นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 595

สรุปบท ตอนที่ 595 กวาดล้างจอมยุทธ์ชุดดำ: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 595 กวาดล้างจอมยุทธ์ชุดดำ – นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บท ตอนที่ 595 กวาดล้างจอมยุทธ์ชุดดำ ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ในหมวดนิยายทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 595 กวาดล้างจอมยุทธ์ชุดดำ

“ว่าเยี่ยงไรนะ ? ”

หยูเล่อปรี่เข้าไปถึงเบื้องหน้าของทหารได้ในหนึ่งก้าว คว้าคอของทหารผู้นั้นไว้และยกขึ้นอย่างสุดกำลัง

“แค่กแค่กแค่ก…”

ทหารผู้นั้นใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาปูดโปน หยูเล่อจึงรีบวางเขาลง “กองกำลังดาบเทวะมาจากเส้นทางใดกัน ? ”

“กระหม่อมมิทราบ พวกเขา… พวกเขามิได้ผ่านมาที่ปากทางขึ้นเขา เกรง… เกรงว่าจะลงมาจากท้องนภา ! ”

“พลั่ก… ! ” หยูเล่อเตะเข้าที่ท้องของทหารนายนั่น “มารดาเจ้าสิหล่นลงมาจากท้องนภา เจ้าคิดว่าพวกเขาเป็นเทพจริง ๆ หรือเยี่ยงไรกัน ? ”

เขาก้าวออกไปนอกกระโจมแล้วตวัดกระบี่ในมือไปมา “จอมยุทธ์ชุดดำทุกนายฟังคำสั่ง จงสังหารพวกมันทั้งหมดให้ซื่อจื่อ ! ”

กองกำลังดาบเทวะกองกำลังที่สามได้รุดหน้าเข้ามา 40 จั้ง จึงได้พบว่าศัตรูไหวตัวทันแล้ว

ศัตรูท่วมท้นทั้งซ้ายและขวากวัดแกว่งดาบและหอกทะยานมาทางพวกเขาราวกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก

กลุ่มทหารดาบเทวะจึงได้เริ่มสงครามในเวลาเดียวกัน พวกเขาพุ่งทะยานมาทางด้านหลังของศัตรู ดาบในมือทอประกาย ด้วยจำนวน 5 คนในหนึ่งทีม เคลื่อนไหวราวกับฐานหินโม่ พวกเขาเข้าไปในทัพของศัตรู ฉีกกระชากผู้คนราวกับเครื่องบดเนื้อ

ซูเจวี๋ยไม่มีเวลาขยับหมวก ดอกกระบี่แต่ละดอกบนกระบี่ไม้ของเขาวนไปรอบ ๆ แต่ละชีวิตที่อยู่เบื้องหน้าก็ค่อย ๆ หายไปเรื่อย ๆ

นี่คือทางนองเลือดกว้างราว 12 ฉื่อ !

กลุ่มที่สองของกองกำลังดาบเทวะก็แบ่งเป็น 5 คนในหนึ่งทีมเช่นเดียวกัน ดาบในมือตวัดโฉบไปมา คอยสกัดดาบและกระบี่ที่ข้าศึกฟันเข้าใส่ และเชือดเข้าที่ช่องท้องหรือไม่ก็ลำคอของศัตรู

เสียงโหยหวนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทัพของศัตรูยังคงเคลื่อนตัวอย่างดุเดือด เหยียบศพของสหายในกองทัพไปมา

ซูม่อชักปืนออกมา ต่อจากเสียงปืนของเขาที่ดังขึ้น กองกำลังดาบเทวะ 3,000 นายก็ได้ลั่นไกปืนต่อจากเขาทันที “ปังปังปังปัง…” เสียงปืนที่ดังอย่างดุเดือดดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่น่าอนาถ พวกเขาเก็บปืนและชักดาบในคราเดียว ด้วยการชี้นำของดาบ คาดไม่ถึงว่าจะไร้ศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าอีก !

ปืน 3,000 กระบอก กับอีก 3,000 ชีวิต !

ตายไปแล้วก็ถือว่าดี ยังมีคนอีกพันกว่าคนที่ถูกยิงไปแล้วแต่ยังไม่ตาย

สองมือของพวกเขากุมเข้าที่ท้องหรือไม่ก็ลำคอ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ปากของพวกเขาร้องโหยหวนราวกับหมูที่ถูกเชือด ดาบหล่นลงไปกับพื้นเนิ่นนานแล้วและคนกำลังถอยร่นอย่างบ้าคลั่ง

“อ๊าก…ไส้ของข้า ไส้ของข้าหลุดออกมาแล้ว ! ”

“ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย ข้ามิอยากตาย… ! ”

“……”

ไร้ความปรานี ไม่มีความเห็นใจ ท่ามกลางสายตาเย็นชาราวกับน้ำแข็งของทหารดาบเทวะ ใต้คมดาบอันหนาวเหน็บของพวกเขา ภายใต้ปากกระบอกปืนสีดำเมื่อม ทันใดนั้นก็มีคนในทัพศัตรูกู่ร้องขึ้นมาว่า “ทหารดาบเทวะ สู้มิได้ ข้ามิสู้แล้ว ! ”

ข้าศึกผู้นั้นหันหลังและวิ่งหนีไปทันที ทว่าวิ่งไปได้มิถึงสองก้าว ประกายดาบก็แล่นเข้าหาทันที ศีรษะของเขาปลิดปลิวไปในพลัน

“บุกเข้าไป ! สกัดพวกมันเอาไว้ สังหารพวกมันเสีย ! ”

เชียนฟูจ่างของศัตรูนายหนึ่งถือหอกและกวดไล่ให้ทหารกลุ่มนี้รุดหน้าต่อไป ซูม่อขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาหยิบระเบิดออกมาหนึ่งลูก ดึงสลักออกแล้วโยนไปตรงจุดที่เชียนฟูจ่างยืนอยู่

“ตู้ม… ! ”

เสียงระเบิดดังขึ้นมาพร้อมกับควัน เชียนฟูจ่างผู้นั้นถูกระเบิดจนร่างแหลกเป็นชิ้น ๆ ข้าศึกที่อยู่ห่างจากเขาไม่กี่จั้งต่างก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น

ซูเจวี๋ยทะยานไปด้านหน้า เขาเห็นกระโจมแล้ว !

ในยามนี้ดวงตาของหยูเล่อเบิกกว้างด้วยความตื่นกลัวถึงขีดสุด ในสมองขาวโพลนไปหมด

นี่เป็นการต่อสู้แบบใดกัน ?

คาดมิถึงว่าคนนับแสนจะสกัดทหารราบที่บุกมาประชิดมิได้ !

สีหน้าของขงริ่งหยูไม่ได้ต่างจากหยูเล่อสักเท่าใดนัก เพียงแต่ขงริ่งหยูตกอยู่ในอารามตกตะลึงเพียงชั่วครู่ก็ได้สติขึ้นมาก่อน เขากระชากหยูเล่อเข้ามาในกระโจมและกล่าวเสียงแผ่วว่า “ซื่อจื่อ ข้าศึกเข้ามาใกล้กระโจมแล้ว ได้โปรดถอยทัพโดยเร็วเถอะ ! ”

ซูเจวี๋ยหยุดฝีเท้าเพราะด้านหน้าถูกปิดกั้นด้วยทหารจำนวนนับพันที่ไม่กลัวตาย

เขาคิ้วขมวด ทันใดนั้นก็ดีดตัวขึ้นจากพื้น ลอยขึ้นไปบนอากาศเพียงก้าวทะยานก็ไปถึงยอดของกระโจม

“ยิงเขา รีบยิงเขาให้ตาย คนที่อยู่บนท้องนภานั่น ! ”

ลูกศรพุ่งไปหาซูเจวี๋ยอย่างบ้าคลั่งราวกับห่าฝน ทันใดนั้นอาภรณ์ขาวบนร่างก็โป่งพอง กระบี่ไม้ในมือทิ้งเศษเสี้ยวเอาไว้กลางอากาศ เขาฟันอาวุธที่ปรี่เข้ามาทั้งหมด หลังจากนั้นก็มาหยุดที่หน้าทางเข้ากระโจม กระบี่ไม้ของเขาวางอยู่บนลำคอของหยูเล่อ

“เจ้ามี 2 ทางเลือกคือบอกให้พวกเขาหยุดมือและยอมจำนน ไม่ก็…ตัดศีรษะของเจ้าทิ้ง”

ซูเจวี๋ยพาหยูเล่อเดินไปข้างหน้า ทหารจอมยุทธ์ชุดดำที่ยังมีชีวิตอยู่หยุดมือลงทันพลัน ศึกครานี้… จะจบลงทั้งเยี่ยงนี้น่ะหรือ ?

ยอดเยี่ยมยิ่ง !

หากสู้กันต่อไปก็มิทราบว่าจะต้องตกตายไปอีกกี่คน ข้าเองก็มิทราบว่าจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้หรือไม่

คาดมิถึงว่าจอมยุทธ์ชุดดำเหล่านั้นจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ไร้ซึ่งความอับอายที่ผู้นำฝ่ายตนถูกจับตัว

จนถึงขั้นมีจอมยุทธ์ชุดดำจำนวนหนึ่งภาวนาในใจอย่างสุดชีวิตว่า ‘องค์ชาย รีบยอมจำนนแต่โดยเร็วเถอะ ! ’

“เสียสละท่านเพียงหนึ่ง พวกเราชั้นผู้น้อยก็จะสามารถมีชีวิตต่อไปได้ พิธีเซ่นไหว้ในทุกปีพวกข้าจะเผากระดาษเงินและจุดธูป 1 ดอกให้กับท่าน”

ซูเจวี๋ยเห็นหยูเล่อยังไม่มีท่าทีจะตอบกลับ จึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ข้าจะนับสาม หลังจากครบสามแล้ว หากเจ้ายังมิยอมแพ้ ข้าจะเด็ดศีรษะเจ้าและสังหารทหารที่นี่ทั้งหมด ! ”

“สาม ! ”

“สอง หนึ่ง ! ”

หยูเล่อตื่นกลัวขึ้นมาทันพลัน นับเร็วแบบนี้ได้ที่ไหนกัน ให้เกียรติข้าหน่อยได้หรือไม่ ?

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยปากก็ได้ยินเสียง ‘คลิก…’ ดังขึ้นมา !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)