นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 612

สรุปบท ตอนที่ 612 การแบกรับ บทเรียนที่สอง: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอน ตอนที่ 612 การแบกรับ บทเรียนที่สอง จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 612 การแบกรับ บทเรียนที่สอง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 612 การแบกรับ บทเรียนที่สอง

ทันทีที่ฟู่เสี่ยวกวนกล่าวสิ่งนี้ออกมาก็ได้มีเสียงหัวเราะดังมาจากด้านล่าง

ณ ที่แห่งนี้ สำหรับหุ้น พวกเขาได้เรียนรู้และเข้าใจถึงแก่นแท้แล้ว ทั้งหมดเป็นพ่อค้าที่มีอายุมากและมีไหวพริบทั้งสิ้น พวกเขาก็คิดถึงช่องโหว่ในเรื่องนี้เช่นกัน

แต่คาดมิถึงว่าติ้งอันป๋อได้ใช้สิทธิ์ในการออกและซื้อขายหุ้นให้ตกอยู่ในมือของตนเรียบร้อยแล้ว

ธนาคารซื่อทงเป็นศูนย์กลางการค้าเพียงแห่งเดียวในราชวงศ์หยู ทุกคนล้วนต้องผ่านการรับรองคุณสมบัติจากธนาคารซื่อทง หากพวกเขาต้องการออกหุ้นไปทั่วทุกสารทิศเพื่อระดมทุน ทางธนาคารก็ได้ป้องกันความคิดที่คดโกงในใจของทุกคนเอาไว้ทั้งหมดแล้ว

เถ้าแก่ของธนาคารซื่อทงคือหลี่จินโต้ว เบื้องหลังของธนาคารคือฮูหยินที่สามของติ้งอันป๋อ เยี่ยนเสี่ยวโหลว

ได้ยินมาว่าธนาคารซื่อทงจะประเมินผลผู้ที่ต้องการออกหุ้นจำนวน 100 คน และในปีนี้อนุญาตให้จดทะเบียนและออกหุ้นได้เพียง 10 หุ้นเท่านั้น

พ่อค้าที่ทำธุรกิจขนาดเล็กนั้นเลิกคิดถึงเรื่องนี้ไปได้เลย แต่ทว่าห้าตระกูลใหญ่กำลังเตรียมพร้อมในขณะนี้ ด้วยความแข็งแกร่งทางการค้าของพวกเขา พวกเขาย่อมสามารถผ่านการประเมินและเผยแพร่ไปทั่วสารทิศเพื่อระดมทุนในธุรกิจขนาดใหญ่ได้อย่างแน่นอน

นโยบายใหม่ของราชวงศ์หยูได้บรรจุพ่อค้าและเกษตรกรลงไปด้วย ตัวจริงของติ้งอันป๋อคือพ่อค้ารายใหญ่ และตอนนี้เค้าโครงของนโยบายก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และยังมีแนวโน้มที่จะเป็นประโยชน์ต่อห้าตระกูลใหญ่อีกด้วย

แน่นอนว่าตระกูลใหญ่ทั้งห้าย่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ด้วยความสามารถส่วนตัวของติ้งอันป๋อมีโอกาสสูงมากยิ่งนักที่เขาจะแซงหน้าตระกูลการค้าที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าในวันข้างหน้า

พวกเขามิได้ต้องการต่อสู้กับติ้งอันป๋อแต่อย่างใด แต่พวกเขาต้องการเพียงแค่ใช้การออกหุ้นเพื่อผลักดันการขายส่งของธุรกิจครอบครัวให้ครอบคลุมทั่วทั้งราชวงศ์หยู

แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

เค้กชิ้นนี้มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากที่จะต้องได้รับการแบ่งปันผลกำไรด้วย จะต้องทำเยี่ยงไรถึงจะได้รับชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดหาเงินทุนในรูปแบบที่เหมาะสม

เฮ้อซานเตาเกาหัวแกรก ๆ ทำหน้างุนงงเสียเต็มประดา พลางเอ่ยถามจงสือจี้ว่า “เจ้าฟังเข้าใจหรือไม่ ? ”

“พอเข้าใจคร่าว ๆ แล้วเจ้าล่ะ ? ”

“อ้อ… ข้ารู้เพียงแค่ว่าโจวเถียเจี้ยงและจางเสี่ยวฮวาแต่งงานกันแล้ว ถือว่าเรื่องนี้จบลงอย่างมีความสุข ! ”

จงสือจี้ถลึงตาใส่เฮ้อซานเตาแล้วนึกถึงคำเอ่ยนี้ขึ้นมาได้ เก่งแต่การเป็นทหาร !

คนเหล่านั้นคิดว่าฟู่เสี่ยวกวนได้บรรยายจนจบบทเรียนแล้ว แต่คาดมิถึงว่าฟู่เสี่ยวกวนจะหันกลับมาและเขียนตัวอักษรสองตัวบนกระดานขาวว่า เงินกองทุน !

เงินกองทุนคืออันใดกัน ?

ผู้คนในห้องบรรยายกว่าหนึ่งพันคนกลับมาเงียบสงบลงอีกครา

“โจวเถียเจี้ยงอยู่ที่เขตผิงหลิง เขาตระหนักถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของหุ้นนี้ หลี่ซานที่ให้ความคิดกับโจวเถียเจี้ยงก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมัน แต่เขากลับคิดว่าตนเองนั้น มิใช่ช่างตีเหล็กที่มีทักษะและมิมีเงินที่จะลงทุนหุ้น แล้วเขาสามารถทำอันใดได้บ้างกัน ?

หลี่ซานดื่มสุราและกำลังวิเคราะห์ตนเอง ใช่แล้ว ! ข้านั้นมีสายตาที่แหลมคมมากยิ่งนัก ข้าคุ้นเคยกับแวดวงของหุ้น ผู้คนในเขตผิงหลิงรู้ดีว่าข้าเป็นผู้ให้ข้อคิดนี้แก่โจวเถียเจี้ยงในตอนแรก และข้าก็เป็นคนพาเขาไปพบผู้เฒ่าเฉียนจนประสบความสำเร็จ

ข้าเป็นผู้มีชื่อเสียงในตลาดการค้านี้ ดังนั้นข้าจะปล่อยผลิตภัณฑ์บางอย่างออกไป พวกเขาจะต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลี่ซานมิมีสิ่งใดเลย เขาจะปล่อยผลิตภัณฑ์ใดได้บ้างกัน ? ”

เมื่อฟู่เสี่ยวกวนกล่าวมาถึงตรงนี้ ทุกคนก็ได้ครุ่นคิดขึ้นมาอีกคราและมิว่าจะคิดเท่าใดก็มิเข้าใจ

เฮ้อซานเตาตั้งใจฟังและคิดว่าท่านผู้นี้เก่งกาจยิ่ง

แต่เยี่ยงไรเสีย ในตระกูลพ่อค้าหลายคนก็กำลังขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ โดยกำลังแยกแยะเรื่องที่ฟู่เสี่ยวกวนได้ปลูกฝังเอาไว้อย่างรอบคอบ

เรื่องเช่นนี้ เมื่อสมัยก่อนมิเคยมี เนื่องจากรูปแบบการค้าขายโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับตระกูลการค้านั้น ๆ กำหนด

หากตระกูลมีอำนาจ หากต้องการทำธุรกิจ โดยพื้นฐานแล้วทุกคนในตระกูลจะรวบรวมเงินสำรองเอาไว้ในมือ หัวหน้าครอบครัวสร้างโรงงานผลิตสินค้า จากนั้นตัวแทนตระกูลก็ยังไปพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเปิดร้านค้าแล้วขาย สุดท้ายก็แจกจ่ายเงินปันผลตามผลประกอบการ

จากข้อมูลที่ฟู่เสี่ยวกวนบรรยาย รูปแบบการค้าแบบนี้น่าจะเรียกว่ากองทุนดั้งเดิม

เห็นได้ชัดว่าโครงสร้างดังกล่าวล้าหลังและมิมีข้อได้เปรียบเหมือนกองทุนที่ติ้งอันป๋อกล่าวถึง

กองทุนที่ติ้งอันป๋อกล่าวถึง สามารถเข้าร่วมลงทุนได้ทั้งใต้หล้า มิต้องเอ่ยถึงขนาดที่ใหญ่โต ด้วยจำนวนเงินดังกล่าวทำให้สามารถขายส่งและลงทุนในอุตสาหกรรมของผู้อื่นได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

ตระกูลใหญ่หรือพ่อค้ารายใหญ่นั้นมองว่าหุ้นเป็นสิ่งที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ได้ยินมาว่าหุ้นของติ้งอันป๋อระดมทุนได้ 8 ล้านตำลึง และใช้เวลาขายหุ้นทั้งหมดเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น

นี่ยังคงเป็นสถานการณ์ที่หลายคนมิสามารถใช้เงินซื้อได้ เมื่อหุ้นซีซานมีการจดทะเบียน ราคาหุ้นก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน และผู้ที่ถือหุ้นเหล่านั้นก็จะทำเงินได้มากโขเสียทีเดียว

ขณะนี้ซือหม่าเช่อได้ยกมือขึ้น

ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า “บอกปัญหาของเจ้ามา”

“ข้าต้องการถามว่า หากต้องการออกหุ้นต้องมีเงื่อนไขอันใดบ้าง ? ”

นี่เป็นคำถามแทนใจของพ่อค้าอีกหลายคนที่ต้องการออกหุ้น พวกเขาสงบสติอารมณ์และรอฟังคำอธิบายจากติ้งอันป๋อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)