ตอนที่ 947 พบอำลาเคมบริดจ์อีกครา
รัชสมัยเทียนเต๋อปีที่สาม วันที่ยี่สิบ เดือนสาม
บัดนี้สงคราม ณ ที่ราบฮวาจ้งผ่านมา 20 วันแล้ว
ฟู่เสี่ยวกวนกลับมายังวังหลวงได้ 10 วันแล้วเช่นกัน
ตลอดระยะเวลา 10 วันนี้เขาได้มีพระราชโองการออกมาหลายฉบับและราชวงศ์อู๋ที่ทรงอำนาจมากยิ่งขึ้นก็ขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วภายใต้การปกครองของเขา
จัวเปี๋ยหลีเดินทางไปยังว่อเฟิงเต้าด้วยตนเองเพื่อเจรจาเรื่องการยอมจำนนของหยูเวิ่นเทียน
กวนเสี่ยวซีผู้บัญชาการทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งนำกำลังพล 60,000 นายเข้าประจำการ ณ เมืองไท่หลิน ด้านท่านราชเลขาจัวอี้สิงจากสำนักเสมียนกลางของราชวงศ์อู๋ได้นำพระราชโองการเดินทางไปยังเมืองไท่หลินเพื่อเข้ายึดอำนาจราชสำนักของแคว้นอี๋ จากนั้นก็รอการตัดสินขั้นสุดท้ายจากองค์จักรพรรดิเต๋อจง
กองนาวิกโยธินจำนวน 10,000 นายเข้าประจำการ ณ เมืองจินหลิง บัดนี้อำนาจในราชสำนักของราชวงศ์หยูทั้งหมดตกอยู่ในมือของเยี่ยนซือเต้าชั่วคราว แน่นอนว่าเขาก็ต้องรั้งรอคำสั่งของฝ่าบาทด้วยเช่นกัน
ไป๋ยู่เหลียนนำกองนาวิกโยธินอีก 40,000 นายและเรือรบ 6 ลำกลับไปยังราชวงศ์อู๋ หลังทำการเติมเสบียงที่เมืองเจียงเสร็จแล้วก็ได้แล่นไปบนแม่น้ำแยงซี
หลังจากที่กองทัพเรือ 100,000 นายขึ้นบก ณ เมืองลั่วฉาวของแคว้นฝานก็จะบุกโจมตีแคว้นฝานทันที
ในช่วงเวลานั้น ชาวอี๋และชาวหยูต่างก็ตั้งตารอคอย ทว่าแคว้นฝานกลับตกอยู่ในความตื่นตระหนก
“ฝ่าบาทของพวกเราเสียสติไปแล้วหรือ ? เหตุใดต้องไปหาเรื่องฟู่เสี่ยวกวนด้วย ? ”
“เดิมทีก็ดีอยู่แล้ว ผลลัพธ์ทางการค้าระหว่างแคว้นที่รัฐหยุนก็ได้เห็นเป็นประจักษ์แล้ว แบบนี้ก็จบเห่พอดีสิ มิสามารถทำการค้าระหว่างแคว้นได้อีก เกรงว่า… เกรงว่าจะเจริญรอยตามราชวงศ์หยูที่เหลือเพียงฝุ่น ! ”
“โชคดีที่ข้าฉลาด ตระกูลของข้าได้ขึ้นทะเบียนครัวเรือนที่ราชวงศ์อู๋เรียบร้อยแล้ว ถือได้ว่าเป็นคนของราชวงศ์อู๋อย่างแท้จริงแล้ว”
“สุนัขเยี่ยงเจ้าหนีเอาตัวรอดได้ไวมากยิ่งนัก แต่เกรงว่าบัดนี้พวกเราคงหนีมิพ้นแล้ว”
“ยังคิดจะหนีอยู่อีกหรือ ? เกรงว่าพวกเจ้ายังมิทราบว่ามารดาของฟู่เสี่ยวกวนตกตายในเงื้อมมือของหัวหน้านิกายฝูของพวกเรา เขา… ข้าหวังว่าเขาจะมีจิตใจเมตตา อย่าได้สังหารคนบริสุทธิ์ก็พอ”
“ท่านหัวหน้านิกายก็มรณะแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ฮ่า ๆ วัดป๋ายหม่ากับวัดลันทา พวกเจ้าลองไปดูเถิดว่าเจ้าอาวาสท่านนั้นยังอยู่หรือไม่ ? หัวหน้านิกายพาผู้มีฝีมือระดับปรมาจารย์ไปด้วย 4 รูป ทว่าทั้งหมดล้วนถูกฟู่เสี่ยวกวนสังหารจนสิ้น ! ”
“บัดซบ… คนผู้นี้ คนผู้นี้เก่งกาจเกินไปแล้ว ! ”
“พวกเจ้ายังมีเวลามาตะโกนอยู่อีกหรือ ? หากมีเงินก็รีบไปเถิด ข้ามผ่านสะพาน ณ รัฐหยุนเพื่อไปยังราชวงศ์อู๋ บัดนี้มีเพียงราชวงศ์อู๋เท่านั้นที่ปลอดภัย”
“…”
จวนหนิงชินอ๋อง ณ รัฐหยุน
“มิใช่ว่าข้าสั่งให้เจ้าไปยังราชวงศ์อู๋หรอกหรือ ? ” ฝานเทียนหนิงจ้องมองเซวี๋ยหยู่เยียนด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
เซวี๋ยหยู่เยียนลูบหน้าท้องพลางนึกน้อยใจอยู่เล็กน้อย “ท่าน… ท่านมิอยู่ ข้าจึงมิอยากไปที่ใดทั้งนั้น”
นางเงยหน้าขึ้นมองฝานเทียนหนิง ใบหน้าน้อยใจแปรเปลี่ยนเป็นดีอกดีใจแทน “ท่านพี่ ข้าตั้งครรภ์เจ้าค่ะ”
ฝานเทียนหนิงชะงักงัน จากนั้นก็ดีใจขึ้นมาทันพลัน เขากุมสองมือของเซวี๋ยหยู่เยียนเอาไว้ “จริงหรือ ? นานเท่าใดแล้ว ? ”
“จริงเจ้าค่ะ ! สี่เดือนกว่าแล้ว”
“ข้าจะเป็นพ่อคนแล้วหรือ ? ”
เซวี๋ยหยู่เยียนกัดริมฝีปากและพยักหน้าเต็มแรง “ใช่ ! ”
ทันใดนั้นฝานเทียนหนิงก็โยนเรื่องยุ่งยากไว้ด้านหลัง เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินวกไปเวียนมาอยู่ภายในห้องโถงใหญ่ด้วยความตื่นเต้น จนเซวี๋ยหยู่เยียนที่มองการเคลื่อนไหวของเขาอยู่เริ่มตาลาย
เขาหยุดฝีเท้าลงเพื่อทำการตัดสินใจ จากนั้นก็เอ่ยกับเซวี๋ยหยู่เยียนว่า “พวกเราต้องไปแล้ว”
เซวี๋ยหยู่เยียนเอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ไปที่ใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ราชวงศ์อู๋”
เซวี๋ยหยู่เยียนอ้าปากค้าง ชะงักงันไปชั่วครู่ “ราชวงศ์อู๋เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ใช่ ! ราชวงศ์อู๋ พวกเราจะไปเมืองกวนหยุนเพราะบัดนี้ในใต้หล้าเกิดจลาจล ฟู่เสี่ยวกวนต้องการยึดแคว้นฝานทั้งยังทำการรุกฆาตอีกสองแคว้นที่เหลืออยู่ สถานการณ์วุ่นวายมากยิ่งนัก จึงมีเพียงราชวงศ์อู๋เท่านั้นที่สงบสุข และเมืองกวนหยุนก็เป็นตัวเลือกที่มิเลวเลย”
“พวกเรามิได้ขาดแคลนเงิน ไปซื้อเรือนสักหลังที่เมืองกวนหยุนและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเถิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)