ช่วงพลบค่ำของเดือนเจ็ดความร้อนระอุจากรังสีของแสงสุริยายังคงแผดเผา
หยุนเหนียงได้ต้มชาสะระแหน่เพื่อดับกระหายแล้ววางไว้บนโต๊ะในกระท่อมหลังคามุงจาก
นางนั่งอยู่ตรงธรณีประตู ใบหน้าของนางนั้นเปื้อนยิ้มและในมือของนางนั้นกำลังแกว่งพัดสานไปมาเพื่อพัดพาความเย็นเข้าตนเอง
นางทอดสายตามองไปยังแปลงนาที่มิไกลมากนัก ตรงนั้นมีชายหนุ่มสวมหมวกฟางกำลังรดน้ำให้เมล็ดพันธุ์พืช
ชายหนุ่มผู้นี้ดูเป็นการเป็นงานใช้ได้ เขาได้มาอยู่ที่หมู่บ้านหลินเจียจนถึงบัดนี้ก็ล่วงเข้าเดือนที่สามแล้ว
ดูแล้วก็เหมือนว่าชายหนุ่มผู้นี้ช่างสำอางยิ่งแต่ก็ยังดูแข็งแรงมีพละกำลังดี อีกทั้งยังช่ำชองในงานเกษตรและยังสามารถอ่านออกเขียนได้ เลยได้รับหน้าที่เป็นอาจารย์ในสำนักศึกษาประจำหมู่บ้านหลินเจีย
แต่สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือ ชายที่เพียบพร้อมถึงเพียงนี้กลับมิใช่ของนาง
ปีนี้หยุนเหนียงอายุครบ 26 ปีบริบูรณ์ เดิมทีนางเคยเป็นทหารในกองทัพหญิงมาก่อน เลยได้ใช้ชีวิตหวือหวาติดตามองค์หญิงไท่ผิงอยู่สองสามปี
หลังจากนั้นก็เป็นเพราะนางเริ่มแก่ตัวขึ้น จึงจำต้องแต่งงานมีครอบครัว เหตุนี้นางจึงได้แต่งงานกับชายหนุ่มมากความสามารถแห่งหมู่บ้านหลินเจีย และเดิมทีก็เป็นอาจารย์อยู่ที่สำนักศึกษาประจำหมู่บ้านหลินเจียเช่นกัน แต่ช่างโชคร้ายที่เขาได้ล้มป่วยลงในฤดูหนาวเมื่อปีกลาย เหลือไว้เพียงลูกสาวให้มองดูต่างหน้า ซึ่งปีนี้มีอายุได้ 3 ขวบพอดิบพอดี
นางยังจำได้มิลืมเลือนว่าเมื่อสิบสองค่ำเดือนสี่ที่ผ่านมา องค์หญิงทรงขี่ม้ามาเป็นการส่วนพระองค์เพื่อมาหานางโดยเฉพาะ แล้วส่งร่างของคนที่สลบมิได้สติพร้อมกับตั๋วเงินจำนวนหนึ่งมาให้นาง จากนั้นจึงตรัสกับนางเพียงแค่สามประโยคว่า
“หยุนเหนียง คุณชายท่านนี้เป็นผู้ชายของข้า ! ”
“ถือว่าเห็นแก่มิตรภาพของพวกเราในวันวาน เจ้าจงช่วยข้าดูแลเขาให้ดี เมื่อเขาตื่นขึ้นมา อย่าได้บอกเขาเป็นอันขาดว่าข้าเป็นผู้ส่งเขามาที่นี่”
“ข้าจะมาหาเขาเมื่อใดก็ได้ จนกว่าข้าจะมีบุตรกับเขา ! ”
หลังจากนั้นองค์หญิงไท่ผิงก็ได้ขี่ม้าจากไปอย่างเร่งรีบ เหลือไว้เพียงแต่นางผู้ที่เป็นหญิงหม้ายกับชายหนุ่มรูปงามผู้นี้ !
แน่นอนว่าหยุนเหนียงมิบังอาจคิดมิดีมิร้ายกับชายหนุ่มผู้นี้ นางจึงเชิญหมอมารักษาตัวเขา จากนั้นก็ได้ดูแลปรนนิบัติอย่างดี จนกระทั้งผ่านไปสามวันเขาจึงค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
หลังจากนั้น เขาก็ได้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ราวยี่สิบกว่าวัน ก่อนจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ทว่าร่างกายของเขาก็ยังคงอ่อนแอไร้ซึ่งเรี่ยวแรงดังเดิม
แน่นอนว่าชายผู้นี้ย่อมใคร่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงได้มาอยู่ที่นี่ “ข้าไปเก็บเจ้ามาจากหลังเขา” นางตอบเขากลับไปเช่นนี้
หลังจากนั้นชายหนุ่มเหมือนได้รู้สึกสับสนอยู่ชั่วขณะ แล้วมิได้เอ่ยถามอะไรนางอีกเลย มิค่อยสนทนาและเอาแต่เก็บตัว
หยุนเหนียงเลยยอมควักเงินซื้อของบำรุงมามากมาย จนกระทั่งช่วงกลางเดือนของเดือนห้า ร่างกายของชายหนุ่มผู้นี้ก็ได้ฟื้นตัวจนกลับมาเป็นปกติ
ตั้งแต่ช่วงหลังกลางเดือนห้าจนถึงบัดนี้ องค์หญิงไท่ผิงได้เสด็จมาที่นี่รวมแล้วห้าคราด้วยกัน
เมื่อองค์หญิงได้เสด็จมาที่นี่ก็มิได้มีพระประสงค์ที่จะพบเจอชายหนุ่มผู้นั้นโดยตรง แต่องค์หญิงทรงได้มอบห่อยาให้กับนาง ซึ่งนั่นก็คือยาเสน่ห์ หรือยาปลุกกำหนัด !
ในห้าราตรีที่ผ่านมานั้นต่างก็เกิดเรื่องราวมากมายขึ้นมา แต่ทว่านางก็สามารถจัดการปัญญาต่าง ๆ ได้ดี โดยที่ชายหนุ่มผู้นั้นมิรู้เรื่องอะไรเลย
สามวันก่อนองค์หญิงไท่ผิงก็ได้เสด็จมาอีกครา พระนางได้ตรัสกับหยุนเหนียงไว้ว่า
“เขาเป็นผู้ชายของข้า ! ”
“เพคะองค์หญิง เขาคือผู้ชายขององค์หญิง หยุนเหนียงมิบังอาจคิดมิดีมิร้ายอย่างแน่นอนเพคะ”
แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่หยุนเหนียงสงสัยมาโดยตลอดก็คือชายผู้นี้เป็นใครกันแน่ เหตุใดองค์หญิงไท่ผิงผู้สูงส่งถึงได้ใช้วิธีนี้ในการบำเรอหาความสุขให้ตนเอง !
“ข้าเพียงแค่อยากมีบุตรกับเขา… ! ”
ราตรีนั้นแสงจันทร์ส่องกระจ่าง พระพักตร์ขององค์หญิงไท่ผิงนั้นแดงระเรื่อด้วยความปลื้มปิติ “ข้าตั้งครรภ์แล้ว หยุนเหนียงข้าขอบใจมากยิ่งนัก ได้โปรดลบเลือนความทรงจำช่วงนี้ออกไปให้สิ้นด้วยเถิด ! ”
“หยุนเหนียงจะลืมให้หมดสิ้นเพคะ ! ”
“อยากจะกลับไปเข้าร่วมกองทัพหญิงหรือไม่ ? ”
“…เดิมทีก็อยากกลับไปเพคะ แต่เมื่อคลอดบุตรสาวออกมาแล้วก็มิอาจกลับไปได้แล้วเพคะ คงจะต้องอยู่เลี้ยงดูบุตรสาวของหม่อมฉันจนกว่านางจะเติบใหญ่ แล้วหม่อมฉันก็คงจะแก่ตายลงที่นี่เพคะ”
“ไม่ เจ้าจงนำบุตรของเจ้าหนีออกไปจากที่นี่ ตั๋วเงินเหล่านี้เจ้าจงรับไว้ มันเพียงพอที่จะให้เจ้าไปลงหลักปักฐานที่ใดก็ได้ เมื่อเขาได้จากไปแล้วเจ้าจงหนีไปเสีย หนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไปใช้ชีวิตยังที่ที่ข้าก็มิอาจหาตัวเจ้าเจอ ! ”
เมื่อตรัสจบ องค์หญิงไท่ผิงก็ได้มอบตั๋วเงินให้นางอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นจึงได้เสด็จกลับทันที และหลังจากนั้นเอง…หยุนเหนียงจึงได้รู้ว่าอดีตแม่ทัพแห่งกองทัพหญิงนั้นได้ถูกสถาปนาให้เป็นองค์จักรพรรดินีแล้ว !
นี่เป็นจักรพรรดินีพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์อู๋ !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)