ตอนที่ 820 ทดลองเดินเรือ
แม้จะเดินทางคนละขบวน ทว่าในระหว่างเดินทางชุนซิ่วและเยี่ยนซีเหวินต่างก็เต็มไปด้วยความกังวลและร้อนใจ จวบจนมาถึงท่าเรือเขตเหยาในยามอู่
สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือเรือขนาดมหึมา !
เยี่ยนซีเหวินใจสั่นสะท้านยามที่ได้เห็นเรือที่เสร็จสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้ จากนั้นก็ขมวดคิ้วสงสัย…
เรือรบนี้มีความยาวมากถึง 15 จั้งและสูงถึง 3 ชั้น !
โดยเฉพาะเสากระโดงสามเสาที่สูงสง่านั้น ทั้งยังมีปืนใหญ่ดำมะเมื่อมติดตั้งไว้บนดาดฟ้าเรือทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หากปล่อยลูกระเบิดจากปืนใหญ่ไปยังเมืองทั้งสองฝั่งแม่น้ำแยงซี…ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ พลันปรากฏขึ้นในหัวของเยี่ยนซีเหวินทันที ผู้ใดจะต้านทานได้กันเล่า ?
บริเวณกราบเรือด้านข้างมีตัวอักษรสามตัวสีขาวขนาดใหญ่ประทับไว้ว่า ‘อู่เว้ยห้าว ! ’
ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยว่านี่เป็นเพียงเรือทดลองเท่านั้น ส่วนเรือจริง ๆ ที่จะใช้งานจะสร้างจากเหล็ก… นี่เขากำลังคิดอันใดอยู่กันแน่ ?
ในขณะนี้มีช่างตีเหล็กเป็นจำนวนมากยืนอยู่ด้านนอกของท่าเรือ ถานเหล่าเกินกำลังสั่งการให้คนเรือจากราชวงศ์อู๋ขึ้นไปบนเรือ
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเพราะจะได้ทดสอบการใช้งานเรือรบขนาดใหญ่ที่เสร็จสิ้นตามกำหนดการพอดี หากการทดสอบนี้ไร้ปัญหา ห้องบรรทุกสินค้าบนชั้นสองจะใช้เก็บกระสุนที่ส่งมาจากสำนักอาวุธปืนซีซาน
“ทุกคนจงระวังให้มาก จากนั้นให้ขึ้นเรือไปให้หมด…”
ทุกคนก้าวไปที่บันไดแขวนของเรือด้วยจิตใจที่ฮึกเหิม สำหรับคนขับเรือที่เคยออกสู่ทะเลมาก่อนนั้น เขายังมิเคยขับเรือลำใหญ่ถึงเพียงนี้มาก่อนเช่นกัน
เรือลำนี้ใช้วิธีการขับที่แตกต่างจากเรือที่พวกเขาเคยสัมผัสมาก่อน ถานเหล่าเกินเอ่ยว่าผู้ประคองเรือและผู้บังคับใบเรือต้องร่วมมือกัน ส่วนผู้คุมหางเสือของเรือต้องคอยฟังสัญญาณจากผู้สังเกตการณ์ อีกทั้งยังเอ่ยว่าเจ้าสิ่งนี้จะแล่นได้รวดเร็ว… แม้ว่าแม่น้ำแยงซีจะกว้างใหญ่ หากมิระวังแล้วไปชนกับโขดหินหรือปะการังหรือริมตลิ่งเข้า แล้วจะกราบทูลฝ่าบาทว่าเยี่ยงไร ?
กัปตันเรือลำนี้มีนามว่าเผิงเจ๋อ อายุเกือบ 50 ปีแล้ว เขามีประสบการณ์เดินเรือมาอย่างยาวนานในแม่น้ำแยงซีเขตราชวงศ์อู๋และนอกชายฝั่งทะเล แต่เขาก็มิกล้าประมาทแม้เพียงจุดเดียว
เมื่อสิบวันที่ผ่านมาเขาพาเหล่าลูกเรือมาทำความคุ้นเคยกับเรือนี้ก่อนแล้ว ยิ่งเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรือมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งต้องรอบคอบมากขึ้นเท่านั้น
เรือลำนี้ล้ำค่ามากยิ่งนัก !
เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ขับเรือรบลำใหญ่เป็นคราแรกในชีวิต
“ผู้ถือหางเสือเรือเข้าประจำตำแหน่งของตน ! ”
“ผู้ชักใบเรือไปประจำตำแหน่ง ! ”
“ส่วนผู้ประคองเรือให้ข้า จงลงไปด้านล่าง ! ”
“…”
เผิงเจ๋อตะโกนสั่งเสียงดังขณะยืนอยู่บนดาดฟ้าของชั้นสาม ไม่นานบรรดาลูกเรือก็เข้ามาประจำตำแหน่งอย่างรวดเร็ว
ช่างต่อเรือคนอื่น ๆ เริ่มทยอยขึ้นมาบนเรือทีละคน จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนชั้นสองแล้วกระจายตัวไปยังจุดต่าง ๆ มีเพียงถานเหล่าเกินเท่านั้นที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือชั้นสอง
“เปิดประตูและระบายน้ำ ! ”
เขาคำรามเสียงดัง ช่างต่อเรือที่อยู่ในส่วนท้ายเรือก็ได้เปิดประตูระบายน้ำออก ทำให้น้ำในแม่น้ำไหลย้อนกลับมา
ชุนซิ่วเฝ้ามองด้วยความตึงเครียด นางมิเข้าใจว่าเรือลำใหญ่ถึงเพียงนี้ จะสามารถแล่นออกจากพื้นที่ที่จอดได้เยี่ยงไร ?
ในเวลานั้นเยี่ยนซีเหวินก็ได้เดินเข้ามาสมทบ ทำความเคารพผู้อาวุโสฉินหนึ่งครา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ในตอนนั้นฟู่เสี่ยวกวนให้ข้าสร้างท่าเรือเอาไว้ที่นี่ สิ่งที่ข้าคิดคือหากต้องสร้างท่าเรือที่นี่ก็ต้องสร้างอู่ต่อเรือเอาไว้ด้วย เพื่ออำนายความสะดวกในการต่อเรือในวันข้างหน้า”
“เขาเป็นผู้จ่ายเงินในการสร้างท่าเรือครานี้ และเอ่ยว่าจะเชิญช่างมาต่อเรือ… ข้าจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าเป็นเรือแบบใด ทว่าบัดนี้ข้ารู้แล้วจึงทำให้รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์สำหรับทำสงครามทางน้ำ ! ท่านอาจารย์ฉิน ท่านคิดว่าเขาจะใช้เรือรบนี้พิชิตทั้งสองฝั่งของแม่น้ำแยงซีให้ราบคาบด้วยหรือไม่ ? ”
นี่เป็นคราแรกในชีวิตของฉินปิ่งจงที่ได้เห็นของสิ่งนี้ เขาจะรู้ถึงอานุภาพของมันได้เยี่ยงไรกัน ?
ดังนั้นเขาจึงส่ายศีรษะไปมา “มันช่างใหญ่โตมากยิ่งนัก ตัวข้าก็ช่างโง่เขลาเสียจริง ที่มิรู้ถึงอานุภาพของมัน … ส่วนเรื่องที่เขาจะพิชิตแม่น้ำแยงซีทั้งสองฝั่งได้หรือไม่ ใต้เท้าเยี่ยนคิดว่าพิชิตหรือมิพิชิตอันใดดีกว่ากันเล่า ? ”
เยี่ยนซีเหวินรู้สึกสะอึก เขามิสามารถตอบถามของฉินปิ่งจงได้
เป็นเรื่องดีหรือมิดีกันนะ ?
ตามการจัดเตรียมของท่านปู่ และตามการวิเคราะห์ของตนยามเดินทางมายังท่าเรือก็สรุปได้ว่าราชวงศ์หยูต้องเผชิญกับปัญหาอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)