ตอนที่ 948 เรื่องราวเหล่านั้น
“นางอยากพบเจ้ามากยิ่งนัก ทว่าหลายปีมานี้นางมิกล้าไปพบหน้าเจ้า นางกลัวว่าเจ้าจะรังเกียจนาง”
“นางสับสนในตนเองมิน้อย ในปีนั้นหลังจากมีปากเสียงกับบิดาของเจ้า นางก็ตัดสินใจเดินออกมาด้วยความโกรธ หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังสำนักเต๋าและศึกษาวรยุทธกับท่านอาจารย์…ซึ่งก็คืออาจารย์ปู่ของเจ้าอยู่นานหลายปี นางได้ทำเรื่องน่าอัศจรรย์ขึ้นหลายต่อหลายอย่าง”
“เพียงแต่เรื่องราวเหล่านี้มีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่รับรู้ อาทิเช่น…ภูเขาทองคำลูกนั้นก็เป็นฝีมือของมารดาเจ้าเช่นกัน”
“นางเป็นบุคคลที่แปลกประหลาดมากยิ่งนัก นางรู้ว่าประวัติศาสตร์จะดำเนินไปเยี่ยงไร นางได้เขียนบันทึกหนานเคอไว้ถึง 3 หน้าและยังเอ่ยอีกว่านางรู้เรื่องราวในสามหน้านี้เป็นอย่างดี…”
เมื่อได้ยินคำเอ่ยของซูฉางเซิง ฟู่เสี่ยวกวนจึงได้รู้ว่าตนคือทุกสิ่งทุกอย่างของมารดา !
สวี่หยุนชิงจับตามองเขาอยู่ตลอดเวลา !
ตั้งแต่ในเมืองหลินเจียง เมืองจินหลิง ฉินหลิงและแคว้นฮวง…
นางคิดจะมาพบหน้าเขาอยู่หลายต่อหลายครา ทว่าสุดท้ายแล้วนางก็จะปัดความคิดนี้ทิ้งไป นางมักจะเอ่ยว่ารอครั้งหน้าก็แล้วกัน ทว่าในที่สุดนางก็อยู่มิถึงครั้งนั้นอยู่ดี
นางได้พบบุตรชายที่เมืองเปียนเฉิงเพียงคราเดียว อีกทั้งด้วยเวลากระชั้นชิดจึงยังมิทันได้เอ่ยอันใดมากนัก นางทำได้เพียงแค่มองหน้าเขาจากระยะใกล้แล้วสิ้นใจไปทั้งอย่างนั้น
นางนอนด้วยท่าทางสงบสุขในโลงศพ บนใบหน้าปรากฎความผิดหวังอยู่เล็กน้อย
“มารดาของเจ้าแปลกประหลาดมากเลยทีเดียว เมื่อคราที่อยู่ในเมืองจินหลิงนางมีชื่อเสียงด้านการศึกษาตำรา สุราที่หงซิ่วจาวก็เป็นนางที่คิดค้นขึ้นมา กระทั่งเจ้าได้คิดค้นวิธีการกลั่นสุราซีซานเทียนฉุนขึ้นมา จึงสามารถเอาชนะสุราของนางได้”
“ในครานั้นผู้ที่ชื่นชอบมารดาของเจ้ามีมากมายเสียเหลือเกิน มิว่าจะเป็นอู๋ฉางเฟิง อู๋ต้าหลาง หยูไป๋ไป๋ ต่งคังผิง เยี่ยนซือเต้า…แล้วก็ฝานจื่อกุย”
“ท้ายที่สุดมารดาของเจ้าก็ตัดสินใจเลือกอู๋ฉางเฟิง ทว่าคาดมิถึงว่ายังมิทันได้จัดงานอภิเษกก็เกิดเรื่องมิคาดฝันขึ้นมาเสียก่อน อู๋ต้าหลางเล่าว่าในตอนนั้นไทเฮาซีทรงมิเห็นด้วย อาจจะเป็นเพราะไทเฮาซีรู้ว่าตัวตนของนางคือผู้ใด”
“อ้อ ! จริงสิ…นางเคยเป็นเช่อเหมินแห่งลัทธิจันทราจริง ส่วนข้ามิใช่ รายชื่อที่เจ้าได้รับนั้นมารดาของเจ้าได้แก้ไขมันเอง นางค่อนข้างซุกซน จึงนำชื่อของข้าไปเขียนไว้บนตำแหน่งสูงสุด”
“จุดประสงค์ที่นางขึ้นเป็นเช่อเหมินแห่งลัทธิจันทราก็เพื่อภูเขาทองคำนั่นเอง ต่อมานางใช้ข้ออ้างเรื่องที่จักรพรรดินีเซียววางยาพิษนางจนเสียชีวิตกลับมายังสำนักเต๋าอีกครา ผู้อื่นอาจจะคิดว่านางตกตายไปแล้วจริง ๆ ทว่าแท้จริงแล้วนางอยู่ที่แม่น้ำแยงซีและทำการขนย้ายภูเขาทองคำลูกนั้นอยู่”
“ผู้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้มีข้า, อู๋ต้าหลาง, หูฉินและอู๋ฉางเฟิง เอ่ยได้ว่าบนผืนปฐพีนี้ มีเพียงพวกเรา 5 คนที่รู้ว่าสมบัติมากมายใต้วัดฟูจื่อถูกขนย้ายไปที่ใด นางเอ่ยว่า…สิ่งนี้มีเพียงเจ้าคนเดียวที่จะมาเป็นผู้สืบทอด แน่นอนว่าอู๋ฉางเฟิงไร้ข้อขัดแย้งใด ๆ อู๋ต้าหลางก็มิได้ขัดแย้งอันใดเช่นกัน ข้ากับหูฉินแน่นอนว่ามิมีความคิดเห็นใด”
“ดังนั้นภูเขาทองคำที่นางได้เตรียมเอาไว้ จึงกลายมาเป็นของเจ้าในตอนนี้”
“หลายปีมานี้ เหตุผลที่นางลังเลในการมาพบเจ้าก็เนื่องจากนางรู้สึกว่าเจ้ามิใช่บุตรชายคนเดิมของนางอีกต่อไป ประโยคนี้นางเคยเอ่ยเอาไว้จริง ๆ ทว่าพวกเรามิมีผู้ใดเข้าใจ”
ฟู่เสี่ยวกวนชะงักงันทันใด เขานึกถึงเรื่องราวเมื่อคราที่ยังอยู่ในเมืองจินหลิง ตอนที่ท่านตาสิ้นลม ท่านได้ทิ้งบักฮื้อเอาไว้ให้เขาหนึ่งชิ้น
เมื่อเขาโยนบักฮื้อลงพื้นก็พบว่าด้านในมีจดหมายที่สวี่หยุนชิงทิ้งไว้ให้ !
เนื้อหาในจดหมายขึ้นต้นด้วยกวีซีเจียงเยว่และด้านล่างเขียนเอาไว้ว่า
‘ยามที่แม่เขียนจดหมายนี้ แม่บังเกิดความลังเลอยู่เนิ่นนานเลยทีเดียว เนื่องจากแม่มิอาจรักเจ้าได้ เพราะเจ้าจะตายจากไปแล้วกลับมามีชีวิตขึ้นมาใหม่โดยหาใช่ลูกชายคนเดิมของแม่
แม่มิกล้ารักเจ้าเลย !
หากเจ้ามิมา ลูกข้าจะจากไปเยี่ยงนั้นหรือ ?
หากเจ้ามิมา ลูกข้าจะจากไปได้เยี่ยงไร ! ’
นี่คือเหตุผลที่นางลังเลใจในการมาพบหน้าฟู่เสียวกวน !
สวี่หยุนชิงรู้ดีว่าเขาได้แย่งร่างกายของบุตรชายนางไป นางจึงมิรู้ว่าฟู่เสี่ยวกวนยังนับเป็นบุตรชายของตนเองอยู่อีกหรือไม่
หลายปีที่ผ่านมา นางยังคงเฝ้ามองอย่างเงียบ ๆ หากฟู่เสี่ยวกวนทำเรื่องร้ายแรงใดขึ้นมา แน่นอนว่าสวี่หยุนชิงคงสังหารเขาด้วยน้ำมือของตนเองโดยมิลังเลแม้แต่น้อย
ทว่าหลายปีมานี้สวี่หยุนชิงตระหนักได้ว่าฟู่เสี่ยวกวนจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีเลยทีเดียว ดีกว่าผู้ใดในใต้หล้า
เนื่องจากเหตุผลนี้ นางจึงค่อย ๆ ยอมรับฟู่เสี่ยวกวน รู้สึกว่ามีบุตรชายเยี่ยงนี้ก็ดีเหมือนกัน นางภาคภูมิใจมากยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)