ตอนที่ 571 ชือไท่สบายดีหรือไม่
ฮั่วหวยจิ่นใช้สองมือไพล่หลังและจดจ้องไปยังเมืองเจี้ยนเหมินท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย
ปืนของเขาสอดอยู่ข้างกาย เฝ้าฟังเพลงฉู่ที่ทหารด้านหน้ากำลังร้องกันอยู่ ภายในสมองปรากฏเศษเสี้ยวในอดีตของบิดาขึ้นมา
บิดาเป็นคนแบบไหนเยี่ยงนั้นน่ะหรือ ?
ท่านเป็นคนเด็ดขาด เคร่งครัด และน่าเกรงขามยิ่ง
หากมองย้อนกลับไปในความทรงจำ มีมิกี่คราที่บิดาของเขาแย้มยิ้ม ในความทรงจำมักจะเป็นบิดาที่ถือไม้ไล่ตีก้นเขา !
รอยยิ้มพลันผุดขึ้นมาบนใบหน้า บางทีนี่คงเป็นความหมายของคำกล่าวที่ว่า บิดาเข้มงวดมารดาอ่อนโยน ก็เป็นได้
เดิมทีคิดว่าหลังจากที่อภิเสกสมรสกับองค์หญิงสามแล้วจะกลับไปหาท่านเสียหน่อย คาดมิถึงว่าบิดาจะจากไปแล้ว
บิดาจากไปอย่างเรียบง่าย กลัวก็แต่มารดาที่จะเสียใจอย่างถึงที่สุด
มารดาร่างกายอ่อนแอ ยิ่งได้รับการกระทบกระเทือนเช่นนี้เข้า หวังว่านางจะมิคิดทำร้ายตนเอง
เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องนภาที่มืดสนิท แล้วปล่อยให้น้ำฝนเย็นเยียบชะล้างใบหน้า
“ท่านพ่อ… ข้าจะแก้แค้นให้ท่านเอง ! ”
“ข้าจะอภิเษกสมรสแล้ว หากถึงเวลาข้าจะพาลูกสะใภ้กลับไป แต่คงทำได้เพียงคำนับหน้าแผ่นป้ายของท่านเท่านั้น”
“จวนกษัตริย์แห่งเจิ้นซีจะมิล้มลง ข้าจะประคับประคองเอาไว้จนถึงขั้นทำให้ทับหลังของประตูจวนอยู่สูงยิ่งขึ้น ! ”
“ท่านวางใจเถิด ตระกูลฮั่วยังมีข้าอยู่ ! ”
เขาหยิบปืนออกมา ชำเลืองมองไปทางเมืองเจี้ยนเหมิน จากนั้นก็หันหลังกลับเข้าไปในค่ายทหาร
ในเมืองเจี้ยนเหมิน ซูซูนั่งอยู่ในมุมมืดที่ห่างออกไป ปล่อยให้น้ำฝนชโลมเส้นผมและอาภรณ์ของนางเสียจนเปียกชื้น
สองขาของนางกวัดแกว่งไปมาท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น นางมิได้แบกกล่องฉินขนาดใหญ่ไว้บนหลังอีกต่อไปแล้ว แต่ทว่าข้างกายได้ปรากฏมีดวางอยู่หนึ่งเล่ม… ซึ่งเป็นเพียงแค่มีดทำครัว !
แน่นอนว่าในอ้อมอกของนางยังมีปืนอยู่อีก 1 กระบอก
นางรออยู่อย่างเงียบสงบ
รอมานานนับสิบปีแล้ว อีกเพียงแค่สองสามวันเท่านั้น นางมิได้เร่งรีบอันใด
นางกำลังรอเฟ่ยอันบุกเข้าเมือง หรือไม่ก็รอให้ทัพกบฏบุกออกไปโจมตี
นางมิใช่คนบุ่มบ่าม มีองครักษ์นับพันอยู่ข้างกายเซวี๋ยติ้งชาน ยิ่งไปกว่านั้นเซวี๋ยติ้งชานก็เป็นถึงปรมาจารย์ นางย่อมรอให้คนข้างกายนั้นหายไปจนหมดเสียก่อน หลังจากคนพวกนั้นตกตายไปหมดแล้ว นางถึงจะออกไปปะทะกับเซวี๋ยติ้งชาน
นางเงยหน้ามองท้องนภาที่มืดมิด ทันใดนั้นก็นึกถึงคนผู้นั้นขึ้นมา…
ตอนนี้ฟู่เสี่ยวกวนกำลังทำอันใดอยู่กัน ?
อยู่ที่ร้านกั๋วเซ่อเทียนเซียงเยี่ยงนั้นหรือ ?
หรืออยู่ที่หอซื่อฟาง ?
ไม่ ! คงกำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่กับภรรยาที่จวนฟู่อยู่เป็นแน่ !
มิรู้ว่าในหัวของเขากำลังคิดถึงสิ่งใดอยู่ จึงสามารถทำสิ่งที่เรียกว่าไพ่นกกระจอกขึ้นมาได้
ต่งชูหลานกล่าวว่า หากทำของสิ่งนี้ออกมาขายจะต้องขายดีเป็นแน่ เกรงว่านางจะสร้างโรงงานขึ้นที่ภูเขาหนานซานเพื่อผลิตไพ่นกกระจอก
หยูเวิ่นหวินกล่าวว่า จะกลับไปสอนฮองเฮาซั่งและเหล่าพระสนมในวังหลังเล่น ให้พวกนางนำไปยั่วเหล่าฮูหยินในเมืองจินหลิง หลังจากพวกนางเสพติดแล้ว ก็จะนำของสิ่งนี้ออกไปป่าวประกาศ เจ้าไพ่นกกระจอกนี้ก็จะสามารถเข้าไปอยู่ในบ้านเรือนของคนทั่วไปได้
ของสิ่งนั้น ทำให้เสพติดได้ง่ายดายอย่างแท้จริง หลังจากศิษย์พี่สามซูโหรวได้เล่นไพ่นกกระจอก นางก็มิปักผ้าอีกเลย เพียงแต่ในตอนนี้ศิษย์พี่ใหญ่ไปแล้ว สวี่ซินเหยียนก็ไปแล้ว จึงเหลือเพียงนางผู้เดียว พวกฟู่เสี่ยวกวนที่มีกัน 4 คนก็คงนั่งกันพอดี 1 โต๊ะ เกรงว่าจะทำได้เพียงแค่สลับกันเล่นเท่านั้น
ทันใดนั้นซูซูก็หัวเราะขึ้นมา กระเป๋าเงินของศิษย์พี่สามมีอยู่เพียงมิกี่ตำลึงเท่านั้น เกรงว่านางจะพ่ายแพ้จนเสียเงินหมดตัว
แต่ถึงเยี่ยงไรก็ยังมีคุณชายเศรษฐีที่ดินเยี่ยงฟู่เสี่ยวกวนอยู่ เขาย่อมมิขาดแคลนเงินทองอย่างแน่นอน
ฟู่เสี่ยวกวน…
เจ้าคนเลว !
……
“ฮัดชิ้ว… ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนที่อยู่นอกวัดจามออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาลูบจมูกไปมา ตั้งปืนในมือขึ้น ในใจลอบคิดว่าเหล่าภรรยาคงกำลังนินทาเขาอยู่เป็นแน่
แต่เผิงยวี๋เยี่ยนกลับคิ้วขมวดมุ่น เพราะคำเอ่ยของคนชุดดำที่นางได้ยิน… ถงเหยียน ลัทธิจันทรา สวี่ซินเหยียน…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)