นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 609

สรุปบท ตอนที่ 609 แบบอย่าง: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

อ่านสรุป ตอนที่ 609 แบบอย่าง จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 609 แบบอย่าง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 609 แบบอย่าง

“เหตุใดถึงมิให้ข้าเข้าไปฟังการบรรยายของติ้งอันป๋อ ? ”

มีเสียงโวยวายดังมาจากด้านนอกของสำนักศึกษาจี้เซี่ย ซือหม่าเช่อหันไปเป็นเห็นว่าฝูงชนกลุ่มนั้นกำลังถูกเจ้าหน้าที่ขับไล่ออกไป

“ข้าบอกพวกเจ้าแล้วว่าติ้งอันป๋อเป็นผู้กำหนดการสอนให้แก่พ่อค้าและบัณฑิต พวกเจ้าเข้าไปฟัง ก็ฟังมิรู้เรื่องอยู่ดี ยังมิเข้าใจอีกเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ข้าเป็นพ่อค้าเช่นกัน พวกเจ้าเลือกปฏิบัติต่อข้า ข้าจะไปบอกติ้งอันป๋อ ! ”

เจ้าหน้าที่หัวเราะเย้ยหยัน “ ใช่ใช่ใช่ ! เจ้าก็เป็นพ่อค้าเหมือนกัน เจ้าเป็นคนขุดปุ๋ย ขุดจนกลายเป็นพ่อค้าแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? จ้าวเอ้อฮุ่นจื่อ ข้าจะบอกว่าถ้าหากเจ้ายังก่อความวุ่นวายอยู่อีก ข้าจะจับเจ้าไปนอนเล่นในคุกสักห้าวัน ! ”

จ้าวเอ้อฮุ่นจื่อเมื่อได้ยินดังนี้ก็ไม่กล้าก่อความวุ่นวายอีก ในที่สุดกลุ่มคนเหล่านั้นก็ถูกขับไล่ออกไป

“การบรรยายครานี้ มีที่นั่งเพียงแค่ 1,000 ที่เท่านั้น มิใช่ว่าข้ามิอยากให้พวกเจ้าได้ฟัง แต่สิ่งที่ติ้งอันป๋อจะบรรยายนั้นมันมิง่ายเลย ! ติ้งอันป๋องานยุ่งเป็นอย่างมาก ยังดีที่เขาสละเวลามาได้”

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากำลังคิดอันใดอยู่ แต่พวกเจ้าก็ต้องเข้าใจพวกข้าด้วยเช่นกัน รอการบรรยายนั้นเสร็จสิ้น เนื้อหาการบรรยายของติ้งอันป๋อจะถูกติดไว้ที่ประกาศช่วงเย็นนี้ เวลานั้นพวกเจ้าก็สามารถไปดูได้ ส่วนผู้ที่ดูแล้วจะเข้าใจมากน้อยเพียงใดก็อยู่ที่ตัวพวกเจ้าเองแล้ว”

“ทุกท่าน ขอให้สำนักศึกษานี้เป็นสถานที่ที่เงียบสงบด้วยเถิด เชิญกลับไปกันได้แล้ว ให้ติ้งอันป๋อได้บรรยายอย่างสงบ ข้า หนิงหยู่ชุน ขอโทษที่มิได้ดูแลทุกท่านอย่างดี โปรดให้อภัยด้วย ! ”

หนิงหยู่ชุนทำความเคารพให้กับผู้ที่ออกไป หลังจากไล่ฝูงชนออกไปจากถนนชูเซียงได้ ความสงบจึงได้กลับมาอีกครา

แต่ละคนมิเต็มใจที่จะจากไป แต่ก็มิมีทางเลือกเช่นกัน พวกเขาจึงจำต้องออกไปจากสำนักศึกษา

“ไอหยา… ข้ารีบมาตอนฟ้ายังมิสว่างเลยด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าจะได้เข้าไป แต่สุดท้ายก็โดนลากตัวออกมาอยู่ดี”

“อันนี้มินับ ข้ามาทั้งที่ยังมิได้แต่งตัวเลยซ้ำ กว่าจะเบียดเข้าไปถึงหน้าประตูห้องบรรยายได้ สุดท้ายก็โดนลากออกมามิใช่หรือ ? ”

“ช่างเถอะ ! ครานี้จวนผู้ว่าจินหลิงทำถูกแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็จะติดประกาศอยู่ดี พอถึงเวลานั้นพวกเราค่อยไปดูกันก็ยังมิสาย”

ในที่สุดผู้คนที่อยู่บนถนนชูเซียงก็ถูกกำจัดออกไปจนสิ้น หนิงหยู่ชุนเป็นผู้เฝ้าหน้าประตูสำนักศึกษาด้วยตนเอง เฝ้ามองผู้คนจากไปทีละคน ๆ เขาถึงได้ค่อย ๆ ลดความกังวลลงมา

เจ้าคนนี้… เหตุใดถึงชอบทำให้ข้าเหนื่อยนักนะ !

มิรู้ว่าผู้ใดเป็นคนปล่อยข่าวลือเรื่องนี้ ต่อไปถ้าเขาจะบรรยายอีกคราแล้วล่ะก็ คงต้องจัดเป็นการภายในแล้ว

ส่วนที่เหลืออยู่ด้านนอก คือพ่อค้าและบัณฑิตของราชวงศ์หยู

สำนักศึกษาจี้เซี่ยจำกัดจำนวนที่นั่งให้ผู้ที่มาจากสำนักศึกษาการค้าได้เข้าร่วมก่อน ข่าวลือนี้ทำให้บัณฑิตมากมายต้องการย้ายไปที่สำนักศึกษาการค้า เรื่องนี้ทำให้หลี่ชุนเฟิงนั้นปวดหัวมากยิ่งนัก

“คุณหนู ติ้งอันป๋อผู้นี้เก่งกาจจริงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ข้าก็มิรู้เช่นกัน ประเดี๋ยวลองฟังที่เขาบรรยายก็จะรู้เอง”

เสี่ยวซิงเอ๋อร์พยักหน้าและดึงแขนเสื้อของเจ้านาย “คุณหนู นั่นคือคุณชายหวางซุนอู๋หยาแห่งจวนหวางซุนนี่เจ้าคะ เขามาที่จวนซือหม่าของเราเมื่อปีที่แล้ว”

เมื่อซือหม่าเช่อได้ยินดังนั้น นางก็เม้มริมฝีปากแน่นทันที แต่มิได้หันไปมอง “เขาเป็นเพียงแค่คุณชายรองเท่านั้น คนละระดับกับพี่ชายของเขา หวางซุนอู๋จี้”

เสี่ยวซิงเอ๋อร์เหลือบสายตามองหวางซุนอู๋หยา แล้วบังเกิดความตึงเครียดขึ้นมาภายในใจ จากนั้นนางจึงดึงแขนเสื้อของซือหม่าเช่ออีกครา “คุณชายกำลังเดินมาทางนี้เจ้าค่ะ”

ในขณะนี้ หวางซุนอู๋หยากับสหายอีกสามคนกำลังเดินเข้าไปหาซือหม่าเช่อด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาทำความเคารพนางและเอ่ยว่า “ข้ามิรู้มาก่อนว่าน้องเช่อจะมาที่เมืองหลวงด้วย…”

“ตัวข้าจะมาที่เมืองหลวง ต้องรายงานเจ้าด้วยเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ถ้อยคำเดียวทำให้หวางซุนอู๋หยาสำลัก จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมาพลางเอ่ยว่า “น้องเช่อ…”

“โปรดเรียกข้าว่าคุณหนูซือหม่า หรือเรียกชื่อของข้าตรง ๆ ”

ทันใดนั้นฝูงชนก็ตื่นเต้นและโห่ร้องออกมาเสียงดัง !

“ติ้งอันป๋อ ! ”

“ฟู่เจวี๋ยเย ! ”

“ไอหยา… ข้าได้เห็นติ้งอันป๋อตัวจริงเยี่ยงนั้นหรือ ! ”

“เจ้าคือบุรุษ แต่เหตุใดเจ้าถึงได้ตื่นเต้นถึงเพียงนี้กัน ? ”

“เป็นบุรุษแล้วชื่นชมบุรุษด้วยกันมิได้หรือ ? ”

“…”

หวางซุนอู๋หยาหันไปมองฟู่เสี่ยวกวนที่โบกมือทักทายผู้คนด้วยสายตาเย่อหยิ่ง

โจ่งจี้ถังถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “ติ้งอันป๋อผู้นี้ไปทำสงครามที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ เขาทำให้กบฏเซวี๋ยโดนขังอยู่ในเมืองเจี้ยนเหมิน และด้วยบทเพลงฉู่ของเขาทำให้กองทัพของกบฏเซวี๋ยนั้นแตกพ่าย”

เขาพยักหน้า “ชายหนุ่มผู้นี้ จะเป็นแบบอย่างของการเรียนรู้ไปชั่วชีวิตของข้า ! ”

พอซือหม่าเช่อได้ยินดังนั้น นางก็สนใจและเอ่ยถามขึ้นมาทันทีว่า “สิ่งที่คุณชายโจ่งเอ่ยถึงนั้น…จริงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

โจ่งจี้ถังพยักหน้า “ข้าเกรงว่าราชสำนักยังมิได้ดึงความสามารถของติ้งอันป๋อผู้นี้ออกมาจนหมด คุณชายสามหยูก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน ติ้งอันป๋อสามารถแก้ไขปัญหาของเซวี๋ยติ้งชานได้ทันเวลา ทำให้การบุกจากทางสายเก่าจินหนิวถึงจินหลิงเป็นไปได้ยาก”

หวางซุนอู๋หยายกยิ้มออกมา “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ราชสำนักมักจะเอ่ยถึงการได้รับชัยชนะอย่างเกินจริง พวกเราอยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกับติ้งอันป๋อ บทกวีของเขาเก่งกาจก็จริง แต่หากเอ่ยถึงเรื่องการทำศึกสงคราม… ข้าคิดว่าท่านแม่ทัพเฟ่ยเก่งกาจยิ่งกว่า เพราะว่าเขาสามารถล่วงหน้าไปก่อนได้ เกรงว่าจะเสียทองไปมากโขเสียทีเดียว มิเช่นนั้นเขาจะใช้ช่วงเวลาสั้น ๆ ขึ้นเป็นเจวี๋ยได้เยี่ยงไร ? ”

ซือหม่าเช่อขมวดคิ้วเล็กน้อย มีคำเอ่ยสองสามคำหลุดออกมาจากปากของนาง “กบที่ก้นบ่อ ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)