ตอนที่ 925 ความทรงจำ ณ หินเชียนเปยสือ
ในวันที่สามสิบของเดือนสุดท้ายแห่งปี ในที่สุดหิมะก็ตกในเมืองจินหลิงเป็นคราแรก
ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้มีโคมไฟแขวนตามถนนและตรอกต่าง ๆ ในเมืองจินหลิง ทว่าบรรยากาศในช่วงเทศกาลของปีนี้ค่อนข้างเงียบกว่าแต่ก่อนมากนัก ความสุขบนใบหน้าของราษฎรก็ลดน้อยลงกว่าแต่ก่อนมากนัก
แม้ว่าปีนี้การค้าขายจะมิค่อยดีเท่าปีก่อน ๆ เพียงมิขาดทุนก็พอใจมากแล้ว สำหรับสินค้าที่ใช้ในเทศกาลปีใหม่ก็ควรซื้อให้น้อยลงเพราะว่าปีหน้าสถานการณ์ก็คงจะยังมิดีขึ้น…
แล้วเมื่อใดเศรษฐกิจถึงจะดีขึ้นเล่า ?
ช่วงสองปีที่ติ้งอันป๋ออยู่ในราชวงศ์หยู ถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมยิ่ง ชีวิตและความเป็นอยู่ก็เพิ่งเจริญรุ่งเรืองและคึกคักขึ้นมาแท้ ๆ เพิ่งมีความสุขได้มินาน ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะกลับไปเป็นเฉกเช่นอดีตอีกแล้ว
สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่าแย่กว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ
ตระกูลที่ร่ำรวยก็ได้ไปจากสถานที่แห่งนี้แล้ว พวกเขามุ่งหน้าไปยังราชวงศ์อู๋ ได้ข่าวว่าพวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายมากยิ่งนักในราชวงศ์อู๋
สำหรับผู้ที่มิมีเงินและไร้ซึ่งหนทาง บางคนก็ยังอยู่ที่บ้านเกิดหรือบางทีอาจจะเพราะเรื่องราวที่พัวพันสลับซับซ้อนและยุ่งยากจึงมิสามารถจากไปที่ใดได้
ดังเช่น… ตระกูลเยี่ยนที่มิสามารถไปจากที่นี่ได้
แม้ว่าเยี่ยนซือเต้าและเยี่ยนฮ่าวชูจะอำลาตำแหน่งขุนนางแล้ว ทว่าเยี่ยนชิงอีแห่งตระกูลเยี่ยนได้อภิเษกสมรสกับฝ่าบาท บัดนี้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นฮองเฮาแห่งราชวงศ์หยู นอกจากนี้ยังมีลูกหลานมากมายจากตระกูลเยี่ยนที่เป็นขุนนางตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วพวกเขาจะไปจากที่นี่ได้เยี่ยงไร !
เยี่ยนซีเหวินกลับมาแล้ว
เยี่ยนหลินชิวก็กลับมาแล้วเช่นกัน
พวกเขาทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในราชสำนักตอนนี้ดี แต่จะทำอันใดได้อีกเล่า ?
เยี่ยนซีเหวินนั่งอยู่ในจวน เขารู้สึกเบื่อหน่ายจึงออกมาข้างนอก ทว่าหลังจากออกมาแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่ามิมีสถานที่ให้ไปเลย…เนื่องจากสหายเยี่ยงชืออีหมิง เซวี๋ยตงหลิน สีส่วง เฟ่ยเชียน ฟางเหวินซิงและคนอื่น ๆ ล้วนย้ายไปอยู่ที่ราชวงศ์อู๋ทั้งหมดแล้ว !
เยี่ยนซีเหวินมิมีอันใดจะเอ่ย ฟู่เสียวกวน เจ้าทำเกินไปแล้ว นี่คือกลยุทธ์ถอนฟืนใต้เตา1 !
ได้ข่าวว่าอดีตเจ้าหน้าที่จากกรมการค้าเมืองจินหลิงและเจ้าหน้าที่จากว่อเฟิงเต้าล้วนก็ไปจากราชวงศ์หยูมากกว่าครึ่ง ส่งผลให้กรมการค้าต้องปิดตัวลง ว่อเฟิงเต้าก็จมลึกอยู่ในความเสื่อมถอยที่มิอาจกลับมาเป็นปกติได้อีก แม้ว่าจะจัดสอบชิวเหวยเพื่อค้นหาขุนนางไปประจำการที่ว่อเฟิงเต้าแล้ว ทว่าสถานการณ์ที่ว่อเฟิงเต้าก็ยังย่ำแย่ลงไปเรื่อย ๆ มิอาจฟื้นขึ้นมาได้อีก มันก็แค่พอประคองให้รอดไปวัน ๆ ก็เท่านั้น
เขาจะไปที่ใดดีเล่า ?
เยี่ยนซีเหวินทอดสายตามองไปยังหิมะที่กำลังตกหนัก และเพิ่งตระหนักได้ว่าแม้แต่ผู้ที่ดื่มสุราจนเมามายก็ยังมิเห็นอยู่บนท้องถนนเลยสักคน
ทว่าอย่างน้อยก็ยังมีจัวหลิวหวินอยู่ บิดาเอ่ยว่า… บัดนี้จัวหลิวหวินเป็นคนสำคัญที่คอยติดตามข้างวรกายฮ่องเต้ คนผู้นี้ถูกฮ่องเต้พระองค์ก่อนปลดออกจากตำแหน่งนายอำเภอเขตหยุนไหล ทว่าบัดนี้เขากลายเป็นขุนนางแห่งสำนักอัครมหาเสนาบดีแล้ว !
จากนายอำเภอขั้นเจ็ดกลายเป็นขุนนางขั้นสาม เจ้าหมอนั่นเดินทางไปไกลมากแล้ว เขาคงมิรู้ว่าจะไปขอบคุณฟู่เสี่ยวกวนเยี่ยงไรดี
“ไปที่หลานถิงจี๋”
“ขอรับคุณชาย ! ”
จากนั้นรถม้าก็มุ่งหน้าไปยังหลานถิงจี๋ ผ่านถนนที่หอซื่อฟางตั้งอยู่ ทว่าวันส่งท้ายปีเยี่ยงนี้ หอซื่อฟางกลับปิดให้บริการ… เมื่อยามที่ฟู่เสี่ยวกวนยังอยู่ที่เมืองจินหลิงหอซื่อฟางมิเคยปิดร้านเลยนี่ ?
บัดนี้กิจการของหอซื่อฟางดำเนินไปได้ดีเพราะหลงจู๊ฉลาดหลักแหลม ฟู่เสี่ยวกวนเดินทางไปที่ว่อเฟิงเต้า เขาก็ตามไปเปิดกิจการหอซื่อฟางที่ว่อเฟิงเต้า ฟู่เสี่ยวกวนไปที่เขตปกครองตนเองชื่อเล่อชวน เขาก็ตามไปเปิดกิจการหอซื่อฟางที่เมืองยวี่ซิ่ว
ฟู่เสี่ยวกวนกลับสู่ราชวงศ์อู๋ เขาก็ยังตามไปเปิดกิจการหอซื่อฟางที่เมืองกวนหยุนอีก
แต่มิรู้ว่าหอซื่อฟางที่เมืองกวนหยุนในวันนี้ ปิดทำการด้วยหรือไม่
เยี่ยนซีเหวินครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดการเดินทาง เมื่อถึงที่หมายจึงขึ้นไปบนเรืออูเผิงแล้วเดินขึ้นไปบนหลานถิงจี๋
บรรยากาศช่างเงียบเหงาวังเวงยิ่งนัก
แม้มีโคมไฟจำนวนมากแขวนอยู่บนหลานถิงจี๋และเต็มไปด้วยอารมณ์อันสุนทรีย์ของบทกวีและความงดงามของภาพวาดท่ามกลางหิมะที่ปลิวไสวไปตามสายลม มีผู้คนจำนวนมิมากอยู่บนเกาะแห่งนี้ ซึ่งนับเป็นเกาะที่มีความสงบร่มเย็นที่สุดในราชวงศ์หยู
อย่าเอ่ยถึงเหล่านักประพันธ์เลย แม้แต่นักท่องเที่ยวก็หลงเหลืออยู่เพียงมิกี่คนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)