นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 897

ตอนที่ 897 สงสารชาวนา

“หัวข้อนี้ง่ายดายนัก พวกท่านจงฟังให้ดี ! ”

การประพันธ์กวีง่ายดายถึงเพียงนี้เชียวหรือ ?

ดวงตาของจัวอี้สิงและคนอื่น ๆ เบิกกว้างขึ้นมาทันใด เนื่องจากงานชุมชุมวรรณกรรมเมื่อปีนั้น พวกเขามิได้ไปยังวัดหานหลิงด้วย แต่ก็เคยได้ยินมาว่าฟู่เสี่ยวกวนประพันธ์กวีเสร็จภายในเวลาครึ่งถ้วยชา ทั้งยังสามารถคว้าชัยชนะไปครอบครองได้อีกด้วย

ครานั้นใช้เวลาครึ่งถ้วยชา แต่บัดนี้คาดมิถึงว่าฝ่าบาทจะสามารถประพันธ์กวีได้ทันทีที่เพิ่งเอ่ยหัวข้อออกมา !

ท่ามกลางสายตาตกตะลึง ฟู่เสี่ยวกวนส่ายศีรษะไปมาอย่างเชื่องช้า แสดงท่าทางราวกับชายชราผู้หนึ่ง

“บทประพันธ์นี้มีนามว่า ‘สงสารชาวนา’ พวกท่านจงฟังให้ดี ! ”

ดวงตาของต่งชูหลานเป็นประกายและเปี่ยมล้นด้วยความยินดี

กงซุนเซ่อปิดปากเงียบ สายตาจดจ้องไปยังฟู่เสี่ยวกวนมิคลาด เขาอยู่กับฟู่เสี่ยวกวนมาเป็นเวลานานถึงเพียงนี้ ทว่ามิเคยเห็นฟู่เสี่ยวกวนประพันธ์กวีด้วยตาของตนเองมาก่อนเลยสักครา

ดวงตาของขันทีเจี่ยหรี่ลงเล็กน้อย ร่องลึกบนใบหน้าชราเต็มไปด้วยความชื่นชม

“สงสารชาวนา บทที่หนึ่ง”

“วสันต์ฤดูปลูกข้าวหนึ่งเมล็ด เก็บเกี่ยวเป็นหมื่นในสารทฤดู

ที่นาทั่วสารทิศไร้แปลงว่าง ทว่าชาวนายังอดตาย”

กวีบทนี้แสนเรียบง่าย ทว่าเมื่อพวกหนานกงอี้หยู่ได้รับฟังก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาด !

ฝ่าบาทมิได้ให้ความสำคัญกับการประพันธ์กวีที่ซับซ้อน แต่ฝ่าบาททรงใส่พระทัยต่อความหมายลึกซึ้งที่อยู่ในบทกวี !

พวกเขายังมิทันได้ตริตรองให้ละเอียด สีหน้าของฟู่เสี่ยวกวนก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาหยิบจอกสุราขึ้นมาดื่มจนหมด จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า

“สงสารชาวนา บทที่สอง”

“ถือจอบพรวนดินกลางแสงสุริยาจ้า เหงื่อไหลรดต้นกล้าลงสู่ดิน

ใครรู้บ้างข้าวในจานแต่ละเมล็ด ล้วนมาจากความลำเข็ญ”

บทกวีบทนี้เรียบง่ายเป็นอย่างมาก แต่กลับทำให้หนานกงอี้หยู่และคนอื่น ๆ ตกตะลึงอย่างไร้สิ้นสุด

กวีบทที่หนึ่ง พรรณนาถึงความลำบากในทุ่งนาของชาวนา วสันต์ฤดูปลูกข้าวหนึ่งเมล็ดเก็บเกี่ยวเป็นหมื่นในสารทฤดู เอ่ยถึงการเก็บเกี่ยว ทั่วทุกสารทิศเต็มไปด้วยทุ่งนา ผลสำเร็จของความเหนื่อยยากคือฉากสีทองทั่วทั้งผืนปฐพี

สามประโยคแรกเอ่ยถึงความสุขของการเก็บเกี่ยวหลังจากที่ผ่านความยากลำบากของชาวนา ทว่าในประโยคสุดท้ายกลับพลิกผันไป เนื่องจากตั้งตารอคอยการเก็บเกี่ยวถึงหนึ่งปีเต็ม แต่สุดท้ายชาวนากลับมียุ้งฉางที่ว่างเปล่าใกล้อดตาย !

กวีบทที่สอง พรรณนาถึง ท่วงท่าการทำงานภายใต้แสงสุริยาแผดเผาของชาวนา แสงสุริยายามกลางวันและเหงื่อของชาวนาที่หลั่งรดพื้นธรณี สามารถบรรยายถึงเหตุผลของกวีบทที่หนึ่งได้ว่า หนึ่งเมล็ดเพาะหมื่นต้นกล้า จำนวนที่นาทั่วสารทิศจึงมีชาวนาจำนวนนับพันหมื่นที่ใช้หยาดเหงื่อของความมุมานะรินรดต้นกล้า

ความเหนื่อยล้าเยี่ยงนี้ จะมีสักกี่คนที่รับทราบ ?

เดิมทีพวกเขามิเข้าใจว่าในข้าวทุกเม็ดมีความลำเค็ญแอบแฝงอยู่ !

ทุกคนจมดิ่งสู่ห้วงภวังค์แห่งความคิด แม้แต่สายตาของต่งชูหลานก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นล้ำลึกขึ้นมา

ช่วงเวลานี้เงียบสงัดไร้ซึ่งสุ้มเสียงใด

ผ่านไปชั่วครู่ ฟู่เสี่ยวกวนถึงได้เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา

“พวกท่านล้วนทราบว่าข้าเคยเป็นคุณชายเศรษฐีที่ดินมาก่อน ความเข้าใจที่ข้ามีต่อเหล่าเกษตรกร ก็เกรงว่าจะลึกซึ้งยิ่งกว่าพวกท่าน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)