ณ ทางเดินฉีซาน
มือซ้ายของฟู่ต้ากวนถือวงล้อหยินหยาง ส่วนมือขวากำปืนเอาไว้
หลังจากที่เขากล่าวเสียงดังว่า “ฆ่า ! ” ร่างกายอันอ้วนท้วมก็ได้พุ่งตรงออกไปจากหลังม้า วงล้อหยินหยางถูกส่งออกไป มันแผ่ซ่านความเย็นยะเยือกออกมายังคนที่ยืนอยู่ด้านหลังไป๋หลี่หง
ไป๋หลี่หงตกตะลึงขึ้นมาทันพลัน การที่อู๋ต้าหลางนำอาวุธชิ้นนี้ออกมาตั้งแต่เริ่มการต่อสู้หมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?
การโจมตีจากปรมาจารย์ แน่นอนว่าคนข้างหลังเหล่านั้นย่อมรับมือมิไหว เขาจึงทำได้เพียงออกรับแทนเท่านั้น
เขาหมุนยาสูบในมือแล้วลุกขึ้นยืดตัวตรง และได้ใช้อาวุธกวัดแกว่งซ้ายทีขวาที เสียงดังโช้งเช้งปะทะเข้ากับวงล้อหยินหยาง
จนเกิดประกายแสงไฟสว่างวาบ วงล้อหยินหยางดูเหมือนจะอ่อนกำลังลงไป แต่ยังคงลอยไปทางด้านหลังของเขา
ทันใดนั้นเอง ในสายตาของเขา ร่างของฟู่ต้ากวนก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เขาสูดเอายาสูบเข้าไป ควันขาวลอยฟุ้ง และได้พุ่งตัวไปยังฟู่ต้ากวน
นี่คือการต่อสู้ของปรมาจารย์ทั้งสองคน การต่อสู้ครานี้ ไป๋หลี่หงจะต้องฆ่าฟู่ต้ากวนให้จงได้ และฟู่ต้ากวนจะต้องตายในน้ำมือของไป๋หลี่หง
พวกที่เหลือก็เริ่มลงมือต่อสู้เช่นกัน โจวถงถงเป็นผู้เริ่มต้น เขากำกระบี่ยาวไว้ในมือแล้วพุ่งเข้าหาศัตรูทันที
ไป๋หลี่หงและฟู่ต้ากวนเข้าปะทะกันในระยะใกล้ มองดูใบหน้าอันอ้วนกลมของเขาแล้ว ราวกับว่ามีรอยยิ้มปริศนาซ่อนอยู่
สิ่งนี้ทำให้ไป๋หลี่หงตกตะลึงขึ้นมาทันพลัน เจ้าอ้วนนี่มีความลับอันใดซ่อนอยู่กัน ?
ต่อจากนั้น เขาจึงมองเห็นปืนในมือของฟู่ต้ากวน !
สิ่งนี้เขาเคยพบเห็นมาก่อนเมื่อตอนที่เข้าเฝ้าท่าป๋าเฟิง
เขารู้ว่าเจ้าสิ่งนี้เรียกว่าปืนคาบศิลา แต่เขามิรู้ว่าเจ้าของชิ้นเล็ก ๆ นี้มีอานุภาพรุนแรงถึงเพียงใด
ในความคิดของเขา เจ้าสิ่งนี้มิเป็นอันตรายอันใดสำหรับปรมาจารย์ มิเยี่ยงนั้นแล้วการที่พวกเขาฝึกฝนมาอย่างยากลำบากจะไปมีประโยชน์อันใดกัน
เขามิรู้ว่าเมื่อตอนที่ฟู่เสี่ยวกวนอยู่ในเมืองเปียนเฉิงนั้น เขาเคยยิงเป่ยหวังฉวนที่เป็นปรมาจารย์ในระยะห่าง 200 จั้งได้ !
แน่นอนว่าปืนกระบอกนั้นมีอานุภาพมากกว่าปืนคาบศิลานี้นับร้อยเท่า แต่บัดนี้ฟู่ต้ากวนอยู่ใกล้กับไป๋หลี่หงเป็นอย่างมาก ทั้งสองคนอยู่ห่างกันเพียงแค่ 2 จั้งเท่านั้น
อู๋ต้าหลางจะใช้เจ้าสิ่งนี้มาจัดการตนเยี่ยงนั้นหรือ ?
ยิ่งแก่ยิ่งไร้สาระเสียจริง !
ดังนั้นไป๋หลี่หงจึงหัวเราะขึ้น เมื่อรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเริ่มปรากฏ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่บุหรี่ของเขาตกลงไป
“ปัง… ! ” เสียงหนึ่งดังขึ้น
ได้สร้างความตกใจให้แก่ป่าเขา และไป๋หลี่หง
ไป๋หลี่หงมองดูทรวงอกของตนด้วยความตกตะลึง ที่อกของเขาเป็นรู ! เเละรู้สึกเจ็บเป็นอย่างมาก !
รูนี้มีเลือดไหลทะลักออกมา !
เขามิอยากจะเชื่อ เมื่อสักครู่เขาใช้พลังลมปราณปกป้องร่างกายนี้เอาไว้แล้ว แต่เจ้าลูกเล็ก ๆ นี่สามารถเจาะเข้าไปในร่างกายของเขาได้เยี่ยงไรกัน ?
ฟู่ต้ากวนหัวเราะหึ ๆ “ไป๋หลี่หง วันนี้ข้าจะทำให้เจ้านองเลือดร้อยลี้ ! ”
เมื่อเขากล่าวจบก็นั่งลงไปที่พื้นแล้วทำท่าเหมือนจะใส่กระสุนลงไปอีก เจ้าของสิ่งนี้มีพลังเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้ แม้จะใช้มิค่อยสะดวกเท่าใดนัก มิน่าเล่าศิษย์พี่ที่สำนักจึงกล่าวว่า…ฝึกวรยุทธ์ มิได้มีประโยชน์เท่าใดแล้ว
ไป๋หลี่หงทรุดลงไปที่พื้น ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเเดงระเรื่อ พร้อมกับตะโกนออกมาว่า “อู๋ต้าหลาง เจ้าใช้วิชาปิศาจเหล่านี้ เจ้ารู้จักกฎแห่งยุทธภพหรือไม่ ? ”
“เจ้าช่างโง่เง่าอย่างแท้จริง กฎยุทธภพบ้าบออันใดกัน ต่อไปในภายภาคหน้าจะมิมียุทธภพแล้ว”
เมื่อกล่าวจบ ฟู่ต้ากวนก็ได้ยกมือขึ้น ไป๋หลี่หงที่กำลังเผชิญหน้ากับความตาย เขามิทันได้คิดไตร่ตรองคำกล่าวเมื่อครู่ของฟู่ต้ากวนด้วยซ้ำ เขารีบลุกขึ้นและเตรียมที่จะหนี ฟู่ต้ากวนหัวเราะออกมาจากนั้นก็มีเสียง “ปัง ! ” ดังขึ้นอีกคราหนึ่ง ไป๋หลี่หงถูกยิงเข้าที่กลางหลัง ร่างของเขาล้มลงกองที่พื้นทันที ใบหน้าของเขาแสดงถึงความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก มองดูแล้วช่างน่าเวทนายิ่ง
เจ้าสิ่งนี้เก่งกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ !
ไป๋หลี่หงรู้สึกคับแค้นและตื่นกลัวอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน !
เขาเป็นถึงปรมาจารย์ ! แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าสิ่งนี้ เเม้แต่ปรมาจารย์ก็มิมีประโยชน์อันใด !
ผู้ใดก็ได้ช่วยบอกเขาทีว่าเป็นเพราะเหตุใดกัน ?
เขายังคงคิดที่จะหนี และได้วิ่งเข้าไปท่ามกลางฝูงชน เมื่อพวกคนชุดดำเหล่านั้นมองดู…
นี่มันเกิดอันใดขึ้นกัน !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)