ตอนที่ 902 ต่างฝ่ายต่างเดินหมาก
รสชาติอาหารของร้านหม้อที่สองในใต้หล้าช่างสดสะอาดและอร่อยเสียจริง
เมื่อกลับมายังโรงเตี๊ยมหว่านจงก็เป็นเวลาเนิ่นนานเลยทีเดียวที่ฟู่เสี่ยวกวนมิอาจข่มตาหลับได้ลง
เนื่องจากการปกครองยังคงเป็นการปกครองโดยขุนนาง !
บัดนี้เขารู้สึกสงสัยเรื่องการปกครองของขุนนางเหล่านี้ยิ่งนัก ดูเหมือนโจวถงถงจะแอบเกียจคร้าน…กระตุ้นหนึ่งทีจึงจะจัดการให้หนึ่งที
หากเขามิได้เดินทางมายังเขตหนานผิงในครานี้ โจวถงถงก็คงมิรายงานถึงปัญหาในเขตหนานผิงให้กับข้าใช่หรือไม่ ?
โจวถงถงทราบหรือมิทราบมาก่อนกันแน่ ?
หากว่ามิทราบก็ถือเป็นการทำงานผิดพลาดของฝ่ายตรวจการ หากทราบแต่มิรายงาน…
ฟู่เสี่ยวกวนสูดลมหายใจเข้าลึก เมื่อคราที่บิดาอ้วนสละบัลลังก์ให้เขาก็ได้ตรัสไว้ว่าในราชวงศ์อู๋มีผู้ที่ไว้ใจได้อยู่ 3 คน คนแรกคือโจวถงถง และอีก 2 คนคืออดีตอัครมหาเสนาบดีทั้งสอง
ความจงรักภักดีของจัวอี้สิงและหนานกงอี้หยู่นั้น เขามองเห็นมันได้อย่างชัดเจน ทว่าโจวถงถงผู้นี้เขามิค่อยเห็นชัดสักเท่าใดนัก
หากจะเอ่ยว่าโจวถงถงไร้ความสามารถก็คงมิใช่ เพราะเขาสามารถจัดการเรื่องทุจริตในแม่น้ำต้าหลิงได้อย่างถี่ถ้วน ทั้งยังมีหลักฐานชัดเจน
หากโจวถงถงมีความสามารถ แล้วเหตุใดถึงยังเกิดเรื่องเยี่ยงนี้ขึ้นที่เขตซื่อหยางและบัดนี้ยังมีเขตหนานผิงอีกกัน
นี่คือเรื่องบังเอิญเยี่ยงนั้นหรือ ?
แน่นอนว่าระหว่างทางที่ผ่านมายังมีอีกหลายสิบเขตการปกครองที่เจ้าหน้าที่ค่อนข้างทำได้ดี แต่ถึงเยี่ยงไรก็ยังมีพวกหนูสกปรกมาทำให้จิตใจของเขามิสงบ
หรือว่าเขาจะเข้มงวดมากจนเกินไปกัน ?
สายลมเย็นโชยมา ฟู่เสี่ยวกวนยืนอยู่บริเวณหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ ต่งชูหลานเดินเข้ามากอดเอวเขาจากทางด้านหลังพลางเกยคางของนางบนบ่าของเขา
“ท่านยังจำเรื่องตรวจสอบการทุจริตในราชวงศ์หยูได้หรือไม่ ? ท่านพ่อเคยเอ่ยเอาไว้ว่า มองดูแล้วอาจจะดูจริงจังและตัดศีรษะขุนนางเหล่านั้นไปมากมาย ทว่าหากยังมีขุนนางและมีผลประโยชน์อยู่ เรื่องเหล่านี้ก็มิอาจกำจัดไปได้อย่างแท้จริง”
“นี่คือนิสัยของมนุษย์ ขุนนางบางคนอยากเป็นขุนนางเพราะจุดประสงค์มิใสสะอาด บางคนเป็นเพื่อต้องการแก้วแหวนเงินทอง ท่านอย่าได้ทุกข์ใจเพราะเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้เลย รีบนอนพักผ่อนเถิดเพราะวันนี้เหนื่อยมามากแล้ว”
นกพิราบส่งสารตัวหนึ่งบินเข้ามาท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล มันบินมาเกาะที่บ่าของฟู่เสี่ยวกวน
เขาหยิบปลอกที่มัดติดขาของนกพิราบ จากนั้นก็นำกระดาษด้านในออกมาอ่าน ริมฝีปากพลันยกยิ้มขึ้นทันใด เขาปล่อยนกพิราบให้โบยบินออกไป จากนั้นก็เผากระดาษทิ้งจนกลายเป็นผุยผง
เขากลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาพลางเอ่ยว่า “ที่เจ้าเอ่ยก็ถูก ข้าคงคิดมากไปเองเท่านั้น พวกเราไปนอนพักผ่อนกันเถิด”
……
ณ เรือนใหญ่ตระกูลเฉิน เขตเฟิ่งหยางในป๋ายโจวหนึ่งในแปดรัฐแห่งหนานชาง
หัวหน้าตระกูลเฉินตงเซิงกำลังนั่งอ่านรายงานจากราชวงศ์หยู พ่อบ้านเคาะประตู จากนั้นก็เดินเข้ามาก็กระซิบข้างหูของเฉินตงเซิงว่า “เรียนนายท่าน คนของคุณชายสามเดินทางมาขอเข้าพบขอรับ”
เฉินตงเซิงวางจดหมายในมือลง เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ
มินานพ่อบ้านสูงวัยก็ได้พาบุรุษชุดดำเข้ามา จากนั้นก็เดินออกไปแล้วปิดประตูตามหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)