ตอนที่ 733 เรือนใหญ่ตระกูลจาง
คณะเดินทางของฟู่เสี่ยวกวนเดินทางมาถึงหนิงซาน
จางผิงจวี่แห่งตระกูลจางได้ทราบข่าวนี้ในยามพลบค่ำ เขากำลังนั่งอยู่ในสวนดอกไม้ด้านหลังเรือนพร้อมจดจ้องชายวัยกลางคนรูปงามที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เขาเอ่ยถามว่า “คุณชายจี้ ควรเจรจาก่อนใช้กำลังหรือจะให้กำลังก่อนเจรจา ? ”
บุรุษวัยกลางคนผู้นี้คือจี้หยุนกุย !
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ องค์ชายหกเยียนหานยวี่ได้รับจดหมายจากฟู่เสี่ยวกวน จากนั้นจี้หยุนกุยก็ได้รับคำสั่งให้เดินทางออกมาจากแคว้นอี๋ทันที
จี้หยุนกุยแวะพักที่เมืองว่อเฟิง 1 วัน เพื่อมองไปทั่วสารทิศและคอยลอบฟัง พร้อมกระทำการสิ่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ตรงมายังที่นี่เพราะเยียนหานยวี่กล่าวว่า ตระกูลจางและอัครมหาเสนาบดีเปียนมู่หยูแห่งแคว้นอี๋มีความสัมพันธ์กันแบบเครือญาติ
จากรายงานของสายลับหอซี่หยู่ประจำเมืองไท่หลิน พบว่าเปียนมู่หยูได้มีการติดต่อกับตระกูลจางในเมืองไท่หลินถึง 2 ครา เรื่องนี้จี้หยุนกุยสนอกสนใจเป็นอย่างมาก
สุดท้ายเขาก็ได้รับข่าวที่ต้องการว่าจักรพรรดิแคว้นอี๋เยียนเหลียงเจ๋อต้องการให้ว่อเฟิงเต้าเกิดความโกลาหล ส่วนสิ่งที่เปียนมู่หยูต้องการคือชีวิตของฟู่เสี่ยวกวน !
เรื่องนี้จึงตกเป็นหน้าที่ของคนทั้งสอง หนึ่งคือจางผิงจวี่มีหน้าที่ทำให้ว่อเฟิงเต้าเกิดความโกลาหล สองคือเฉียวลิ่วเยมีหน้าที่สังหารฟู่เสี่ยวกวน !
เหตุที่ตลอดการเดินทางของฟู่เสี่ยวกวนมิพบเรื่องอันใด ย่อมเพราะเฉียวลิ่วเยเสียชีวิตแล้วนั่นเอง !
ยามค่ำของวันนั้น ก่อนที่ฟู่เสี่ยวกวนจะออกจากเมืองว่อเฟิงมา 1 วัน จี้หยุนกุยได้ไปเรือนเฉียวแล้ว 1 รอบโดยมิมีผู้ใดพบเห็น
เขาได้วางงูตัวหนึ่งไว้บนคานในห้องหนังสือของเฉียวลิ่วเย
ปากของงูตรงกับโต๊ะน้ำชาของเฉียวลิ่วเยพอดิบพอดี
เฉียวลิ่วเยชอบดื่มชา โดยเฉพาะชาเหยียนฉาที่ผลิตบนภูเขาต่งของแคว้นอี๋
งูตัวนี้ชอบกลิ่นของชาชนิดนี้มากเช่นกัน มันจึงมีชื่อเรียกว่า งูหินภูเขาต่ง
ในคืนนั้น เฉียวลิ่วเยได้รับคำสั่งลับจากเปียนมู่หยูจึงรู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมา เขาขังตนเองไว้ในห้องหนังสือเพียงคนเดียว ต้มชาหนึ่งกาเหมือนวันก่อน ๆ เดิมทีกำลังครุ่นคิดถึงผลกำไรและขาดทุนของเรื่องนี้จึงมิทันได้ตระหนักถึงงูพิษตัวนั้นที่ได้กลิ่นของชาและมีน้ำลายหยดออกมาจากลิ้นสองสามหยด
แท้จริงแล้วเฉียวลิ่วเยตายอย่างมิเป็นธรรมสักเท่าใดนัก แรกเริ่มที่เขาสามารถยืนหยัดในเมืองว่อเฟิงได้ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเปียนมู่หยู
แต่ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้กลับแตกต่างออกไปเพราะเขาได้เห็นการลงมือในว่อเฟิงเต้าของฟู่เสี่ยวกวนด้วยตาของตนเอง และรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก
คาดมิถึงว่าเปียนมู่หยูจะให้เขาหาโอกาสสังหารฟู่เสี่ยวกวนเสีย โอกาสนั้นย่อมมีอยู่แล้ว เนื่องจากฟู่เสี่ยวกวนให้ความสนิทสนมกับเหล่าพ่อค้าและไร้ซึ่งความระแวดระวังตัวแต่อย่างใด
อาศัยเพียงผู้มีฝีมือระดับสูงขั้นหนึ่งเยี่ยงเฉียวลิ่วเย การลอบสังหารฟู่เสี่ยวกวนจึงถือว่ามิใช่เรื่องยาก
แต่ทว่าหากทำเยี่ยงนั้นแล้ว เขาย่อมต้องตายเพราะถึงแม้เปียนมู่หยูจะรับปากถึงผลประโยชน์มากมาย แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าติ้งอันป๋อดูน่าเชื่อถือมากกว่าเล็กน้อย
ด้านจี้หยุนกุยมิได้รู้ถึงความคิดของเฉียวลิ่วเย เนื่องจากในสายตาของเขา ทุกอย่างที่มิเอื้อประโยชน์ต่อฟู่เสี่ยวกวนย่อมต้องทำการลบทิ้งทุกวิถีทาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)