ตอนที่ 691 แบ่งแยก
“ปืนใช้กันเยี่ยงนี้ เจ้ายิงต่อเถิด”
“เมื่อครู่เหมือนจะยิงมิโดนเป้าหมาย”
“…ก็พอใช้ได้ แท้ที่จริงข้ากลัวว่าเจ้าจะยิงโดนหนิงซือเหยียนเสียมากกว่า”
“…ข้าจะพยายามมิยิงให้โดนฝั่งเดียวกัน”
“กระบี่ซี่เจี้ยนของจางเพ่ยเอ๋อร์บินว่อน นางงัดทักษะการต่อสู้ทั้งหมดที่มีมาตั้งรับสลับกับโจมตีผู้บุกรุกทั้งสี่ แต่ทว่านางได้ตกอยู่ในสภาวะอันตรายอย่างยิ่ง จนทำให้ต้องถอยร่นไปกว่าห้าก้าว”
“ข้าจะช่วยเจ้าเอง ! ”
หนิงซือเหยียนพุ่งตัวเข้าไปโจมตีทางด้านขวามือ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืน ‘ปัง ปัง ปัง’ ตามมาสามนัดติด
“เจ้าลงไปช่วยด้านล่างเหมือนเดิมเถอะ”
หนิงซือเหยียนเหินร่างทะยานสู่นภา จากนั้นก็ได้เห็นจอมยุทธ์ 3 คนล้มลงกับพื้นผ่านทางหางตา
กระบี่นี้…เหมือนจะไร้ประโยชน์สิ้นดี !
คงต้องไปขอปืนสัก 2 กระบอกจากฟู่เสี่ยวกวนเสียแล้ว ข้าจะได้เป็นเฉกเช่นซูซูที่อาภรณ์ของนางนั้นมิได้เปื้อนเลือดเลยแม้แต่หยดเดียว
ช่างสุดยอดเสียจริง
มิต้องเป็นเช่นตนที่บินเหินไปมาราวกับคนโง่เขลา หากมิใช่เพราะนักรบมือสมัครเล่นผู้นั้น ข้าคงมิต้องลำบากตรากตรำถึงเพียงนี้ !
เขารุดเข้าไปท่ามกลางหยาดฝนแล้วไปร่วมต่อสู้ที่เบื้องล่าง รู้สึกว่าที่นี่จึงจะเป็นการต่อสู้วิถีชาวยุทธ์อย่างแท้จริง
เขาสังหารด้วยความรู้สึกฮึกเหิม กระบี่กวัดแกว่งไปมาท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ พรากทุกดวงวิญญาณอย่างสุดกำลัง เขาถอยหนึ่งก้าว จากนั้นก็ใช้กระบี่ฟาดฟันไปยังจอมยุทธ์อีกคนหนึ่ง
ฟู่เสี่ยวกวนเหลือบมองหนึ่งครา บัดนี้จางเพ่ยเอ๋อร์กำลังฟาดกระบี่สังหารจอมยุทธ์ทางขวามือที่หลงเหลือเป็นคนสุดท้าย การสู้รบบนชั้นสองจึงจบสิ้นลงอย่างง่ายดายเช่นนี้
เขาส่ายศีรษะแล้วพึมพำกับตนเองหนึ่งประโยคว่า “ต่อให้หมัดมวยดีเพียงใดก็แพ้มีดทำครัวอยู่ดี”
เขาพึมพำยังมิทันสิ้นเสียง บนชั้นสองก็มีเสียงการสู้รบดังขึ้นมาอีกครา
ทันใดนั้นก็มีคนเดินออกมาจากห้องนี้อีกหนึ่งคน ขาข้างขวาของเขาก้าวมาด้านหน้าจากนั้นก็ลากขาซ้ายตามมาติด ๆ ขาขวาก้าวมาด้านหน้าอีกหนึ่งก้าวจากนั้นก็ลากขาซ้ายมาด้านหน้าอีกหนึ่งก้าว…เขาเป็นคนพิการเดินขาเป๋
คนขาเป๋ผู้นี้ก้าวมาด้านหน้าสองก้าวแล้วหยุด จากนั้นก็เหยียดยืดเอวตรงแล้วจ้องมองไปทางฟู่เสี่ยวกวน
หลังจากนั้นในห้องก็มีคนเดินออกมาอีก 1 คน
คนผู้นั้นเป็นชายหนุ่ม บนหลังสะพายดาบที่มีปลอกผ้าสีดำห่อหุ้มเอาไว้อยู่
ชายหนุ่มผู้นี้ก้าวออกมาหนึ่งก้าวแล้วยืนอยู่ด้านหลังของคนขาเป๋
จากนั้นก็มีคนเดินออกมาอีกหนึ่งคนเป็นสตรี ในมือของนางถือขลุ่ยไม้ไผ่หนึ่งเลา
นางและชายหนุ่มยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กัน และสายตาของทั้งสามล้วนจดจ้องไปที่ใบหน้าของฟู่เสี่ยวกวน
ชายขาเป๋ได้เอ่ยออกมาว่า “ติ้งอันป๋อ ชาวยุทธภพไปทำอันใดให้เจ้าเยี่ยงนั้นหรือ ? เจ้าเป็นนายน้อยเศรษฐีที่ดิน การเป็นนายน้อยเจ้าสำราญมิประเสริฐหรอกหรือ ? เหตุใดต้องก่อตั้งสำนักมือปราบหกประตูนั่นด้วย ? ”
“พวกเจ้าเป็นผู้ใด ? ”
“พวกข้า…มาเอาชีวิตไอ้ลูกสุนัขเช่นเจ้าเยี่ยงไรเล่า”
ชายขาเป๋ผู้นั้นยืดกายขึ้นด้วยความโอหัง
ฟู่เสี่ยวกวนยกมือข้างที่ถือกระบอกปืนขึ้นมาแล้วเอ่ยหนึ่งประโยคว่า “คำว่าไอ้งั่งช่างเหมาะกับพวกเจ้ายิ่ง”
‘ปัง… ! ’
‘เฉี้ยง… ! ’
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า… ! ”
ชายขาเป๋หัวเราะร่า !
“เป็นเยี่ยงไรบ้างเล่า ? ของเล่นกระจอกของเจ้ามิอาจทะลุทะลวงหน้าอกเหล็กกล้าของข้าได้หรอก”
ฟู่เสี่ยวยกปืนขึ้นมาอีกหนึ่งคราแล้วเอ่ยอีกหนึ่งประโยค “ช่างไร้สมองอย่างแท้จริง ! ”
‘ปัง… ! ’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)