นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 498

ตอนที่ 498 เรื่องน่าอับอายแห่งราชวงศ์อู๋
ตอนที่ 498 เรื่องน่าอับอายแห่งราชวงศ์อู๋

ฮ่องเต้มิได้ให้ความสนใจต่อคำถามของเหล่าขุนนางบู๊และบุ่นแห่งราชวงศ์หยูเหล่านี้จึงได้พาทั้งสี่คนเดินจากไป

เหล่าขุนนางที่นั่งอยู่ในท้องพระโรงพาลสบสายตากันไปมา จึงได้เข้าใจว่า ฟู่เสี่ยวกวนมีความสำคัญมากถึงเพียงใด !

เหตุการณ์เมื่อคืนที่หงซิ่วจาวถูกเผาเสียจนวอดวายนั้น ชาวบ้านต่างก็เล่าลือกันว่ามีคนตายราวร้อยกว่าชีวิต แน่นอนว่าผู้คนเหล่านั้นล้วนถูกส่งมาสังหารท่านเสี่ยวกวน

จากการสืบสวนของศาลจินหลิง ฆาตกรเหล่านั้นล้วนเป็นคนจากลัทธิจันทรา อีกทั้งยังปรากฏผู้เสียชีวิตอีกมากมายหลายแห่ง ค่ำคืนที่ผ่านมาพบว่าดวงไฟในศาลจินหลิงมิได้มอดดับลง ทหารทั้งจากทางใต้และทางเหนือล้วนออกตามหาผู้ลงมือแต่ทว่าก็มิพบ พบเพียงเบาะแสบางอย่างจากทั้งหนึ่งร้อยเก้าศพเท่านั้น

ร่างไร้วิญญาณเหล่านี้ ล้วนเป็นสายลับของลัทธิจันทราที่แฝงตัวอยู่ในเมืองจินหลิง !

ให้ตายเถอะลัทธิจันทรา พวกเจ้ายั่วยุผิดคนแล้วหรือไม่ ? เหตุใดจึงคิดหาเรื่องฟู่เสี่ยวกวนกันด้วยเล่า ?

เจ้าหมอนั่นสามารถรังแกได้โดยง่ายหรือเยี่ยงไรกัน ?

ฝ่าบาทรับสั่งให้ทำสงคราม ให้ทหารตะวันตกเข้าโจมตีซีหรง การทำสงครามในยามที่ท้องพระคลังว่างเปล่าเยี่ยงนี้ จะแบกรับได้นานเท่าใดกัน ?

บรรดาขุนนางล้วนกังวลใจ มีเพียงฉินฮุ่ยจือเท่านั้นที่คิดขึ้นมาได้ว่าบางทีองค์ชายสี่อาจจะมีหลักฐานบางอย่างตกมาถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาท !

……

……

ประชุมใหญ่แห่งราชวงศ์อู๋ ณ พระราชวังจวี้หัว เมืองกวนหยุนเพิ่งจะได้เริ่มขึ้น

ไทเฮาซีเสด็จออกจากหลังม่านมาเป็นคราแรก พระนางทรงฉลองพระองค์งามสง่าและประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร

หนานกงอี้หยู่แสดงท่าทีตกตะลึงขึ้นมาทันพลัน ไทเฮาซีจึงตรัสขึ้นว่า

“อายเจียช่างเป็นผู้มีชีวิตที่ยากแค้นเสียจริง”

“นับตั้งแต่ที่จักรพรรดิเหวินสิ้นพระชนม์ อายเจียเองก็คิดว่าฟู่เสี่ยวกวนผู้เป็นหลานชายก็ได้จากไปด้วย อายเจียจึงมิรู้ว่าควรจะทำเยี่ยงไรต่อไปนอกจากให้หลานสาวขึ้นเป็นจักรพรรดินี”

“มิคาดคิดว่า ฟู่เสี่ยวกวนจะยังคงมีชีวิตอยู่ ช่างน่ายินดียิ่งที่ราชวงศ์อู๋ได้มีผู้สืบทอดอย่างถูกต้องแล้ว”

“แค่ก แค่ก แค่ก……” องค์ไทเฮาทรงพระกาสะอยู่หลายครา จากนั้นจึงทอดพระเนตรไปยังเหล่าขุนนางทั้งหลาย “พวกเจ้าล้วนอยากต้อนรับองค์รัชทายาทกลับมา เนื่องจากพวกเจ้าทั้งหลายมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ หากฟู่เสี่ยวกวนกลับมา แน่นอนว่าอายเจียจะพาเขาไปสักการะบรรพบุรุษพร้อมกับนำชื่อของเขาบันทึกสู่รายนามราชวงศ์ แต่ทว่าเหตุใดอายเจียมินำตัวฟู่เสี่ยวกวนกลับมาน่ะหรือ ? พวกเจ้าคิดว่าอายเจียมิปรารถนาเช่นนั้นหรือเยี่ยงไรกัน ? ”

ไทเฮาซีหยุดลงชั่วครู่ สีพระพักตร์ปรากฏความเคร่งเครียดขึ้นสักพัก จากนั้นจึงถอนพระปัสสาสะออกมายาว ๆ

“ผิดเเล้ว อายเจียนั้น…มีเรื่องลำบากใจที่มิอาจกล่าวออกมาได้”

“เมื่อวานนี้ท่านอัครมหาเสนาบดีทั้งซ้ายและขวา พร้อมด้วยขุนนางนับร้อยได้ยื่นฎีกาขอให้อายเจียเชิญฟู่เสี่ยวกวนกลับมา อายเจียได้คิดทบทวนตลอดทั้งคืน และตระหนักได้ว่าเรื่องนี้หากปิดบังต่อไปย่อมไร้ผลดีต่อราชวงศ์อู๋ ในวันนี้อายเจียจึงขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้ให้ทุกท่านได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง”

เหล่าขุนนางได้ยินดังนั้นก็พากันตกตะลึงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ยังมีความลับใดที่มิอาจกล่าวได้อยู่อีกเยี่ยงนั้นหรือ ?

องค์ไทเฮาทอดพระเนตรเหล่าขุนนางด้วยแววพระเนตรขุ่นมัว บรรดาขุนนางเองก็เริ่มเงยหน้ามองพระพักตร์ด้วยความใคร่รู้ว่าเพราะเหตุผลอันใดกัน

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าขันของราชวงศ์อู๋ อายเจียเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด เกรงว่าถ้าหากกล่าวออกไป จะทำให้ราชวงศ์ต้องอับอายขายหน้า”

“ข้าขอถามพวกเจ้าอีกคราว่า อยากรู้จริงหรือว่าเพราะเหตุใดอายเจียจึงมิต้อนรับฟู่เสี่ยวกวนกลับมา ? ”

จัวอี้สิงและหนานกงอี้หยู่มองตากัน ภายในใจปรากฏความสงสัยมากยิ่งนัก

เรื่องที่ทำให้ราชวงศ์ต้องขายหน้า ยังมีเรื่องใดอีกกัน ?

หรือว่าฟู่เสี่ยวกวนมิใช่โอรสของจักรพรรดิพระองค์ก่อน ?

เป็นไปมิได้ เนื่องจากจักรพรรดิพระองค์ก่อนได้ประกาศออกมาแล้ว อีกอย่างฟู่เสี่ยวกวนเติบโตที่เมืองหลินเจียงแห่งราชวงศ์หยูและมีอู่ต้าหลางอยู่ข้างกายตลอดเวลา จะเกิดการสลับตัวได้เยี่ยงไรกัน ?

เยี่ยงนั้นยังมีเรื่องอื่นใดอีกเล่า ?

ทันใดนั้นเอง พระราชวังจวี้หัวก็ได้ปรากฏเสียงฝีเท้าอันหนักแน่นเดินเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)