รถม้าแล่นเข้าไปในเมืองจินหลิงที่เงียบสงบ
ภายในรถม้าฟู่เสี่ยวกวนโอบคนที่เขาคิดว่าเป็นหลิ่วเยียนเอ๋อร์ เขาจุดไฟตะเกียงขึ้น เพื่อที่จะตรวจสอบบาดแผลของนางเสียเล็กน้อย
แต่ทว่า…
ถงเหยียนถูกมีดสั้นสุดท้ายของไป๋จื่อตัดอาภรณ์บริเวณหน้าอกขาด คาดมิถึงว่ายอดหิมะจะปรากฏออกมา สายตาของเขาจรดอยู่บนยอดหิมะนั้นอย่างพอดิบพอดี
บัดซบ !
ดอกบัวหิมะตูมรอผลิบาน ฟู่เสี่ยวกวนตกตะลึงขึ้นทันพลัน
ถงเหยียนยังคงสลบไสล
นางกำลังตกอยู่ในฝันร้าย ภายในความฝันนางได้ยืนอยู่ตรงหน้าผาที่มีเหวลึกลงไปและมืดมิด ภายในเหวลึกมีเสียงตะโกนตรงมาถึงนางว่า “ลงมาเถอะ นี่ต่างหากที่เป็นที่ของเจ้า ลงมาที่นี่เท่านั้นเจ้าจึงจะสามารถหลุดพ้นไปได้”
นางอดมิได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เพื่อที่จะช่วยชีวิตฟู่เสี่ยวกวน ตนในตอนนี้ได้กลายเป็นคนทรยศของลัทธิจันทราไปเสียแล้ว ชีวิตนี้มิมีความหมายอันใดอีกต่อไปแล้ว ใต้หล้านี้ มิมีอันใดให้อาลัยอาวรณ์อีกแล้ว
มิทราบว่าสุดท้ายแล้วฟู่เสี่ยวกวนจะตายแล้วหรือไม่ แต่ตนคิดว่าเขายังมิตาย ราษฎรเหล่านั้นมิใช่กล่าวไว้ว่าเขาคือคนที่พระเจ้าส่งลงมาเพื่อเป็นพระโพธิสัตว์ให้มาช่วยเหลือชีวิตของพวกเขาหรอกหรือ ?
เขาย่อมได้รับพรจากพระเจ้า หวังว่าเขาจะมีชีวิตที่ดี เพื่อราษฎรในใต้หล้า เขาจะต้องอายุยืนนับร้อยปี
ท้ายที่สุดนางก็ได้กระโดดลงไปในเหวลึกนี้ ภายในเหวลึกมีเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น และเสียงโหยหวนอย่างอธิบายมิได้ ในตอนที่ร่างของนางกำลังจะตกลงไป กลับพบว่าร่างของตนนั้นถูกดึงกลับมาด้วยแรงอันมหาศาล
“คนโง่ เจ้าอย่าได้ตายเชียว ! ”
หนึ่งเสียงดังขึ้นที่ข้างหูของนาง เสมือนจริงมากยิ่งนัก แต่ในความคิดของนางกลับคลุมเครือเล็กน้อย นางมิทราบว่าเสียงนี้เกิดจากความฝันหรือความจริงกันแน่
นางลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ขนตาเป็นแพยาวแยกออกจากกันเผยให้เห็นนัยน์ตา ราวกับนางได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ทั้งที่จริงแล้วนางเพิ่งจะเห็นใบหน้านี้เป็นคราแรกก็ในคืนนี้ แต่นางกลับรู้สึกคุ้นเคยมากยิ่งนัก
ใบหน้านี้อยู่ใกล้นางยิ่ง ลมหายใจที่ค่อนข้างเร่งร้อนรินรดอยู่บนใบหน้าของนาง รู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย แต่กลับหอมเป็นอย่างมาก นี่คือกลิ่นกายเฉพาะของบุรุษที่นางมิคุ้นชิน
ดวงตาของนางเบิกโพลง และได้มองเห็นใบหน้านั้นอย่างชัดเจนแล้ว เขาคือฟู่เสี่ยวกวน !
เขายังมีชีวิต
เหมือนว่าเขานั้นจะยังกอดนางเอาไว้
ฟู่เสี่ยวกวนลำบากใจเล็กน้อย เขาอยากจะตรวจสอบอาการบาดแผลให้กับสตรีผู้นี้ ดังนั้นเขาจึงฉีกเสื้อเปิดออกมากขึ้น อาการบาดเจ็บของนางสาหัสยิ่ง โดยเฉพาะช่วงท้อง คาดมิถึงว่าจะถูกแทง จุดอื่นบนร่างกายของนางปลอดภัยดี และมีรอยแผลเล็กน้อยอยู่อีกเจ็ดแปดแห่ง
เขามองบาดแผลเหล่านั้น แต่สายตาก็มักจะไหลไปยังยอดหิมะที่สวยงามนั่นโดยมิรู้ตัว
ความรู้สึกนี้ราวกับกำลังยืนอยู่บนที่ราบสูงมองดูภูเขาหิมะศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็มีบางจุดที่มิเหมือนกัน ภูเขาหิมะที่สูงใหญ่มิสามารถยึดมั่นได้ ตรงนี้ใกล้เป็นอย่างมาก ดังนั้นฝ่ามือของเขาจึงร่วงหล่นลงไป…
ใบหน้าของถงเหยียนขึ้นสีแดงระเรื่อ แต่เพราะศิษย์พี่ใหญ่ได้สะกดพลังภายในของนางเอาไว้ ร่างของนางจึงอ่อนปวกเปียกเสียจนต่อให้อยากจะยกมือขึ้นมาตบหน้าเขาก็ยังทำมิได้
ฝ่ามือของฟู่เสี่ยวกวนหดรัดอยู่สองครา ความรู้สึกนี้ดีมากอย่างแท้จริง !
เขาเก็บฝ่ามือกลับไป ตนเป็นสุภาพบุรุษ มิสามารถเอาเปรียบสตรีในสถานการณ์เยี่ยงนี้ได้
หลังจากนั้น เขาก็ได้สบมองกับดวงตาคู่นั้นของถงเหยียน ทันใดนั้นก็รู้สึกขัดเขินขึ้นมาเล็กน้อย และหัวเราะเบา ๆ “อย่าได้เข้าใจผิดไป ข้าเพียงจะตรวจสอบบาดแผลของเจ้าก็เท่านั้น”
ถงเหยียนกลับมิได้โมโหแต่อย่างใด ดวงตาคู่สวยของนางจดจ้องไปที่ใบหน้าของฟู่เสี่ยวกวน ระยะที่ใกล้เยี่ยงนี้ ยิ่งทำให้นางรู้สึกว่าคนผู้นี้ดูดีมากยิ่งนัก เพียงแค่ภายในสมองของคนผู้นี้กลับมิได้ดูบริสุทธิ์เท่าที่แสดงออกมาให้เห็น
“ข้า ตรงนั้น ก็ได้รับบาดเจ็บเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนลูบจมูกไปมา และกล่าวอย่างเอาจริงเอาจังว่า “ข้ารู้สึกว่าก็อาจจะเป็นไปได้ ควรดูให้ถี่ถ้วนอีกครา”
ดังนั้น มือของเขาจึงผลุบลงไปที่ตรงนั้นอีกครา ใบหน้าของถงเหยียนขึ้นสีแดงก่ำ และเอ่ยเสียงแผ่วว่า “หยุดมือ ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนหยุดมือลงทันพลัน แต่มิได้ผละมือออกไป เขามองสตรีผู้นี้ และกล่าวยิ้ม ๆ ว่า “เมื่อครู่ที่เจ้าได้ช่วยข้าเอาไว้ ข้าอยากจะขอขอบคุณเจ้า”
“เจ้าขอบคุณข้าด้วยวิธีแบบนี้เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“อ่า ข้ากลัวว่ามันจะหนาว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)