ตอนที่ 40 จดหมายสองฉบับ
สายลมยามเย็นโชยมาอ่อน ๆ มีแสงไฟสลัว
ฟู่เสี่ยวกวนนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง ในมือถือจดหมายอยู่สองฉบับ
ฉบับหนึ่งเป็นของฟู่ต้ากวน อีกฉบับหนึ่งเป็นของต่งชูหลาน เขาเปิดผนึกจดหมายของต่งชูหลานออก
คุณหนูต่งชูหลานช่างเขียนตัวอักษรได้งดงามยิ่งนัก ทุกคราที่มองเห็นตัวหนังสือเรียงรายเป็นระเบียบบนกระดาษนั้น ฟู่เสี่ยวกวนก็รู้สึกอิจฉายิ่งนัก เขาจึงตั้งใจว่าจะฝึกฝนคัดลายมือแต่แล้วจิตใจก็รู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาทันที
“เสี่ยวกวน สบายดีหรือไม่ !
ช่วงนี้ที่เมืองจินหลิงมีพายุฝน ดอกไม้ในสวนที่จวนข้าถูกฝนกระหน่ำเสียจนร่วงโรย มองดูแล้วช่างหดหู่ใจยิ่งนัก ข้าจึงได้จัดการรื้อถอนทิ้งไปเสีย
ใบหน้าของฟู่เสี่ยวกวนยิ้มขึ้นมา แม่นางผู้นี้นับวันยิ่งน่าสนใจนัก
“สุรานั้นดื่มเสียจนหมดแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อใดท่านจะส่งมาใหม่ แน่นอนว่าข้าคงไม่ได้จ่ายเงิน แต่หนังสือความฝันในหอแดงของท่านนั้นได้รับความนิยมมากยิ่ง บัดนี้ขายได้เงินจำนวน 3,700 ตำลึงแล้ว จากเดิมข้าคิดว่าจะนำเงินในส่วนของท่านส่งไปให้ที่จวนฟู่ แต่คิดดูอีกทีหนึ่งก็เกรงว่าจะเกิดสิ่งไม่คาดคิดขึ้นระหว่างทาง หากเป็นเช่นนั้นคงไม่ดีแน่ ดังนั้นข้าจึงบอกกับท่านไว้ในที่นี้ว่า เงินในส่วนของท่านนั้นได้เก็บรักษาไว้ในจวนของข้า เมื่อใดที่ท่านเดินทางมาจินหลิง ข้าจักส่งคืนให้แก่ท่าน”
“ข้าเองก็มีความประสงค์อยากจะเดินทางไปยังเรือนซีซานยิ่งนัก หากแต่มิอาจหาเหตุผลอันสมควรได้ ท่านพ่อไม่อนุญาตให้ข้าเดินทางไปที่ใดตามใจชอบ จึงไม่สามารถทำตามความต้องการได้”
“หนังสือนั้นไม่ได้ตีพิมพ์ตอนใหม่มาสักระยะหนึ่งแล้ว ร้านหนังสือมักส่งคนมากดดันกับข้าเสมอ แต่สิ่งที่สร้างความกดดันให้แก่ข้ามากกว่านั้นคือภายในวังหลวงเองก็รีบเร่งอยากอ่านตอนต่อไป ไม่ทราบว่าท่านจะช่วยแต่งหนังสือต่อให้เสร็จในเร็ววันได้หรือไม่ ? สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเงินเป็นทอง แม้ก่อนหน้าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่หากท่านหยุดไปเวลานานเช่นนี้ เกรงว่าบรรดาสตรีที่คลั่งไคล้ท่านทั้งหลายจะอดมิได้ และเดินทางไปพบท่านที่เมืองหลินเจียงด้วยตัวของพวกนางเอง”
“ช่วงนี้ชีวิตข้าไม่มีเรื่องราวอันใดเท่าไรนัก จึงคิดว่าจะตัดเสื้อให้ท่านสักตัวหนึ่ง ข้าเดินทางไปยังตลาดผ้าและประมาณถึงขนาดตัวท่านและได้ตัดเย็บออกมาเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่……ข้าเย็บด้านหน้าและหลังสลับกัน ข้ามิได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น จึงให้เสี่ยวฉีไปซื้อผ้าเพื่อตัดเย็บใหม่ เมื่อข้าตัดเย็บเสร็จแล้วข้าจะส่งไปให้พร้อมกับจดหมายฉบับต่อไป”
“ช่วงนี้ท่านกำลังทำการใดอยู่ ? ข้ามีความอยากรู้ยิ่งนัก อ้อ จริงสิ จางเหวินฮั่นเดินทางมาหาข้าหลายครา ทั้งยังเชิญข้าไปร่วมงานกวี แต่ถูกข้านั้นปฏิเสธไปเสียทุกครา เขาผู้นั้นช่างน่ารำคาญยิ่งนัก ไม่ต่างจากแมลงวันแม้แต่น้อย”
“จดหมายฉบับนี้ข้าขอจบเพียงเท่านี้ก่อน ข้าสบายดีทุกประการและหวังว่าท่านจะเป็นเช่นนั้นด้วย!”
เรียบง่าย
ฟู่เสี่ยวกวนชื่นชอบยิ่งนัก
ทั้งสองเขียนจดหมายถึงกันเป็นเวลานาน แม้จะมิได้พบหน้า แต่ก็เกิดความสนิทสนมมากยิ่งขึ้น การใช้ภาษานั้นก็เรียบง่ายขึ้นไปตามกาลเวลา
สายใยความรู้สึกดี ๆ ที่ทั้งสองเก็บไว้ในส่วนลึกของหัวใจนั้น ไม่มีใครเอ่ยมันออกมา คล้ายกับต้องการให้สิ่งนี้หยั่งรากลึกลงสู่พื้นดินเพื่อเจริญเติบโต ส่วนเรื่องเมล็ดนี้จะสามารถงอกเงยหรือกระทั่งเติบโตจนออกดอกหรือไม่นั้น ทั้งสองไม่ได้หยิบมาครุ่นคิดอย่างจริงจัง แต่ในค่ำคืนหนึ่งที่ดวงดาวส่องประกายทั่วท้องนภา เขามองไปยังดวงดาวนั้นและคล้ายกับกำลังตั้งตารอคอยอะไรบางอย่าง
เขาครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นจึงหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนจดหมาย
“ชูหลาน สบายดีหรือไม่ ! ”
ช่วงนี้ข้าเองก็ยุ่งอยู่ไม่น้อย การก่อสร้างที่ซีซานกำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้อย่างราบรื่นมีขั้นมีตอน”
“ดอกไม้เหล่านั้นเจ้าทำการรื้อถอนทิ้งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ที่นี่ข้าได้ปลูกดอกไม้เอาไว้มากมายหลายชนิด อีกสองสามเดือนคาดว่าจะผลิบาน เมื่อถึงเวลานั้นหมู่บ้านเซี่ยชุนคงกลายเป็นทะเลดอกไม้ไปเสียแล้ว”
“เรื่องข้าวที่ข้าเคยบอกกับเจ้าก่อนหน้านี้ บัดนี้มีความหวังขึ้นมาส่วนหนึ่งแล้ว แต่อย่างน้อยต้องใช้เวลาสักสองสามปีเพื่อทำการทดลอง”
“หนังสือความฝันในหอแดงนั้นข้าเขียนเพียง 2 ตอน จะส่งให้แก่เจ้าก่อน ข้าจะพยายามหาเวลาว่างเขียนต่อให้ ส่วนเรื่องเงินนั้นเจ้าจงเก็บไว้ หากเจ้ามองเห็นโอกาสลงทุนสิ่งใดก็จงใช้เงินนี้ อย่างไรเสียการเก็บเงินเอาไว้เฉย ๆ ก็ไม่เกิดผลใดขึ้นมา”
“ข้าคล้ายกับสูงขึ้นบ้างนิดหน่อย ไม่รู้ว่าชุดที่เจ้าตัดให้นั้นจะใส่ได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ข้าก็ชอบมันมาก”
“อีกทั้งข้ายังออกแบบชุดให้เจ้าหนึ่งชุด หากเจ้าตัดเย็บได้สำเร็จ คาดว่าหลังจากเจ้าได้สวมใส่แล้วคงจะรู้สึกสบายเป็นอย่างมาก”
“หากมีโอกาสอยากให้เจ้าเดินทางมาหลินเจียง ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวเล่นให้สำราญใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)