ตอนที่ 920 สภาวะจนมุม
หยูเวิ่นเต้าอ่านรายงานอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในใจรู้สึกอึดอัดมากยิ่งนัก
เมืองการค้าเสรีที่ฟู่เสี่ยวกวนดำเนินการนั้น ทำให้ราชวงศ์อู๋ได้รับผลประโยชน์มากมายนัก ทว่าราชวงศ์หยูกลับเสียผลประโยชน์จำนวนมหาศาล !
เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว เหตุใดถึงมิตระหนักได้ในตอนนั้นกันนะ ?
“ในต้นปีหน้าราษฎรจากราชวงศ์หยูจะมิได้รับอนุญาตให้ซื้อสินค้าจากราชวงศ์อู๋ในเมืองการค้าเสรีอีก ! ”
ฉางฮวนทำความเคารพแล้วทูลว่า “ฝ่าบาททรงพระปรีชามากยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ ! ”
ปรีชากับผีสิ !
ข้าคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนและยังคำนวณถึงงบประมาณที่ต้องใช้ในปีหน้าอย่างประหยัดที่สุด สุดท้ายก็จะเหลือเงินในท้องพระคลังเพียง 2 ล้านตำลึงเท่านั้น ควรทำเยี่ยงไรดี ?
เมื่อเห็นหยูเวิ่นเต้าหน้านิ่วคิ้วขมวด ฉางฮวนจึงบังเกิดความคิดขึ้นมา จากนั้นจึงทูลว่า “ทูลฝ่าบาท แม้ไร้เหรียญเงินแต่ก็สามารถมีตั๋วเงินได้พ่ะย่ะค่ะ”
หยูเวิ่นเต้าตื่นตกใจขึ้นมาทันใด “จะไปเอาตั๋วเงินมาจากที่ใดเล่า ? ”
“การพิมพ์พ่ะย่ะค่ะ ! ตั้งแต่ฟู่เสี่ยวกวนขึ้นครองบัลลังก์ตลอดสองปีมานี้ เขาได้พิมพ์ตั๋วเงินไปแล้วทั้งสิ้น 250 ล้านตำลึง พวกเราก็สามารถพิมพ์ได้เช่นกัน เพราะกระหม่อมเคยคำนวณว่าเหมืองทองคำหลักของราชวงศ์หยูทั้งสามแห่งสามารถผลิตทองคำได้ 1 ล้านตำลึงในแต่ละปี แม้ว่าตั๋วเงินที่พิมพ์ออกมา 50 ล้านตำลึงจะเกินงบไปบ้าง แต่คิดว่ามิเป็นไรพ่ะย่ะค่ะ”
ดูเหมือนว่าจะมิใช่ความคิดที่ดีนัก หยูเวิ่นเต้าจ้องไปที่ฉางฮวนพลางครุ่นคิดไปด้วย ตามแผนการชุนเหลยคือวางแผนให้ตระกูลเฉิน ตระกูลโจว และตระกูลหลู่ออกขายหุ้นตระกูลละ 10 ล้านหุ้น
ทว่าเงินส่วนนี้ได้กลายเป็นเงินทุนที่นำไปใช้ในการติดตั้งอาวุธเสียแล้ว แน่นอนว่าเขาใช้จ่ายจนหมดเกลี้ยงภายในชั่วพริบตา
หากต้องหาเงินจากตระกูลใหญ่ทั้งสาม…ก็ดูเหมือนว่ามิสามารถบีบคั้นให้พวกเขากรีดเลือดเนื้อออกมาได้แล้วจริง ๆ
ตอนนี้มิสามารถถอยหลังกลับได้แล้ว เนื่องจากเสบียงของกองทัพจำนวน 300,000 นายต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน เงินในคลังก็แทบจะว่างเปล่าแล้ว ทว่าสงครามครานี้จำเป็นต้องสู้…หยูเวิ่นเต้าถอนหายใจยาวออกมา จากนั้นก็เอ่ยว่า
“แผนการนี้ช่างยอดเยี่ยมยิ่ง หลังจากปีใหม่ก็ให้ธนาคารซื่อทงจัดพิมพ์ตั๋วเงินออกมา 50 ล้านตำลึงเพราะข้าต้องการใช้มันอย่างเร่งด่วน”
“กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ! ”
เพื่อแก้ไขสภาวะจนมุมนี้ แม้ต้องแก้ไขแบบเฉพาะหน้าโดยมิคำนึงถึงภัยที่จะตามมา ทว่าก็ทำให้สภาพจิตใจของหยูเวิ่นเต้าดีขึ้นมากนัก จากนั้นเขาก็ต้มชาอย่างมีความสุขแล้วหยิบมันขึ้นดื่ม หงจวงเดินเข้ามาในห้องทรงพระอักษรพลางยื่นกระดาษให้เขาหนึ่งแผ่น
นี่คือข่าวจากหอซี่หยู่ที่ส่งมาจากราชวงศ์อู๋
หยูเวิ่นเต้าอ่านรายงานบนกระดาษแผ่นนั้นอย่างละเอียด จากนั้นก็ตื่นตกใจขึ้นมาทันใด “อันใดกัน ! ราชวงศ์อู๋มีรายได้จากภาษีมากกว่า 60 ล้านตำลึงในปีนี้เยี่ยงนั้นหรือ ? แล้วฟู่เสี่ยวกวนยังให้เงินรางวัลปลายปีเพิ่มแก่ขุนนางทั้งหมดด้วยหรือ ? ”
“ทูลฝ่าบาท ถูกต้องแล้วเพคะ”
หยูเวิ่นเต้ามิอาจรับรู้ถึงรสชาติของชาที่ดื่มเข้าไปได้ เขาเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์อู๋เป็นอย่างดี แต่มิคาดคิดว่ามันจะใหญ่โตถึงเพียงนี้
พวกพ่อค้าทรยศ !
ฟู่เสี่ยวกวนก็มิได้ยกเว้นภาษีให้แก่พวกเจ้าเช่นกันนี่ เหตุใดถึงวิ่งไปที่นั่นกันหมดเล่า ?
ข้าทำอันใดผิดต่อพวกเขาเยี่ยงนั้นหรือ ?
“ทูลฝ่าบาท ยังมีอีกหนึ่งฉบับ โปรดทอดพระเนตรเถิดเพคะ”
หงจวงหยิบกระดาษอีกหนึ่งแผ่นออกมา จากนั้นก็ยื่นให้กับหยูเวิ่นเต้า หยูเวิ่นเต้ารับรายงานมาอ่านพลางขมวดคิ้วมุ่น…
‘ทูลฝ่าบาท หัวหน้าตระกูลเฉิน ตระกูลโจวและตระกูลหลู่ ก่อนที่จะออกจากราชวงศ์อู๋ได้เข้าพบฟู่เสี่ยวกวน ณ กวนหยุนถาย แต่จะเอ่ยสิ่งใดกันนั้นมิอาจทราบได้ ส่วนบัดนี้ฟู่เสียวกวนเริ่มสงสัยโจวถงถงแล้ว ในราชสำนักของราชวงศ์อู๋จึงมีการตำหนิโจวถงถงจากพวกขุนนางเกิดขึ้น ขอฝ่าบาทโปรดระวังด้วยเถิด เพราะอาจจะมีการซ้อนแผนจากเหล่าหัวหน้าตระกูลทั้งสามพ่ะย่ะค่ะ’
แผนการชุนเหลยใกล้ถึงเวลาดำเนินการเข้ามาทุกทีแล้ว แผนการนี้หัวหน้าตระกูลทั้งสามเป็นผู้เสนอมาอย่างลับ ๆ ส่วนโจวถงถงเป็นคนจากตระกูลโจวและคนในครอบครัวของเขาก็อยู่ที่จินหลิง…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)