ตอนที่ 593 บินข้ามซอกเขาร่วนหยุน
หยูเวิ่นชูตื่นตกใจขึ้นมาทันพลัน !
ในชั่วพริบตาที่เขาลุกขึ้น ชักกระบี่ที่หลังออกมา กระบี่กวาดกระบี่ที่ตวัดเข้าใส่ แล้วตะโกนออกไปว่า “ที่มาเป็น…”
ยังมิทันได้คำว่า ผู้ใด ออกไป ทันใดนั้นก็มีตาข่ายพุ่งออกมาจากต้นไม้ใหญ่ด้านข้าง และตกลงบนกระบี่ !
กระบี่ของหยูเวิ่นชูเปล่งประกาย ตวัดใส่ตาข่ายที่พุ่งลงมา ทันทีที่ด้ามกระบี่บิด เสียง “ชริ้ง… ! ” ดังขึ้น สองกระบี่ปะทะเข้าด้วยกัน ทั้งสองถอยไปคนละ 10 จั้งและแทบจะตกลงพื้นในเวลาเดียวกัน
ในขณะที่เท้าของเขาลงเหยียบบนพื้นหิมะหนา ทันใดนั้นก็มีคนสี่คนบินมาจากสี่ด้าน หลังจากนั้นร่างของเขาก็เบาหวิว
เป็นตาข่ายอีกแล้ว !
ตาข่ายนี้ถูกฝังเอาไว้ในหิมะ เป็นตำแหน่งที่เขาย่ำเท้าลงไปพอดิบพอดี
ร่างของเขาตกลงไปบนตาข่าย กระบี่ตัดตาข่ายขาดในชั่วพริบตา พลิกกระบี่ในฝ่ามือ สกัดกระบี่ที่ปรี่มาสังหารออก “ปึก… ! ” เสียงเขาตกลงบนพื้นหิมะ
คนทั้งสี่ที่จับตาข่ายล้มลงไปที่พื้น หลังจากนั้นร่างของเขาก็เบาขึ้นอีกครา ข้าจะไปหามารดาเจ้า !
ยังมีตาข่ายอีกผืน !
หยูเวิ่นชูแทบจะกระอักเลือด จะต่อสู้กันดี ๆ มิได้หรือเยี่ยงไร ?
พวกเจ้าคิดว่านี่คือความสามารถแบบใดกัน ?
ร่างของเขาที่อยู่กลางตาข่ายโงนเงนและเสียการทรงตัว เขารีบอาศัยแรงอันน้อยนิด บินออกมาจากกลางตาข่ายนั้น แต่คาดมิถึงว่า…
จะมีตาข่ายหล่นลงมาเหนือศีรษะอีกแล้ว !
ในตอนที่กระบี่ของหยูเวิ่นชูกำลังจะฟันตัดตาข่ายที่หล่นมาจากท้องนภา กลับพบว่ามีกระบี่แทงมาจากทั้งซ้ายและขวา
เขารีบเคลื่อนย้ายกำลังภายในลงกระบี่ไปทางซ้ายและขวา เสียง “เคร้ง เคร้ง” ดังขึ้น ปัดกระบี่ที่มาจากทางซ้ายและขวาออกไป กระบี่ของเขาตวัดไปทางด้านล่าง และได้ตัดตาข่ายที่อยู่ด้านล่างออก เขาตกลงมาจากกลางอากาศ ลอบคิดว่า คงจะมิมีตาข่ายเหลืออยู่แล้ว
เท้าเพิ่งจะถึงพื้น… อีกแล้วหรือ ?
เขาถูกหิ้วขึ้นมาอีกครา และยังมีตาข่ายอยู่อีกหนึ่ง !
ทว่าตาข่ายนี้กลับแตกต่างออกไป เขาเหยียบลงไปบนแผ่นเหล็กที่อยู่บนตาข่าย นี่มันหมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?
มีตาข่ายทั้งบนและล่าง ข้าก็จะบินไปทางซ้ายและขวา…
ด้านซ้ายก็มีตาข่ายพุ่งเข้ามา ด้านขวาก็มีตาข่ายพุ่งเข้ามาเช่นกัน !
บนตาข่ายทั้งสองมีแผ่นเหล็กติดอยู่ กระบี่ย่อมฟันมิได้ เยี่ยงนั้นข้าก็จะทะลวงไปยังด้านหน้าและด้านหลัง !
ด้านหน้าและด้านหลังก็มีตาข่ายเช่นเดียวกัน
ทั่วทุกสารทิศ มีตาข่ายถึง 6 ผืน !
และทั่วทุกสารทิศ ยังมีกระบี่อีก 4 เล่ม !
บนตาข่ายทั้งหกมีเพียงตาข่ายจากบนท้องนภาเท่านั้นที่มิมีแผ่นเหล็ก บินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว หยูเวิ่นชูตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก กระบี่ในมือเปล่งแสงและกวัดแกว่งไปมา เขาลุกขึ้นยืน กระบี่ตวัดใส่ตาข่ายที่หล่นลงมาจากท้องนภา ตาข่ายแตก กระบี่ทั้งสี่กลับปรี่เข้ามาในชั่วพริบตา และได้กดให้เขาล้มลงไป หลังจากนั้น ก็มีตาข่ายตกลงมาจากท้องนภาอีกครา มีแผ่นเหล็กติดอยู่กับตาข่ายนี้
เขาล้มพับลงกับแผ่นเหล็กที่อยู่บนพื้น หลังจากนั้นแผ่นเหล็กที่อยู่ด้านซ้ายและขวาก็ถูกยกขึ้นปิด เขาตื่นกลัวอย่างถึงที่สุด แต่ก็ทำอันใดมิได้ แผ่นเหล็กที่อยู่บนท้องนภาตกลงมาดัง “ปึง ! ” ปิดด้านบนอย่างพอดิบพอดี เบื้องหน้าสายตาก็มืดมิดไปในพริบตา ทันใดนั้นจึงได้ตระหนักว่านี่คือ… โลงศพ !
“ปล่อยข้าออกไป ! ”
“ตึง ๆ ๆ ๆ…” เขาใช้กระบี่เคาะบนแผ่นเหล็ก ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก “หนวกหู ! ”
หลังจากนั้นก็มีควันลอยเข้ามา เพียงแค่ 10 อึดใจ หยูเวิ่นชูก็ได้นอนอยู่ในโลงศพอย่างไร้ซุ่มเสียงใด ๆ
หัวหน้ากลุ่มนายพรานตื่นตกใจตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ มิใช่ว่ามาล่าสัตว์เยี่ยงนั้นหรือ ? เหตุใดถึงมีผู้แข็งแกร่งของยุทธภพออกมามากมายถึงเพียงนี้ได้กัน ?
ในยามนั้นเอง หัวหน้านายพรานจึงกล่าวเสียงเรียบว่า “ไปเถอะ อย่ามอง อย่าคิด และอย่าได้เล่าอันใดออกไป มิเช่นนั้นหายนะจะมาเยือนเอาได้ ! ”
โลงศพนั้นบินลงไปถึงเชิงภูเขาหยุนโดยการใช้แปดคนหาม จากนั้นก็วางเอาไว้บนรถม้าพิเศษคันหนึ่ง
รถม้าถูกคลุมด้วยผ้าใบ คนขับรถม้า 2 คนขับออกไปจากภูเขาหยุน และออกจากเขตหยุนไหล จากนั้นก็ออกเดินทางไปยังจินหลิง
นกส่งสารออกบินไป โดยนำกระดาษไปด้วยหนึ่งใบ หยูเวิ่นชูถูกจับแล้ว สายลับโปรดรับช่วงต่อ
……
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)