมีทางเลือกอื่น ! ”

“องค์หญิงผิดแล้ว กระหม่อมมีทางเลือก หากว่าบุตรชายของกระหม่อมถูกสังหาร ฟู่เสี่ยวกวนเองก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดไปได้ ! ”

เกาเสี่ยนนั่งหลังตรง สายตาไร้ซึ่งความแยแสของเขากล่าวว่า “องค์หญิงอย่าได้ทรงเสียเวลาไป เมื่อถึงตอนนั้นอาจสายเกินไปเสียแล้ว”

อู๋หลิงเอ๋อร์กัดฟันแล้วตอบว่า “ตกลง ข้าสัญญา ! ”

“เชิญองค์หญิงสาบาน”

“ข้าขอสาบานด้วยชีวิต หากว่าฟู่เสี่ยวกวนอยู่ดีมีสุข เกาฟู่ลวี่ก็จะปลอดภัยเช่นกัน”

“พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงทรงโปรดฟังให้ดี ที่หลังภูเขาวัดหานหลิง ภายในรูปปั้นพระพุทธรูปองค์ใหญ่นั้น มีหน่วยสอดแนมอยู่ 1,000 คนและทหารรักษาพระองค์อีก 3,000 คน อีกทั้งปืนใหญ่ 50 กระบอก และจะยิงออกไปในยามเว่ย เมื่อบัณฑิตทั้งหลาย…รวมตัวกันที่สนามแข่งขัน ! ”

อู๋หลิงเอ๋อร์รีบหันหลังจากไปโดยมิลังเลเลยแม้แต่น้อย

ยามเว่ยเยี่ยงนั้นหรือ บัดนี้ก็ยามอู่แล้ว ต่อให้ใช้ม้าไวก็คาดว่าคงมิทันการ

จะทำเยี่ยงไรดี ?

จิตใจของนางร้อนรนดั่งไฟ บัดนี้จึงได้คิดถึงคำเอ่ยของเสด็จแม่ขึ้นมาได้ ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้เป็นกลลวงเพื่อสังหาร !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)