ตอนที่ 736 งานเลี้ยงหงเหมิน ( จบ )
“ท่านจางมิต้องเป็นกังวลไปหรอก”
จางผิงจวี่รีบเอ่ยขึ้นมาว่า “ติ้งอันป๋อมีความสำคัญต่ออนาคตของว่อเฟิงเต้า เรื่องเช่นนี้จึงสมควรแล้ว สวมควรแล้วขอรับ ! ”
“ท่านจางช่างรอบรู้มากยิ่งนัก ถ้าเช่นนั้น…ลงมือเลยดีหรือไม่ ? ”
จางผิงจวี่สะดุ้งโหยง ลงมือเยี่ยงนั้นหรือ ?
ติ้งอันป๋อจะลงมือจัดการข้าเยี่ยงนั้นหรือ ?
เขาเหลือบมองไปทางทหารที่ยืนเอามือจับดาบหน้าตาดูดุร้ายน่ากลัว เขาเกือบจะคุกเข่าลงไปกองที่พื้นอยู่แล้วเชียว แต่ทว่ากลับได้ยินฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยออกมาเสียก่อนว่า “ข้าหมายถึงลงมือรับประทานอาหาร ท่านจางอย่าได้เข้าใจผิดไป”
จางผิงจวี่กลืนน้ำลายที่เหนียวหนืดลงคอ ให้ตายเถิด ! จะทานข้าวก็ทานดี ๆ สิ จะเอ่ยว่าลงมือเนื่องด้วยเหตุอันใดกัน ข้าเกือบจะตกใจตายอยู่แล้ว
เขาพยายามฝืนยิ้มออกมา “อ่า… เอ้อ อืมอืม ลงมือทานข้าวเถิดขอรับ…ข้าขอดื่มให้ติ้งอันป๋อสักจอก ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนมิได้คัดค้านอันใด เขาร่วมดื่มกับจางผิงจวี่ไป 1 จอก จากนั้นก็ชิมอาหารเข้าไปคำหนึ่ง เนื่องจากบัดนี้เขาเริ่มหิวแล้วจริง ๆ อาหารบนโต๊ะช่างยั่วยวนชวนทานมากยิ่งนัก มีกลิ่นหอมและหน้าตาน่ารับประทาน
“อืม… รสชาติดียิ่ง มามามา เรื่องปากท้องสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น พวกท่านอย่ามัวเกรงอกเกรงใจกันไปเลย”
เขากล่าวพลางคีบอาหารให้สวี่ซินเหยียนกับซือหม่าเช่อ ซึ่งทุกการกระทำของเขาได้ทำให้จางผิงจวี่หรี่ตาจ้องมอง
ผู้พิพากษาหญิงท่านนี้ เขาได้คัดเลือกให้มาช่วยงานที่ว่อเฟิงเต้าด้วยตนเอง หรือจะเป็นบ้านเล็กบ้านน้อยที่เลี้ยงเอาไว้กันนะ ?
แต่ทว่ามันก็มิสมเหตุสมผลเอาเสียเลย เพราะจากฐานะตัวตนของเขาแล้วก็มิใช่ว่าจะมิสามารถเลี้ยงดูนางอย่างสุขสบายได้ แล้วเหตุใดถึงให้ซือหม่าเช่อมาลำบากเช่นนี้กันเล่า ?
แต่หากกล่าวว่ามิใช่ แล้วเหตุใดเขาต้องคีบอาหารให้นางด้วยเล่า ?
จากที่ลอบมองดูท่าทางช่างเป็นธรรมชาติเสียจริง และการที่ซือหม่าเช่อรับไปก็ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ… นี่มันคือความสัมพันธ์แบบใดกันแน่ ?
จางผิงจวี่มิเข้าใจเลยจริง ๆ จากนั้นจึงมิได้คิดเรื่องไร้สาระนี้อีก เนื่องจากเยี่ยงไรเสียอีกประเดี๋ยวติ้งอันป๋อก็จะตายแล้ว น่าเสียดายแม่นางซือหม่าเช่อเสียเหลือเกิน สตรีที่งดงามถึงเพียงนี้จะต้องตายไปกับเขาด้วย
เจ้าหมอนี่ช่างโชคดีจริงเชียว แม้แต่ตอนตายก็มิได้ตายอย่างโดดเดี่ยว
“หากว่าติ้งอันป๋อชื่นชอบก็ดีเเล้วขอรับ ข้าน้อยตั้งใจจัดเตรียมเพื่อติ้งอันป๋อโดยเฉพาะเลยนะขอรับ ! ”
ต่อจากนั้นบุตรชายทั้งสี่และหลานชายของจางผิงจวี่ก็เข้ามาดื่มให้ฟู่เสี่ยวกวนตามลำดับอาวุโส แต่ละคนได้ทำการแนะนำตนเอง ฟู่เสี่ยวกวนจดจำพวกเขาได้ขึ้นใจ
งานเลี้ยงที่เดิมทีฟู่เสี่ยวกวนคิดว่าเป็นการจงใจจัดฉากดั่งงานเลี้ยงหงเหมิน ก็ได้ดำเนินไปถึง 1 ชั่วยามโดยมิพบกับความผิดปกติใด ๆ
เมื่อถึงเวลาอันควร ฟู่เสี่ยวกวนจึงเอ่ยปากถึงเรื่องจริงจังว่า
“ท่านผู้อาวุโสจาง…”
“มีอันใดเยี่ยงนั้นหรือขอรับ ! ”
“คือว่าเรื่องเป็นเช่นนี้ ท่านก็นับว่าเป็นผู้มีความสามารถที่ข้านับถือท่านหนึ่ง การที่ข้าเดินทางมายังหนิงซานมีวัตถุประสงค์อยู่ 2 อย่าง” ฟู่เสี่ยวกวนหยุดเอ่ยแล้วมองไปทางจางผิงจวี่ จากนั้นก็ยกยิ้มขึ้นแล้วเอ่ยต่อว่า “เรื่องแรก… ข้าเดินทางมาเพื่อเยี่ยมเยียนคู่หมั้นของข้าหรือก็คือใต้เท้าซือหม่าเช่อของพวกท่านนี่เอง”
เมื่อฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยคำนี้ออกไป ซือหม่าเช่อก็ได้ก้มหน้าก้มตาลง ในใจของนางรู้สึกยินดีมากยิ่งนัก
แต่ทว่าคำเอ่ยนี้ เมื่อไปถึงหูของจางผิงจวี่กลับกลายเป็นดั่งสายฟ้าฟาด !
ว่าเยี่ยงไรนะ ?
ซือหม่าเช่อเป็นคู่หมั้นของติ้งอันป๋อเยี่ยงนั้นหรือ ?
เอ่อ นี่มัน…เมื่อคืนนี้ข้าเพิ่งให้คนไปเผาโรงงานหงเย่หนึ่งของตระกูลซือหม่า เรื่องนี้ลอยไปถึงหูของติ้งอันป๋อด้วยหรือไม่ ?
เรื่องนี้บุตรชายคนรองของจางผิงจวี่เป็นคนลงมือด้วยตนเอง เมื่อจางเหลียงได้ยินเรื่องนี้เข้า มือไม้ก็พลันเย็นเฉียบขึ้นทันใด เหงื่อเม็ดโตผุดซึมออกมาอย่างห้ามมิอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)