ณ วังหลัง ตำหนักองค์หญิงใหญ่
สุริยาในฤดูใบไม้ผลิช่างงดงามยิ่ง หมู่มวลผกาบานสะพรั่งหลากหลายสีสันนับร้อยดอกอยู่ที่อุทยานหลังตำหนักขององค์หญิงใหญ่
ท่ามกลางดอกไม้งดงามเหล่านี้ องค์หญิงใหญ่ หยูซูหรง กำลังเดินเล่นอยู่ ทว่ามิได้มาชื่นชมดอกไม้ นางกำลังตั้งใจอ่านบทความสองสามหน้าที่ถือเอาไว้ในมือ
นี่คือเนื้อหาการบรรยายของฟู่เสี่ยวกวนที่สำนักศึกษาจี้เซี่ย ในวันนี้เขาบอกว่าเป็นการสอน คงจะดีกว่านี้หากเอ่ยว่าเป็นการเล่าเรื่อง แต่เรื่องนี้ก็ค่อนข้างน่าสนใจ อย่างน้อยหยูซูหรงอ่านแล้วก็เข้าใจว่าหุ้นคือสิ่งใดกันแน่
องค์หญิงสาม หยูชิงหลาน กำลังเดินตามหลังมาติด ๆ แต่ทว่าองค์หญิงใหญ่หยูซูหรงนั้นหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ หยูชิงหรานจึงหยุดเดินจากนั้นก็ค่อย ๆ ก้มตัวลงไปเชยชมดอกกุหลาบข้างทาง
ดอกกุหลาบนั้นมีสีแดงสด ส่งกลิ่นหอม
แต่ทว่าความสนใจของนางกลับมิได้อยู่ที่ดอกกุหลาบนี้ แต่นางกำลังคิดถึงฮั่วหวยจิ่นอยู่…
เจ้านั่นไปโดยมิบอกกล่าว สงครามที่ชายแดนตะวันตกเฉียงใต้ก็จบลงแล้วคาดว่าเขาคงจะกลับมาเร็ว ๆ นี้
ได้ยินมาว่าเสด็จพ่อโกรธเป็นอย่างมากที่เขาจากไปโดยมิขออนุญาต เขาเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์ส่วนพระองค์ในเมืองหลวงนี้ การละทิ้งหน้าที่โดยมิได้รับอนุญาตถือเป็นความผิดที่ใหญ่หลวงยิ่ง ดังนั้นนางจะลองปรึกษากับท่านอาหญิง และเชิญท่านอาหญิงไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อพร้อมกันเพื่อขออภัยโทษให้แก่เขา
“เขานั้น…เป็นผู้ที่แปลกประหลาดแห่งยุคสมัยอย่างแท้จริง ! ”
หยูซูหรงเก็บกระดาษบทความเอาไว้ จากนั้นก็เริ่มขยับตัวแล้วเดินไปที่ศาลาหลิวเซียง
หยูชิงหลานเดินตามนางไป แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงต่ำว่า “ผู้ที่ท่านน้าหญิงกล่าวถึงคือติ้งอันป๋อเยี่ยงนั้นหรือเพคะ ? ”
หยูซูหรงพยักหน้า “นอกจากเขาแล้วจะมีผู้ใดแปลกประหลาดอีกกัน ? ” นางกล่าวจบก็นั่งลงในศาลาหลิวเซียง สักพักก็มีนางกำนัลนำชาและขนมมาถวาย “เริ่มจากบทกวี บทความ จนไปถึงอุตสาหกรรมในซีซาน และเมื่อมาถึงจินหลิงก็ได้เข้าไปในท้องพระโรง…”
ใบหน้าที่อ่อนหวานของหยูซูหรงผินไปทางสวนกุหลาบนอกศาลาแล้วยิ้มออกมา “โชคชะตาของหลายคนเปลี่ยนไปเพราะเขา ทุกวันนี้เหลือเพียงผู้มีอำนาจแห่งตระกูลเยี่ยนที่ทิ้งห่างอีก 6 ตระกูลไว้เบื้องหลัง แม้แต่เจ้าเองก็ตาม โชคชะตาของเจ้าก็เปลี่ยนไปเพราะเขาเช่นกัน”
หยูชิงหลานต้มน้ำชาอยู่และพยักหน้าเห็นด้วย “ชิงหลานจะจดจำสิ่งนี้ไว้เพคะ”
“ต่อไปเขาจะเปลี่ยนโชคชะตาของผู้คนอีกมากมาย เช่นผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการสอบเอินเคอ เช่นคนที่จะย้ายไปยังว่อเฟิงเต้า และเหล่าพ่อค้าในราชวงศ์หยู”
ทันใดนั้นนางก็ถอนหายใจออกมา “ใต้หล้านี้กำลังเริ่มเปลี่ยนในคราเดียว ดูเหมือนจะซ่อนเร้นมาพร้อมกับสายลมอ่อนโยนยามราตรีเพื่อหล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่งด้วยความเงียบงัน ”
ความรู้สึกของหยูชิงหลานที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงในใต้หล้านั้นมิชัดเจนนัก ดังนั้นนางจึงมิได้ออกความคิดเห็นใด ๆ แต่กลับเอ่ยว่า “หลายวันที่ผ่านมาได้ติดตามเสด็จแม่ไปที่ภูเขาเถิงซี บังเอิญได้พบกับสตรีนางหนึ่งชื่อว่า ซือหม่าเช่อ และได้สนทนากับนางอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงได้รู้ว่านางเป็นคุณหนูของตระกูลซือหม่าแห่งหยิงชิว นางเอ่ยว่า… เอ่ยว่านางจะเข้าร่วมในการสอบเอินเคอครานี้ด้วยเช่นกัน”
หยูชิงหลานเอ่ยไปพลางเอาช้อนชาใส่ลงไปในถ้วยชา “ท่านน้าหญิง สตรีมีสิทธิ์เข้าสอบในครานี้ด้วยหรือเพคะ ? ”
“ในอดีตมิเคยมีมาก่อน แต่ทว่าในอนาคตอาจจะมี”
“แต่มิเคยมีขนบธรรมเนียมเช่นนี้มาก่อน ! ”
“หลานน้อยเอ๋ย ขนบธรรมเนียมสมัยโบราณกำลังจะถูกทำลาย”
“…เป็นเพราะติ้งอันป๋อเยี่ยงนั้นหรือเพคะ ? ”
“ใช่ เพราะติ้งอันป๋อ ! ”
……
……
ฟู่เสี่ยวกวนกำลังมุ่งหน้ามาที่ตำหนักขององค์หญิงใหญ่
ตามความคิดของเขานั้น จวนสุดท้ายเขาตั้งใจจะมอบให้ฮองเฮาซั่ง แต่ทว่าเหตุใดต่งคังผิงจึงเสนอให้องค์หญิงใหญ่แทนเล่า
หลังจากพิจารณาแล้ว เขาก็ได้ยอมรับความคิดเห็นของต่งคังผิงด้วยเหตุผล 2 ประการ
ประการแรก การสืบทอดบัลลังก์ของราชวงศ์หยูดูเหมือนจะมั่นคงแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)