ตอนที่ 853 อาหารเลิศรส ( จบ )
ตอนที่ 853 อาหารเลิศรส ( จบ )
“อันใดนะ ? ฝ่าบาทเข้าครัวด้วยพระองค์เองเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“เข้าใจอันใดผิดไปหรือไม่ แล้วพ่อครัวหลวงอยู่ที่ใดเล่า ? ”
“พวกเขาต่างล้อมวงรอบฝ่าบาทเพื่อเรียนรู้วิธีการทำอาหารขอรับ ! ”
“มิใช่ ! ข้าหมายถึงฝ่าบาททรงทำอาหารด้วยพระองค์เองจริงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ดูจากท่าทางแล้วเหมือนว่าจะทำได้จริง กระทะใบนั้นสั่นระรัวเลยขอรับ”
“นี่ก็เย็นมากแล้ว ถ้าเช่นนั้น…พวกเราไปดูที่ห้องเสวยกันดีหรือไม่ ? ”
ยามที่กลับมาถึงสำนักงาน เพิ่งจะได้นั่งยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามดีเลยด้วยซ้ำ จัวอี้สิงและคนอื่น ๆ ก็ได้ยินข่าวชวนน่าตกใจอีกครา
ครานี้เสนาบดีกรมพิธีการเซียวยวี่โหลวมิได้ตำหนิฝ่าบาทว่าเป็นบุรุษมิควรลงครัว แต่เขากลับรู้สึกว่าฝ่าบาททรงมิถือพระองค์เป็นอย่างมาก ทั้งปลูกผัก เลี้ยงหมู ทำอาหาร ผลิตเกลือขาว ทั้งยังออกแบบเรือรบขนาดใหญ่ได้อีกด้วย… เมื่อคิดได้ดังนี้เขาก็พบว่าฝ่าบาททรงเต็มไปด้วยพระปรีชาสามารถ !
นอกจากคลอดและให้นมบุตรแล้ว เหมือนว่าพระองค์จะทำได้หมดทุกอย่าง !
ได้ยินว่าแม้แต่ชุดชั้นในของสตรี พระองค์ก็เป็นผู้ค้นพบ !
เยี่ยงนั้นฝ่าบาทผู้ยิ่งใหญ่จะทำสำรับอาหารออกมายิ่งใหญ่มากเพียงใดกัน ?
เซียวยวี่โหลวตั้งตารอคอยเป็นอย่างมาก เขาเดินตามหลังของจัวอี้สิงและคนอื่น ๆ จากนั้นก็เข้าห้องเสวยไปอย่างเริงร่า
เหล่าพ่อครัวมึนงงเสียยิ่งกว่าขุนนางเหล่านั้นเสียอีก… พวกข้าคือพ่อครัวหลวง !
พวกเราคือพ่อครัวแห่งราชวงศ์อู๋ มิใช่สิ ! ยังมีพ่อครัวที่มาจากราชวงศ์หยูอีก 3 คน โดยสรุปแล้วพวกเราคือพ่อครัวที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในใต้หล้า
ทว่าวันนี้ฝ่าบาทกลับมาลงฝีพระหัตถ์ด้วยพระองค์เองถึงห้องเครื่อง นี่มิใช่การบอกว่าฝีมือของพวกเราแย่หรอกหรือ ?
พระองค์เป็นจักรพรรดิ แล้วจะมีเคล็ดลับพิเศษได้เยี่ยงไรกัน ?
หัวหน้าพ่อครัวหลวง หนิวเสี่ยวเตา ทำได้เพียงยืนตัวสั่นคอยเป็นผู้ช่วยอยู่ข้าง ๆ ฟู่เสี่ยวกวนเท่านั้น
“สิ่งที่เรียกว่าผัดคือต้องควบคุมความร้อนของไฟเอาไว้ให้ดี อย่างเช่นการผัดตับหมู อันดับแรกข้าจะสอนพวกเจ้าว่าต้องจัดการกับตับหมูเยี่ยงไร…”
“ของสิ่งนี้เรียกว่าลำไส้ใหญ่ ต้องนำไปต้มก่อน และยามที่ต้มให้โยนขิงฝานลงไปสองสามแผ่น…”
“ส่วนสามชั้นเจ้าต้องนำฝั่งหนังหมูไปเซียร์บนกระทะด้วยความร้อนสูง อ่า…พวกเจ้าคงมิทราบว่าการเซียร์คือสิ่งใด พอเซียร์เสร็จแล้วให้ใส่สามชั้นลงในหม้อน้ำที่ร้อนจัดซึ่งเรียกว่าการลวก ขั้นตอนนี้เป็นการดับกลิ่นคาว จากนั้นให้ใช้มีดขูดล้างหนังหมูให้สะอาด…”
“……”
หนิวเสี่ยวเตากลืนน้ำลายหนึ่งอึก พอได้ฟังและได้เห็นดังนี้ ก็พลันรู้สึกว่าฝ่าบาททรงเข้าพระทัยในการทำอาหารอย่างแท้จริง !
วิธีแล่เนื้อของฝ่าบาทดูชำนาญเป็นอย่างมาก การผสมผสานวัตถุดิบก็พิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญกว่านั้นคือตัวเขาเองยังมิเคยได้ยินหลายสิ่งหลายอย่างที่ฝ่าบาทตรัสมาก่อน !
อย่างเช่นวิธีการทำเหมาเสวี่ยหวัง1 เขามิรู้ด้วยซ้ำว่าเหมาเสวี่ยหวังคืออาหารแบบใด
หรือวิธีการทำฟูชีเฟ่ยเพี่ยน2 เพียงแค่ชื่อก็ทำผู้คนนึกกลัวได้แล้ว ตัวเขาเองก็มิทราบเช่นกันว่ามันคืออาหารแบบใด
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ชื่ออาหารที่หลุดออกมาจากพระโอษฐ์ของฝ่าบาทนั้น ตัวเขารวมถึงพ่อครัวหลวงทั้งหมด ล้วนมิเคยได้ยินมาก่อน
ส่งผลให้หนิวเสี่ยวเตาชื่นชมฝ่าบาทจนแทบจะหมอบกราบอยู่แล้ว !
พวกเขาตั้งใจฟังราวกับเด็กน้อย จดจ้องอย่างถี่ถ้วนเพราะกลัวว่าจะพลาดบางอย่างไป
ดังนั้นจัวอี้สิงและคนอื่น ๆ จึงได้เห็นภาพเยี่ยงนี้ในยามที่มาถึงห้องเครื่องของห้องเสวย
“รอให้มันเทศได้รับการเผยแพร่ก่อนเถิด แป้งมันเทศจะช่วยทำให้เนื้ออ่อนนุ่มขึ้น ข้าจะบอกพวกเจ้าว่ามันเทศเป็นของดี แป้งมันเทศและแป้งข้าวโพดสามารถนำมาทำเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะสอนพวกเจ้าทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น รสชาติยอดเยี่ยมเลยทีเดียว”
“นอกจากนั้น แป้งมันเทศและแป้งข้าวโพดยังสามารถทำให้น้ำซุปข้นได้อีกด้วย เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะสอนทำหมาโผโต้วฝุ3แก่พวกเจ้าเอง”
ฟู่เสี่ยวกวนลงมือทำอาหารไปพลางอธิบายไปพลาง จนทำให้จัวอี้สิงและคนอื่น ๆ ที่คอยฟังอยู่เกิดอาการตกตะลึงขึ้นมาทันพลัน
เสนาบดีกรมพิธีการเซียวยวี่โหลวมั่นใจแล้วว่าฝ่าบาททรงทำได้ทุกอย่างจริง ๆ เพราะสิ่งที่เรียกว่ามันเทศนั้นก็เป็นฝ่าบาทที่ริเริ่มการปลูก
“เฮ้เฮ้เฮ้ พวกท่านไปนั่งรอด้านนอกเลยไป หลิวจิ่น หลิวจิ่น ! ”
“ฝ่าบาท…กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)