ตอนที่ 379 คืนที่แสงดาวรุ่งโรจน์ ( 1 )
ยามเว่ย
หลิวหยุนถายในเวลานี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คน
เหวินสิงโจวและนักปราชญ์อีก 8 คนยืนอยู่บนเวทีด้วยท่าทางตื่นเต้น ด้านหลังที่พวกเขายืนอยู่คือขบวนทหารที่ในมือได้ถือรายชื่อสามอันดับแรกของผู้ชนะในงานชุมนุมวรรณกรรมในครานี้เอาไว้
บัดนี้ถึงเวลาแล้ว ต่อไปจะเป็นการประกาศคำตัดสินลำดับรายชื่อผู้ชนะงานชุมนุมวรรณกรรมนี้อย่างเป็นทางการ
แต่ว่า…
สายตาของเหวินสิงโจวสอดส่องไปยังกลุ่มผู้คน แต่กลับมิพบฟู่เสี่ยวกวน
บัณฑิตในงานชุมนุมวรรณกรรมครานี้ต่างยืนอยู่ด้านหน้าสุด แต่คนที่สายตาเป็นประกายเยี่ยงฟู่เสี่ยวกวนแน่นอนว่าควรจะยืนอยู่ตรงกลางด้านหน้าสุดในยามนี้ แต่พวกเขาได้มองหาไปทั่วทุกสารทิศ กลับมิเห็นแม้แต่เงาของฟู่เสี่ยวกวนเลยด้วยซ้ำ
เจ้าหนุ่มนี่จะเล่นลูกไม้อันใดอีก ?
ผู้รอคอยอย่างจัวตงหลายก็กำลังมองหาฟู่เสี่ยวกวนในฝูงชนเช่นกัน ในใจพลันคิดว่าเขาหน้าบางเกินกว่าจะเผชิญสถานการณ์เลวร้ายนี้เยี่ยงนั้นหรือ ?
ในใจของคุณหนูถังซานรู้สึกแปลก ๆ อยู่ตลอดเวลา
เดิมตั้งใจจะเหยียบย่ำอัจฉริยะฟู่เสี่ยวกวนแห่งราชวงศ์หยูให้จมผืนปฐพี แต่บัดนี้เขากลับกลายเป็นองค์ชาย คนผู้นี้จะเหยียบยากเกินไปหน่อยหรือไม่ ?
หากรู้ว่าเขาเป็นองค์ชายเร็วกว่านี้ ก็ควรจะไว้หน้าเขาบ้าง อย่างน้อยก็คงมิเป็นดังเช่นในตอนนี้ เขาเกรงว่าจะอับอายที่ต้องพบหน้ากันเสียแล้ว
บนหอคอยชั้นห้านั้นมีคนอยู่เพียงไม่กี่คน
ไทเฮาทรงประทับอยู่ที่นี่
และจักรพรรดิเหวินเองก็ประทับอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
นอกจากทั้งสองพระองค์แล้ว ที่แห่งนี้ยังมีอีกสองบุคคลอยู่ซ้ายขวา โดยมีเจ้าสำนักหอเทียนจีโจวถงถง และหลานสาวของหนานกงอี้หยู่…หนานกงตงเซวี๋ย
หนานกงตงเซวี๋ยกำลังต้มชา ทว่าก็ได้เห็นขันทีผู้น้อยเดินขึ้นมาบนหอคอยเร่งรีบ พร้อมกับส่งกระดาษหนึ่งแผ่นให้กับจักรพรรดิเหวิน
จักรพรรดิเหวินเปิดอ่าน ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นทันพลัน “เจ้าหนุ่มนี่…”
“มีอะไรหรือ ? ”
“ทูลเสด็จแม่ เจ้าหนุ่มนี่ไปขนของจากจวนเกาเสี่ยนจนว่างเปล่าแล้วพ่ะย่ะค่ะ ! ”
ไทเฮาตะลึงทันพลัน จากนั้นทรงพระสรวลออกมาเสียงดัง “ข้าบอกแล้วว่าเจ้าหนุ่มนี่น่าสนใจยิ่ง น่าสนใจอย่างแท้จริง เขาขาดเงินใช่หรือไม่ ? ”
“ข่าวกรองของหอเทียนจีรายงานว่า เขาเคยให้เงินเกาเสี่ยน 12,000 ตำลึงเพื่อซื้อข่าวเกี่ยวกับเป่ยหวังฉวน แต่เกาเสี่ยนทำงานมิสำเร็จ ดังนั้นเขาต้องคืนเงินจำนวนนั้น รวมไปถึงเก็บค่าผิดสัญญา”
“ค่าผิดสัญญานั้นเยอะมากใช่หรือไม่ ? ”
เกาเสี่ยนควบคุมสำนักในมาหลายปี สินทรัพย์ที่เก็บไว้นั้นมิอาจจะละเลยได้
“ยังมีอะไรอีกหรือไม่ อายเจียมิอยากจะเอ่ยอันใดให้มากความ เสนาบดีจัว อายเจียรู้สึกว่าของที่เขาเอาไปนั้นมีภาพอักขระโบราณที่มิเลวอยู่ เช่นนั้นท่านไปซื้อของพวกนั้นกลับคืนมาได้หรือไม่ ? ”
ไทเฮาทรงตรัสพระประสงค์ จิ้งจอกเฒ่าจัวเข้าใจได้ในทันที
เขารู้มาว่าฟู่เสี่ยวกวนทำให้เกาเสี่ยนถึงฆาต และก็ได้เข้าใจว่าเขาได้รับความเมตตาจากฟู่เสี่ยวกวน
ความเมตตานี้แน่นอนว่ามิอาจรับมาเปล่า ๆ ได้ ในเมื่อฟู่เสี่ยวกวนลงมือไปบุกปล้นจวนของเกาเสี่ยน คาดว่าเขาคงจะขาดแคลนเงิน เช่นนั้นตัวเขาต้องยอมเสียเลือดเพื่อชดเชยให้กับฟู่เสี่ยวกวนอย่างแน่นอน
“กระหม่อมเข้าใจแล้วและจะไปประเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“อ่า…อายเจียได้ยินว่าพวกเจ้าเตรียมจัดงานประกวดคัดเลือกสาวงามเพื่อเขาเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“กราบทูลไทเฮา ตามกฎแล้ว พระราชโองการแต่งตั้งรัชทายาทมิถึงขั้นต้องคัดเลือกสาวงาม เพียงแต่…กระหม่อมเห็นว่าวังหลังของฝ่าบาทนั้นเงียบเหงาจนเกินไป หากว่าพระราชตำหนักบรูพาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา อนาคตข้างหน้าวังหลังก็จะเจริญไปด้วยเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”
“คำกล่าวนี้นับว่าเป็นเรื่องของการเมือง ตำแหน่งพระชายาขององค์ชายนี้อายเจียยกให้เป็นของหนานกงตงเซวี๋ยก็แล้วกัน”
หนานกงตงเซวี๋ยหน้าแดงขึ้นมาทันพลัน นางก้มศีรษะลงอย่างเขินอาย
หนานกงอี้หยู่ชะงักไปชั่วครู่ แล้วกล่าวว่า “ทูลไทเฮา องค์ชายมีคู่หมั้นอยู่แล้วถึง 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นถึงองค์หญิงเก้าแห่งราชวงศ์หยู เช่นนั้นพระชายาขององค์รัชทายาท…”
“อายเจียมิได้ห้ามให้องค์ชายสมรสกับสามคนนั้น แต่เขาเป็นถึงรัชทายาทของราชวงศ์อู๋ ตำแหน่งพระชายาแน่นอนว่าจะต้องเป็นสตรีจากราชวงศ์อู๋เท่านั้น เซวี๋ยเอ๋อ อายเจียชื่นชอบเจ้ายิ่ง มีเจ้าดูแลวังหลังแห่งนี้ ร้อยปีหลังจากนี้อายเจียก็วางใจ”
ขณะเดียวกันฟู่เสี่ยวกวนที่เดินทางอยู่บนถนนอย่างสบายอกสบายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)