ตอนที่ 785 บังเอิญพานพบ
รัชสมัยเซวียนลี่ปีที่สิบเอ็ด เดือนสาม วันที่สิบห้า บังเกิดหิมะตกหนักในเซียวเหอหยวน
ทหารดาบเทวะกองทัพที่สองเดินทางมาถึงยามเช้าตรู่ของวันนี้ และพวกเขาก็ได้เริ่มจัดวางแนวป้องกันทันที
ตามรายงานที่ฟู่เสี่ยวกวนส่งมาคือพวกเขาต้องเผชิญหน้าต่อการจู่โจมของกองทัพ 500,000 นายจากแคว้นฮวง !
ไป๋ยู่เหลียนมิเคยแสดงท่าทีจริงจังถึงเพียงนี้มาก่อน
เขาควบอาชาศึกออกไปตรวจสอบภูมิประเทศบริเวณนี้อย่างระมัดระวัง
ที่นี่คือทุ่งหิมะอันกว้างใหญ่ มิมีจุดให้ซุ่มโจมตีและไร้ที่หลบภัย มีเพียงแม่น้ำเซียวที่ไหลตัดผ่านทางทิศเหนือและใต้เท่านั้น
แม่น้ำเซียวกว้างราว 30 จั้ง ระยะทางจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ยาวหลายร้อยลี้ ทุ่งหิมะที่ว่างเปล่าแห่งนี้มีเพียงสะพานหินเล็ก ๆ สำหรับข้ามฝั่งเท่านั้น
สะพานหินนี้สามารถรองรับอาชาได้ 5 ตัว เขาจึงมิคิดระเบิดสะพานหินนี้ทิ้ง เพราะยังต้องการรุกข้ามฝั่งเพื่อสังหาร
หลังจากตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว เขาจึงมีความคิดบางอย่างขึ้นมา
อาศัยแม่น้ำเซียวที่มิกว้างมากตรงนี้วางทุ่นระเบิดในระยะทางยาวราว 2 ลี้ โดยวางห่างจากริมฝั่ง 9 จั้ง !
แบ่งกองทัพที่สองออกเป็น 10 กองพล จากนั้นก็ให้ 4 กองพลข้ามแม่น้ำเซียวแล้วเคลื่อนพลไปทางใต้ของแม่น้ำ เพื่อเตรียมเข้าสังหารขนาบข้างทัพศัตรู
อีก 5 กองพลให้ตั้งค่าย ณ ที่แห่งนี้เพื่อเฝ้ารอการมาถึงของข้าศึกและการมาถึงของทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่ง
ส่วนหนึ่งกองพลที่เหลืออยู่ให้เตรียมการป้องกัน ในระยะที่ห่างออกไปทางด้านหลังของค่าย 90 จั้ง… แม้ฟู่เสี่ยวกวนจะกล่าวว่ากองทัพชายแดนเหนือ 200,000 นายของเผิงเฉิงอู่ถูกโน้มน้าวจนสำเร็จแล้ว แต่ไป๋ยู่เหลียนยังคงมิวางใจ เตรียมการป้องกันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
มิเตรียมการมิได้หรอก เพราะทหารใช่ว่าจะหลอกลวงมิเป็น หากเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว เผิงเฉิงอู่คิดแทงข้างหลังทหารดาบเทวะ การป้องกันไว้แล้วจะทำให้ทหารดาบเทวะมิสูญเสียมากนัก
ทุกสิ่งต้องถูกเตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว เขาจึงกลับไปยังกระโจม แล้วเอ่ยกับสวี่ซินเหยียนและคนอื่น ๆ ว่า “ชายผู้นั้น เกรงว่าจะมาถึงในเร็ววันนี้แล้ว”
……
……
ในที่สุดทัพของเฟิงเสียนชูที่ทำการปล้นสะดมในอาณาเขตหลานฉีก็ได้กินอาหารจนเต็มอิ่ม
ในช่วงหลายวันมานี้ นอกจากการฉกฉวยแล้ว สถานการณ์อย่างอื่นยังคงสงบ
เขามิได้รับข่าวสารที่ส่งมาจากแคว้นอี๋อีกเลย ผู้สอดแนมที่ส่งออกไปมิได้เจอเข้ากับกองทัพของชาวฮวง และยิ่งมิได้พบกับกองทัพทหารดาบเทวะที่เข้ามารุกรานบนผืนปฐพีของแคว้นฮวงเลย
ขอบเขตการสอดแนมจึงขยายวงกว้างออกไปหลายสิบลี้ทว่าก็ยังเป็นเช่นเดิม ดูเหมือนว่าในสถานที่เปล่าเปลี่ยวนี้จะมีเพียงกองทัพของพวกเขาเท่านั้น
เป็นการยากที่จะทำให้ใจของเขาสงบลงได้
ท้ายที่สุดแล้ว เกิดอันใดขึ้นกันแน่ ?
แคว้นอี๋ถูกราชวงศ์อู๋ตีพ่ายทุกเส้นทางแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ?
ชาวฮวงลงไปทางใต้จนหมดแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ?
หมายความว่าทหารดาบเทวะก็ไล่ตามชาวฮวงลงไปทางใต้ด้วยเช่นกันหรือ ?
แล้วผืนปฐพีของแคว้นฮวงอันกว้างใหญ่แห่งนี้ มิมีผู้ใดต้องการแล้วหรือ ?
มิถูก !
มีบางอย่างที่ผิดแปลกไป !
ทว่าพอไร้ข่าวคราวก็เหมือนคนหูหนวกตาบอด ที่มิสามารถตัดสินชี้ขาดสิ่งใดได้เลย
อาณาเขตหลานฉีโดนเขากวาดล้างจนสิ้นแล้ว ทว่าเสบียงที่ชิงมาได้ย่อมประคองไปได้มินาน ท้ายที่สุดเรื่องราวจะเป็นเยี่ยงไรก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อให้ได้มิใช่หรือ ?
ดังนั้นเขาจึงวางเป้าหมายปล้นสะดมไว้ที่หนึ่งในแปดของกองป้องกันเมืองแปดทิศเยี่ยงเมืองหย่งเฟิง เมืองนั้นมีทหารรักษาการณ์ตั้งมั่นอยู่ 50,000 นายและมีชาวฮวงอาศัยอยู่มากกว่า 500,000 คน
มันคือป้อมปราการอันแข็งแกร่ง สำหรับกองทัพของเฟิงเสียนชูจะต้องครอบครองให้ได้หนึ่งเมือง
มีเพียงแบบนี้เท่านั้น ที่จะสามารถทำให้เหล่าทหารอยู่อย่างสุขสบายและมีมื้ออาหารมากขึ้นมาได้
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจนำกองทัพ 200,000 นายออกเดินทางไปยังเมืองหย่งเฟิงท่ามกลางพายุหิมะ
ตอนนี้เขารู้สึกสับสนมากยิ่งนัก
หากหวนกลับไปยังแคว้นอี๋ และหากแคว้นอี๋ถูกราชวงศ์อู๋ครอบครองจนสิ้นแล้ว ก็มิใช่ว่าเป็นการเดินไปตกหลุมพรางหรอกหรือ ?
หากอยู่ที่แคว้นฮวงนี้ก็จะเป็นประหนึ่งจอกแหน เหตุผลประการที่หนึ่งคือต้องเผชิญหน้ากับชาวฮวงที่พร้อมโจมตีได้ทุกเมื่อ ประการที่สองคือไร้ซึ่งที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
ใต้หล้านี้ช่างกว้างใหญ่มากยิ่งนัก ทันใดนั้นจึงตระหนักขึ้นมาว่ามิมีสถานที่ให้เฟิงเสียนชูได้พักอาศัยอยู่เลย !
เขาถ่มน้ำลายลงพื้นธรณีอย่างรุนแรงพลางด่าทอไปด้วย “มารดามันเถิด ข้าจะมิกลับไปในตอนนี้อย่างแน่นอน ! ”
แต่สุดท้ายก็ต้องกลับไปอยู่ดี !
หากแคว้นอี๋ถูกโค่นล้มแล้วจริง ๆ ก็เพียงแค่ยอมจำนนต่อราชวงศ์อู๋เพื่อรักษาชีวิตทหาร 200,000 นายกลุ่มนี้เอาไว้
ดังนั้นก็ไปจู่โจมเมืองหย่งเฟิงเสียก่อน แล้วค่อยออกเดินทางในอีกสองวันหลังจากที่มีการจัดระเบียบเมืองแล้ว !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)