นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 51

สรุปบท ตอนที่ 51 น้ำป่า: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอนที่ 51 น้ำป่า – ตอนที่ต้องอ่านของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอนนี้ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 51 น้ำป่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 51 น้ำป่า

ฝนยังคงกระหน่ำตกอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

ฟู่เสี่ยวกวนได้มาถึงเรือนซีชานเป็นวันที่สามแล้ว ฝนก็ยังคงเทกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง

ราวกับสวรรค์ถูกเจาะเป็นรู และมีน้ำไหลลงมาอย่างบ้าคลั่ง แทบจะมิมีโอกาสหยุดพัก

ในวันรุ่งขึ้นฟู่เสี่ยวกวนได้ไปที่ทุ่งนาอีกครา หนนี้เขาพาคนไปมากมาย เพื่อสร้างเพิงให้กับป้ายจึเหล่านั้น เพื่อที่จะทำให้หวางเอ้อและคนอื่น ๆ ปลีกตัวออกมาได้

แต่หวางเอ้อและคนอื่น ๆ ก็มิยอมผ่อนปรน คอยเฝ้ากันทั้งวันทั้งคืนเพราะกลัวว่าทุ่งนาเหล่านั้นจะถูกพายุฝนพัดไปหรือไม่ และเพิงเหล่านั้นจะถล่มลงมาหรือไม่

ในวันนี้ฟู่เสี่ยวกวนอยู่ที่ชั้นสองและกำลังเขียนเกี่ยวกับการจัดตั้งกองคาราวานซีชาน เพราะต้องไปเขตเหยาเพื่อขนกากแร่ จำต้องใช้รถม้าและเกวียนเป็นจำนวนมาก คิดมาคิดไป เขาก็รู้สึกว่าต้องจัดตั้งกองคาราวานของตนเองขึ้นมา

ในขณะนั้นเอง ชุนซิ่วก็วิ่งเข้ามาด้วยท่าทีลนลาน

“คุณชายเจ้าคะ แย่แล้ว ! หมู่บ้านหวังเจียชุน หมู่บ้านหวังเจียชุนถูกน้ำท่วมเจ้าค่ะ!”

“อะไรนะ ! ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนผุดลุกขึ้น และปรี่ลงจากจวนไปในทันที

หมู่บ้านหวังเจียชุนตั้งอยู่ที่ภูเขาไต้ชานและอยู่ข้าง ๆ แม่น้ำไป๋สุ่ย มีทั้งหมด 28 ครัวเรือนมีชาวบ้านอาศัยอยู่ทั้งหมด 170 คน ชุนซิ่วกล่าวว่าหมู่บ้านหวังเจียชุนถูกน้ำเข้าท่วมแล้ว… แต่ก็ยังหวังว่าทุกคนจะปลอดภัย

ฟู่เสี่ยวกวนเรียกหาทหารยามและคนงานทั้งหมดทันที คนหลายร้อยคนวิ่งตรงไปทางหมู่บ้านหวังเจียชุน

ระดับในแม่น้ำไป๋สุ่ยขึ้นสูง แทบจะเลยสะพานหินขึ้นไป ทันทีที่ข้ามสะพานหินมาได้ก็ได้ยินเสียงตะโกนแว่วดังท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง

มันคือน้ำป่า

เมื่อฟู่เสี่ยวกวนพาทุกคนข้ามผ่านแม่น้ำไป๋สุ่ย ก็พบกับโศกนาฏกรรมที่เกิดจากภัยพิบัติในครานี้

“ช่วยคน ไปเร็ว ทั้งหมดเข้าไปช่วยชาวบ้านให้ข้า ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนคำรามลั่นท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำ ซูม่อปรี่เข้าไปเป็นคนแรก และฟู่เสี่ยวกวนก็ตามหลังไปติด ๆ

ภูเขาไต้ชานมิได้สูง พืชพันธุ์บนภูเขาก็หาได้ยากยิ่ง หินและดินบนภูเขาก็ไม่แน่นพอ ท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำลงมาหลายวัน บนยอดเขาจึงมีน้ำสะสมเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นทะเลสาบ หลังจากนั้นก็พังทลายลงมาจากภูเขา ไหลเทลงมาตลอดทาง หมู่บ้านหวังเจียชุนแทบจะถูกกวาดจนราบเรียบ

บ้านลูกสะใภ้ของหวางเฉียงที่อยู่ทางตะวันตกของหมู่บ้านมิได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก ฟู่เสี่ยวกวนมิรู้จักนามของสตรีผู้นั้นจึงตะโกนเรียกชื่อหวางเฉียงดังลั่นท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำ

ใจฟู่เสี่ยวกวนราวกับถูกมีดกรีด คนหลายร้อยคนเริ่มลงมือตามหาผู้คนในหมู่บ้านที่ถูกโคลนทับถม

หวางเอ้อที่ออกลาดตระเวนอยู่ในทุ่งนาก็ได้ยินว่าน้ำป่าไหลหลากจึงวิ่งกลับมาเช่นกัน เหม่อมองไปทางภูเขาโคลนสีเหลือง ชายร่างกำยำมิได้หลั่งน้ำตา เพียงแต่เขาใช้มือขุดในตำแหน่งบ้านของตนเองอย่างเอาเป็นเอาตาย หลังจากนั้นเขาก็ขุดออกมาได้หนึ่งคน นั่นคือแม่ยายของเขา สตรีที่มีความสามารถจัดการงานบ้านได้เป็นอย่างดี

“ช่วย… ช่วย… ช่วยลูกข้า!”

หญิงสาวยังมิตาย ฟู่เสี่ยวกวนรีบปรี่เข้าไปและตะโกนเสียงดัง “อุ้มนางออกไป ล้างโคลนในปากออกให้สะอาด เร็วเข้า!”

หลายร้อยคนต่างก็ใช้มือกวาดโคลนและย้ายหินออกเยี่ยงนี้ มีคนได้รับความช่วยเหลือและถูกส่งออกไป หวางเฉียงเองก็ถูกขุดออกมาด้วย และในตอนนี้ลมหายใจของเขาก็รวยรินแล้ว

ชุนซิ่วพานางไปยังห้องครัว กล่าวว่าหากจะทำอันใดให้บอกกับพ่อครัวก็พอแล้ว หากมิคุ้นชิน จะทำเองก็ย่อมได้ ทั้งยังจงใจกล่าวอีกว่า นี่คือคำสั่งของคุณชาย ห้ามมิให้หวางเฉียงเจ็บป่วยโดยเด็ดขาด

จางเสี่ยวเหมยมิกล้าใช้ห้องครัวของคุณชาย หลังจากที่ออกมาก็กล่าวกับซิ่วเอ๋อร์เสียงแผ่ว “คุณหนูเจ้าคะ มิอย่างนั้น…ให้คนที่บ้านส่งมาจะดีกว่า”

ชุนซิ่วหัวเราะขึ้นมา “ข้ามิใช่คุณหนูหรอก ข้าเป็นสาวใช้ของคุณชาย เจ้าเรียกข้าว่าพี่ซิ่วเอ๋อร์ก็พอ นอกจากนี้ ข้ามิกล้าขัดคำสั่งลับหลังคุณชาย คุณชายตระกูลเรามิเหมือนกับผู้อื่น ต่อแต่นี้ไปเจ้าจะรับรู้เอง ดังนั้นตามสบายเถิด อย่าได้ระมัดระวังถึงเพียงนั้น หากมีใครกล้ารังแกเจ้า เจ้าจงบอกข้า ข้าจะถลกหนังมันออกเอง”

“นั่น…”

“เอาล่ะ ๆ ข้าเองก็ต้องตุ๋นไก่ให้คุณชาย เจ้าดูสิว่าคนของเจ้าจะทานสิ่งใด ห้องครัวใหญ่ถึงเพียงนี้ พวกเรามาทำด้วยกันเถอะ”

ฟู่เสี่ยวกวนและหวางเอ้อนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขก

“อยู่ที่นี่ให้สบายใจก่อนเถิด รอจนกระทั่งฝนหยุดสักสองสามวันแล้วค่อยออกไปทำความสะอาดโคลน นอกจากนี้… เรื่องสร้างบ้านใหม่คงต้องรอไปอีกเล็กน้อย”

หวางเอ้อครุ่นคิดและพยักหน้า การสร้างบ้านใหม่มิใช่เรื่องง่าย ทั้งหมดถูกทำลายลงไปในพริบตาเดียว เสบียงและเครื่องเรือนต่างก็มิมีเหลือแล้ว หากจะสร้างบ้านขึ้นมาใหม่ อย่างน้อยก็ต้องรอหนึ่งปี และยังต้องมีเงินออมอยู่ในมือของตนเองอีกสักเล็กน้อย

รอจนกระทั่งฝนหยุดและหลังจากชำระล้างโคลนออกไปแล้ว คงต้องตั้งเพิงขึ้นมาเพื่อพักอาศัยไปก่อน สวรรค์ช่างน่าชังนัก!

“ข้าคิดเยี่ยงนี้ กำแพงดินเก่าของพวกเจ้าคงใช้การไม่ได้แล้ว แบกไม่อยู่ นอกจากนี้ทำเลยังไม่ดี อยู่ใกล้ภูเขาไต้ชานเกินไป รอจนกระทั่งข้าทำซีเมนต์จากภูเขาซีชานสำเร็จแล้ว อิฐและกระเบื้องของช่างอิฐถังน่าจะอบออกมาแล้วไม่น้อย เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะสร้างบ้านให้พวกเจ้าในคราเดียว บ้านอิฐกระเบื้อง สดใสและสวยงาม อีกทั้งยังสะดวกสบาย”

หวางเอ้ออ้าปากค้าง “อ่า คุณชายขอรับ พวกข้ามิมีเงินมากถึงเพียงนั้น”

“ต่อจากนี้ไป คนงานที่ทำงานให้แก่จวนฟู่ของข้าทั้งหมด จะได้อาศัยอยู่ในบ้านอิฐและกระเบื้อง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)