ตอนที่ 46 เป็นคู่ครองกันนับพันปี
ฟู่เสี่ยวกวนรู้ดีว่าการที่พระสนมเอกต้องการพบตนนั้น คงไม่พ้นต้องแต่งกวีให้อย่างแน่นอน แต่คาดมิถึงว่าจะเป็นการเขียนกลอนตุ้ยเหลียน
สมองของเขากำลังแล่นพลุ่งพล่าน เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วมองออกไปยังที่แสนไกล
ซั่งกุ้ยเฟยมองดูชายหนุ่มผู้นี้แล้วหัวเราะอยู่ในใจ เจ้ากล้าทำตาเล็กตาน้อยใส่ลูกสาวข้าต่อหน้าต่อตาข้า คิดจริงหรือว่าข้าจะไม่จัดการเจ้า?
เพียงแต่หากเขาผู้นี้สามารถแต่งกลอนตุ้ยเหลียนที่ดีได้ ก็ควรได้รับคำชมอย่างยิ่ง จะทำให้เขาตื่นตระหนกไปมิได้
หยูเวิ่นหวินไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกินความสามารถของเขา แต่นางรู้ดีว่าฟู่เสี่ยวกวนในบางครานั้นสมองของเขาอาจจะคิดอะไรไม่ออก หากครั้งนี้เขาไม่สามารถเขียนกลอนตุ้ยเหลียนที่ดีออกมาได้ อยากรู้เสียจริงว่าเขาจะทำเยี่ยงไรต่อไป?
ฉินปิ่งจงมิได้เป็นกังวลแม้แต่น้อย เนื่องจากเขามั่นใจว่าฟู่เสี่ยวกวนจะสามารถเขียนกลอนตุ้ยเหลียนได้อย่างแน่นอน เนื่องจากสหายของเขาผู้นี้มีความสามารถยิ่ง อีกทั้งยังเป็นจ้าวแห่งกวีและหนังสือ
ส่วนคนอื่น ๆ นั้นมีความคิดแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลิวจือต้ง
หากว่าฟู่เสี่ยวกวนสามารถเขียนออกมาได้ เขาก็จะได้รับความชื่นชมจากพระสนมเอก อีกทั้งองค์ฮ่องเต้จะได้เห็นความสามารถของเขาด้วย หากมีพระสนมเอกเพียงช่วยผลักดันเขาอีกนิดหน่อยละก็……คงจะมีพลังไม่น้อยทีเดียว
หลิวจือต้งครุ่นคิดอย่างละเอียดรอบคอบ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจว่าหากฟู่เสี่ยวกวนได้รับคำชมจากพระสนมเอก เอกสารนั้นวันรุ่งขึ้นเขาจะนำมันไปยังจวนฟู่ด้วยตนเอง
ฟู่เสี่ยวกวนเดินออกไปด้านนอกประตู มือทั้งสองข้างเขาสัมผัสไปที่ขอบประตู ใบหน้าหันไปทางพระอาทิตย์ มองดูแม่น้ำที่ไหลเอื่อย ๆ จากนั้นใบหน้าเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันพลัน
เขาหันหลังเดินกลับมา แล้วทำความคารวะซั่งกุ้ยเฟยก่อนเอ่ยว่า “กระหม่อมเขียนหนังสือไม่สวยนัก……”
“มิใช่ปัญหา”
“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ จงนำกระดาษ หมึกและพู่กันมาให้ข้า!” เขาทำความเคารพพระสนมเอกซั่งกุ้ยเฟยเสร็จแล้ว จึงหันไปบอกกับบ่าวรับใช้
ฟู่เสี่ยวกวนยกแขนเสื้อขึ้น แล้วเดินตรงไปยังโต๊ะด้วยความมั่นใจ หยูเวิ่นหวินประหลาดใจมาก — เขาคิดออกแล้วงั้นหรือ?”
บ่าวรับใช้จัดเตรียมของตามคำสั่ง ฟู่เสี่ยวกวนหันกลับมายังหยูเวิ่นหวินแล้วเอ่ยว่า “ข้าขอเชิญแม่นางมาช่วยข้าได้หรือไม่”
“ทำอันใดหรือ?”
“ฝนหมึก!”
หยูเวิ่นหวินรีบเดินไปอย่างมีความสุข แต่บรรดาคนอื่น ๆ กลับประหลาดใจ เจ้าผู้นี้บังอาจใช้องค์หญิงเก้าฝนหมึกเยี่ยงนั้นรึ!
ชินอ๋องสีหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีและกำลังจะลุกขึ้น แต่กลับถูกซั่งกุ้ยเฟยโบกมือห้ามปรามเอาไว้
นี่คือเรื่องอันใดกัน?
ใต้หล้านี้มีใครสักกี่คนที่กล้าใช้องค์หญิงเก้าฝนหมึก?
เจ้าผู้นี้ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียจริง!
นอกเหนือจากฉินปิ่งจงแล้ว คนอื่น ๆ ล้วนเป็นกังวลใจ เนื่องจากที่เมืองหลินเจียงนี้หากฟู่เสี่ยวกวนทำให้ซั่งกุ้ยเฟยมิพอพระทัยขึ้นมา ทุกคนที่นี่ล้วนต้องรับโทษตามกันไปด้วย
แต่พระสนมเอกซั่งกุ้ยเฟยช่างมีท่าทีใจเย็นนัก แน่นอนว่าภายในจิตใจของนางมิได้เป็นเช่นนั้น
นางเองก็คิดว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่มีมารยาทเสียเท่าไหร่ แต่เมื่อนึกถึงว่าหากต่อไปทั้งสองคนเข้ากันได้ดีเยี่ยงนี้ บุตรสาวตนคงมีความสุขไม่น้อย
ฟู่เสี่ยวกวนสาดหมึกลงไปเล็กน้อย
บัดนี้พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า
สายลมจากแม่น้ำพัดผมสีดำขลับและเสื้อผ้าของเขาพลิ้วไสว
ช่างสง่างามยิ่งนัก
ช่างเหมาะสมกันดีเสียจริง!
เมื่อพู่กันแตะสู่กระดาษ ตัวอักษรยังคงไม่น่ามองดังเดิม แต่เพียงไม่นานก็แล้วเสร็จ
มองดูเจียงโหลว มองดูแม่น้ำเจียง มองดูแม่น้ำเจียงไหลไปอยู่บนเจียงโหลว เจียงโหลวนิรันดร์ แม่น้ำเจียงนิรันดร์ เป็นคู่ครองกันนับพันปี
“อ่ะ!……”
หยูเวิ่นหวินตกใจเสียจนอดมิได้ที่จะนำมือมาปิดปากของนางไว้ ดวงตาของนางเปี่ยมไปด้วยความตกใจ
เสียงของนางเมื่อครู่ดึงดูดความสนใจของผู้คนในที่แห่งนั้น บางคนอดมิได้จึงเดินหน้าไปดูว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)