ตอนที่ 393 สองข้อตกลงการค้า
ภายในศาลา ณ เรือนซีซาน
ต่งชูหลานออกมายังสถานที่แห่งนี้หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว
เยี่ยนซีเหวินต้มชาหนึ่งกา ชุนซิ่วนำน้ำขิงหนึ่งถ้วยมาให้ต่งชูหลาน
“ข้าได้ยินคนส่งสารของซีซานบอกว่าเจ้ามาที่ซีซาน ในใจพลันคิดถึงพี่ฟู่…เกรงว่าเจ้าคงทราบข่าวคราวพี่ฟู่แล้ว ข้าอยากจะเอ่ยถามเจ้าสักหน่อย เขาจะกลับมาเมื่อใดกัน ? ”
ต่งชูหลานยกถ้วยน้ำขิงขึ้นจิบ ยกยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “อะไรกัน ? หากเขามิกลับมาสะใภ้เยี่ยงข้าจะดูแลเรื่องเหล่านี้มิได้หรือเยี่ยงไรกัน ? ”
เยี่ยนซีเหวินฝืนหัวเราะออกมา รินน้ำชาสองถ้วยแล้วส่งน้ำชาไปให้ต่งชูหลานหนึ่งถ้วย “ในปีนั้นเจ้าเป็นสตรีมากความสามารถและมีชื่อเสียงของเมืองจินหลิง…เกรงว่าเจ้าคงมิทราบว่าบัณฑิตที่อยู่ในสำนักบัณฑิตนั้นมีความคิดเห็นอยู่หนึ่งอย่าง”
“ลองกล่าวมา”
“พวกเขาต่างกล่าวกันว่า หากเจ้าเป็นบุรุษ ตำแหน่งเสนาบดีกรมคลังของพ่อเจ้าคาดว่าจะต้องตกเป็นของเจ้าอย่างแน่นอน”
ต่งชูหลานเม้มปากยิ้มแล้วสายหัว “ที่ราชวงศ์อู๋ อู๋หลิงเอ๋อร์ทรงราชาภิเษกเป็นจักรพรรดินีองค์แรกในประวัติศาสตร์ ตัวข้าเป็นสตรีแล้วมิอาจทำหน้าที่ในกรมคลังได้เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“มิเหมือนกันเสียหน่อย หากมิเป็นเพราะบุตรชายของจักรพรรดิเหวิน…” เยี่ยนซีเหวินชะงักไปชั่วครู่ เดิมทีเขาจะเอ่ยว่าหากมิเป็นเพราะบุตรชายของจักรพรรดิเหวินสิ้นพระชมน์แล้ว กลับนึกขึ้นได้ว่าฟู่เสี่ยวกวนนั้นเป็นบุตรชายของจักรพรรดิเหวินเช่นกัน และฟู่เสี่ยวกวนบัดนี้เป็นหรือตายก็ยังมิอาจทราบได้ คาดว่าเป็นไปได้ทั้งสองทาง
ราชวงศ์อู๋ประกาศข่าวการสิ้นพระชมน์ของฟู่เสี่ยวกวนแล้ว อีกทั้งยังเป็นราชโองการของจักรพรรดินีเองอีกด้วย !
แต่ผู้คนในราชวงศ์หยูมิอาจจะยอมรับได้ว่าฟู่เสี่ยวกวนนั้นสิ้นชีพในภูเขาน้ำแข็งไปแล้ว ยามนี้มิว่าจะฮ่องเต้ หรือฮองเฮาซั่ง และท่านปู่ของเขาเยี่ยนเป่ยซี ต่างก็มิได้กล่าวถึงเรื่องนี้
สำหรับเยี่ยนซีเหวินแล้ว แน่นอนว่าเขาหวังว่าฟู่เสี่ยวกวนจะยังคงมีชีวิตอยู่ เพราะเขายังมีเรื่องอีกมากที่ต้องพึ่งพาฟู่เสี่ยวกวน อย่างเช่นแผนการก่อสร้างท่าเรือเขตเหยา
“คราก่อนพี่ฟู่เคยกล่าวกับข้า เขากล่าวว่าต้องขยายท่าเรือเขตเหยาและต้องสร้างอู่ต่อเรือ อู่ต่อเรือนี้ข้าได้ไปปรึกษากับช่างต่อเรือโดยเฉพาะ หากเป็นเรือสำเภา อู่ต่อเรือนี้ก็มิต้องสร้างใหญ่โตมากนัก แต่ในความหมายของพี่ฟู่คือเรือรบ…”
เยี่ยนซีเหวินมองไปที่ต่งชูหลาน “เรือรบของเช่นนี้ราชวงศ์อู๋น่าจะมิมี ข้ามิทราบว่าต้องทำเยี่ยงไร ดังนั้นจึงมาถามข่าวคราวของเขาจากเจ้า”
ต่งชูหลานเมื่อได้ฟังแล้วก็ได้แต่ทำหน้าสับสน
เรื่องนี้ฟู่เสี่ยวกวนมิเคยกล่าวถึง ต่งชูหลานเองก็มิอาจทราบได้ว่าของสิ่งนี้รูปร่างเป็นเยี่ยงไร ดังนั้นนางจึงวางถ้วยน้ำขิงลง พลางครุ่นคิดอย่างตั้งใจ “เรื่องนี้เจ้าคงจะต้องรอเวลาสักหน่อย”
ในเมื่อต่งชูหลานมิเอ่ยถึงฟู่เสี่ยวกวน เยี่ยนซีเหวินก็มิได้ซักไซร้ที่จะถามต่อ เกิดความรู้สึกมิดีขึ้นมาในใจดูเหมือนว่าฟู่เสี่ยวกวนจะเกิดเรื่องขึ้นอย่างแท้จริง มิเช่นนั้นต่งชูหลานจะมาที่ซีซานได้เยี่ยงไร นางจะลงไปในนาได้เยี่ยงไร
ระหว่างพวกเขานั้นมีหนังสือสมรสจากฝ่าบาทแล้ว เรื่องนี้เยี่ยนซีเหวินทราบดี เพราะเยี่ยนเสี่ยวโหลวน้องของเขาก็เป็นหนึ่งในคู่หมั้นของเขาเช่นกัน
หากฟู่เสี่ยวกวนเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ หรือว่าต่งชูหลานจะใจเเข็งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพื่อดูแลการค้าของเขาไปตลอดชีวิตกัน ?
สำหรับเรื่องนี้ เยี่ยนซีเหวินมิมีความคิดที่จะไปโน้มน้าวเพราะเขาทราบดีว่าต่งชูหลานเป็นคนเยี่ยงไร
“การค้าหลายแห่งในเขตเหยาเข้าที่เข้าทางแล้ว เป็นดั่งต้นไม้เขย่าเงิน เช่นนี้ก็สามารถแก้ไขปัญหาการคลังและภาษีในเขตเหยาของข้าได้แล้ว เจ้าวางแผนที่จะไปดูหรือไม่ ? ”
“คาดว่าสามวันให้หลังจะไปดูเสียหน่อย ยามนี้สภาพอากาศมิเอื้ออำนวยเท่าใดนัก…”
ต่งชูหลานดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันพลัน นางหันไปถามเยี่ยนซีเหวินว่า “ฟู่เสี่ยวกวนทำของดีขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง เป็นของที่เกี่ยวกับราษฎร เจ้าสนใจหรือไม่ ? ”
เยี่ยนซีเหวินย่อมสนใจอย่างแน่นอน เขารู้ดีว่าสิ่งของที่ฟูเสี่ยวกวนประดิษฐ์ขึ้นมานั้นเป็นของดี ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าทันทีและกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเราเป็นสหายร่วมสำนัก อีกอย่างข้าเคยแอบรักเจ้ามาตั้งหลายปี เมื่อมีของดี แน่นอนว่าต้องให้พื้นที่ข้านั้นได้ลองใช้ก่อน”
ต่งชูหลานถลึงตาใส่เยี่ยนซีเหวิน “เมื่อครู่ที่นาผืนนั้น ก็คือเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ฟู่เสี่ยวกวนทำขึ้น เช่นนั้นข้าขอเอ่ยกับเจ้าตามตรง ผลผลิตในพื้นที่หนึ่งหมู่จะเพิ่มสูงขึ้นถึงหนึ่งเท่า !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)