ตอนที่ 646 เรื่องเล็กเรื่องใหญ่
สำหรับอนาคตนับจากนี้ของหยูเวิ่นชู ฟู่เสี่ยวกวนมิได้เอ่ยถึงอีกเลย
เพราะเขางานยุ่งเป็นอย่างมาก !
เมื่อออกจากวังหลวงแล้ว เขาก็ได้ขึ้นรถม้าเพื่อออกเดินทางไปยังวัดฟูจื่อกับสวี่ซินเหยียนทันที
เขาต้องการพิสูจน์ว่าที่ริมหน้าผาของวัดฟูจื่อมีประตูหินอยู่จริงหรือไม่… หยูเวิ่นชูกล่าวว่าขุมทรัพย์ของราชวงศ์เฉินที่ซ่อนอยู่ในนั้นมีจำนวนมหาศาลและมากกว่าแคว้นของศัตรูหลายเท่า !
หากสามารถค้นพบได้ก็จะทำให้ปัญหาเรื่องเงินในท้องพระคลังของราชวงศ์หยูถูกเติมเต็มขึ้นมา
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขามิเคยคิดที่จะยึดขุมทรัพย์นั้นมาเป็นของตนเอง แต่ทว่าจะสามารถปกปิดการระเบิดและรื้อถอนที่วัดฟูจื่อในจินหลิงครานี้ได้เยี่ยงไร ?
มีสายฝนตกปรอย ๆ ลงมาจากท้องนภาที่มืดมิด ฟู่เสี่ยวกวนและสวี่ซินเหยียนเดินขึ้นไปด้านบนของภูเขา ประตูทางขึ้นภูเขานั้นถึงแม้จะทรุดโทรมไปบ้างแต่ก็ยังมิมีท่าทีที่จะพังลงมาโดยง่าย
เมื่อทั้งสองคนเดินมาถึงครึ่งทางก็ได้พบกับต้นพุทราที่ยืนต้นโดดเด่น จากนั้นก็ได้เดินผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่มจนมาถึงบริเวณริมหน้าผา
ฟู่เสี่ยวกวนมองลงไปจากตรงหน้าผา…นี่คือหน้าผาที่สูงชันมากยิ่งนัก เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จากนั้นก็หยิบเอามู่โต่วออกมา
“ช่วยถือหน่อย ข้าจะลงไปสำรวจดู”
สวี่ซินเหยียนเหลือบมองฟู่เสี่ยวกวน ในใจคิดว่าอีกฝ่ายมีฝีมือเพียงแค่ระดับขั้นสามเท่านั้น หากเกิดข้อผิดพลาดแล้วตกลงไป เกรงว่าจะดึงขึ้นมาได้ยาก
“ข้าลงไปเองจะดีกว่า ส่วนท่านรอที่นี่เถิด”
นางกล่าวเสร็จก็ได้ใช้วิชาตัวเบาทยานลงไป “ท่านระวังตัวด้วย ! ”
สวี่ซินเหยียนหันมามองแล้วยกยิ้มให้ เมื่อเห็นเช่นนี้หัวใจของฟู่เสี่ยวกวนก็สั่นไหวขึ้นมาทันที
สวี่ซินเหยียนทยานลงไปด้านล่างหน้าผา หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยามนางก็ได้ทะยานขึ้นมาบนหน้าผาตามเดิม
“พบสิ่งใดหรือไม่ ? ”
“มิมีจุดให้แวะพักเลยเพราะหน้าผาเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและมีร่องรอยของการแกะสลัก ข้าจึงมิรู้ว่าประตูทางเข้าอยู่ที่ใด”
“หากข้าลงไปเองจะมีปัญหาอันใดหรือไม่ ? ”
สวี่ซินเหยียนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “มีอย่างแน่นอน เนื่องจากกำลังภายในของเจ้ายังมิต่อเนื่องจึงสามารถตกลงไปได้โดยง่าย นอกเสียจากว่าจะผูกกายด้วยเชือกเอาไว้”
“ได้ ! ถ้าเช่นนั้นก็รีบลงมือเถิด”
ทั้งสองคนเดินลงมาจากภูเขา โดยไม่รู้ว่าที่บนยอดเขานั้นมีคนผู้หนึ่งมาสร้างกระท่อมหลังเล็กเอาไว้
บัดนี้มีคนผู้หนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในกระท่อมหลังนั้น
ในเวลานี้ ร่างของบุคคลผู้นั้นถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีขาวขุ่น ถึงแม้ว่าจะยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็มิอาจเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน
เขากำลังรักษาบาดแผลให้ตนเองอยู่ บนร่างกายนั้นปรากฏบาดแผลอยู่สองจุด ตรงส่วนสะโพกดูเหมือนจะสาหัสที่สุด
อานุภาพของกระสุนทำให้ผู้มีวรยุทธระดังสูงสุดในใต้หล้านี้ยังต้องเกรงกลัว !
กระสุนนัดนั้นทะลุแผ่นเหล็กเข้ามาถึงสะโพกของเขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส !
อีกนัดหนึ่งกระทบเข้าที่แขนขวา รอยกระสุนขนาดเท่านิ้วมือ เกิดขึ้นจากการที่ปรมาจารย์ดึงมันออกมาด้วยตนเอง
เขาดึงกระสุนขนาดใหญ่สองนัดนี้ออกมาได้แล้ว ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าตนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับฟู่เสี่ยวกวนอย่างดีแล้ว แต่ตนกลับไม่เคยคาดคิดเลยว่าเจ้าเด็กคนนั้นจะซุกซ่อนอาวุธสังหารเช่นนี้เอาไว้ !
ชะล่าใจจนเกินไป !
ตัวข้าเคยใช้โลงศพเหล็กมาก่อนแล้ว แต่ครานี้กลับไม่สามารถหลีกเลี่ยงศาสตราเทพนี้ได้
แล่นเรือหมื่นปีอย่างระมัดระวัง แต่กลับมาพลิกคว่ำในร่องน้ำ !
ปืนคาบศิลายังนับว่าเป็นเพียงรุ่นหลานของปืนที่ปล่อยกระสุนสองนัดนี้ออกมา
ดังนั้นบาดแผลจากกระสุนทั้งสองจุดนี้ ทำให้เขาต้องใช้กำลังภายในรักษาและต้องใช้เวลานานหลายวัน จนบังเกิดความกังวลขึ้นมาเป็นอย่างมาก
สิ่งที่อยู่ด้านล่างนี้คือขุมทรัพย์ของราชวงศ์เฉิน บัดนี้เขามิแน่ใจว่าเรื่องขุมทรัพย์ถูกเปิดเผยแล้วหรือไม่ ? ส่วนตนเองก็ยังต้องใช้เวลารักษาตัวอีกอย่างน้อย 3 วัน หลังจาก 3 วันแล้วคาดว่าอาการบาดเจ็บก็คงจะมิส่งผลกระทบต่อสิ่งที่ตนกำลังจะจัดการมากนักแล้ว
ตอนนั้นหยูเวิ่นชูได้รับการปล่อยตัวจากฉางถิงภายใต้เขตปกครองของด่านชีผาน คาดว่าตอนนี้เขาก็คงถูกจับตัวกลับมาแล้วเช่นกัน
เกรงว่าฟู่เสี่ยวกวนและฮ่องเต้จะทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน
หึ ๆ…เวลานี้บรรดาศิษย์สำนักเต๋าคงไปถึงลัทธิจันทราแล้ว อาจารย์กวนจูเอ๋ย เกรงว่าบัดนี้ท่านก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นกัน !
……
……
วังหลวงแห่งราชวงศ์หยู ณ ห้องทรงพระอักษร
ตอนที่ฟู่เสี่ยวกวนมาถึงห้องทรงพระอักษรก็ยามเซินแล้ว
แต่ทว่าเขายังมิทันได้เดินเข้าไป ก็มีเสียงดังออกมาจากข้างในห้องทรงพระอักษรนี้แล้ว
“ฮั่วหวยจิ่น เจ้าช่างบังอาจมากยิ่งนัก ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)