นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 949

ตอนที่ 949 สุสานจักรพรรดิ

ณ สุสานจักรพรรดิ เขาจื่อจินแห่งเมืองจินหลิง

พิธีพระศพที่กำลังดำเนินการอยู่นี้มีเสียนชินอ๋องแห่งราชวงศ์ก่อนเป็นเจ้าภาพ

ผู้ที่มาร่วมพิธีพระศพนี้มีน้อยยิ่งนัก หนึ่งในนั้นมีอัครมหาเสนาบดีเยี่ยนเป่ยซีของราชวงศ์ก่อนและอัครมหาเสนาบดีเยี่ยนซือเต้าแห่งราชวงศ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีองค์หญิงใหญ่ราชวงศ์ก่อนเยี่ยงหยูซูหรง ทั้งยังมีต่งคังผิงและเผิงยวี๋เยี่ยน

ผู้ที่ถูกฝังในพิธีพระศพนี้มีด้วยกัน 3 พระองค์ ได้แก่พระเจ้าหลวงหยูไป๋ไป๋ ฮ่องเต้หยวนหยูเวิ่นเต้าและพระพันปีซั่งรั่วซุ่ย

ส่วนหยูชุนชิวนั้น เผิงยวี๋เยี่ยนได้นำร่างของเขาไปฝังไว้บนที่ราบชังซีเพราะที่นั่นต่างหากคือสถานที่ของหยูชุนชิวอย่างแท้จริง

ฟู่เสี่ยวกวนได้ฝังกลบคนของราชวงศ์ก่อนถึง 3 พระองค์ และเป็นการประกาศว่าราชวงศ์หยูสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้

เยี่ยนเป่ยซีมิรู้สึกดีใจหรือเศร้าใจ แม้แต่ตนเองก็มิเข้าใจว่านี่คือความรู้สึกอันใดกันแน่

องค์พระเจ้าหลวงครองบัลลังก์เพียง 12 ปีเท่านั้น และตนก็เป็นอัครมหาเสนาบดีภายใต้การปกครองของเขามานานถึง 12 ปีเช่นกัน

จักให้ประเมินคนเยี่ยงองค์พระเจ้าหลวงว่าเยี่ยงไร ?

พระองค์ทรงมุมานะในงานราชการ

พระองค์สามารถรับฟังความคิดเห็นของเหล่าเสนาบดีได้เช่นกัน

พระองค์ทราบถึงการทุจริตในราชวงศ์หยูเป็นอย่างดีและพระองค์เองก็พยายามอย่างหนักเพื่อให้ราชวงศ์หยูเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น

สิ่งที่พระองค์ดำริมาตลอดทั้งชีวิตคือการสร้างรัชสมัยเซวียนลี่ที่เจริญรุ่งเรือง เดิมทียุคสมัยที่รุ่งเรืองนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทว่าพระองค์กลับระแวงมากจนเกินไป !

เนื่องจากฟู่เสี่ยวกวนแสดงความสามารถออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ และเวลาที่ฟู่เสี่ยวกวนจะกลับไปยังราชวงศ์อู๋ก็ใกล้เข้ามาแล้วเช่นกัน สุดท้ายพระองค์จึงรู้สึกมิปลอดภัยจึงลงมือกระทำเรื่องโง่เขลาเยี่ยงการลอบสังหารฟู่เสี่ยวกวน จนทำให้อีกฝ่ายมิส่งมอบแคว้นฮวงให้แก่ราชวงศ์หยู !

หากปีนั้นองค์พระเจ้าหลวงมิได้กระทำเยี่ยงนั้นกับฟู่เสี่ยวกวน ตามความเข้าใจที่เยี่ยนเป่ยซีมีต่อฟู่เสี่ยวกวน ทั้งสองราชวงศ์จะจับมือกันเดินไปสู่ความรุ่งเรือง เพราะฟู่เสี่ยวกวนมีความรักลึกซึ้งต่อราชวงศ์หยูอย่างแท้จริง

เขาและหยูเวิ่นเต้ายังคงเป็นมิตรสหายที่ดีที่สุดต่อกัน เขาย่อมแบ่งปันหนทางการปกครองให้แก่หยูเวิ่นเต้าเพื่อให้สถานการณ์ของราชวงศ์หยูดีขึ้นในเร็ววัน

ท้ายที่สุดก็ไปมิถึงฝั่งฝัน

จนสิ้นพระชนม์ก็ยังมิได้เห็นความรุ่งเรืองของรัชสมัยเซวียนลี่ดั่งที่เขาวาดหวังเอาไว้เลยด้วยซ้ำ ทว่าได้เห็นหายนะของราชวงศ์หยูแทน

หากมนุษย์สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกหนึ่งครา เยี่ยนเป่ยซีก็มิทราบว่าองค์พระเจ้าหลวงจะเลือกหนทางเยี่ยงไร… หากเร่งสังหารฟู่เสี่ยวกวนเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ แท้ที่จริงก็มิใช่หนทางที่เลวร้ายสักเท่าใดนัก

ส่วนหยูเวิ่นเต้านั้นเรียกได้ว่า ถือกำเนิดมาในช่วงเวลาที่มิเหมาะสม

เขาอยากต่อสู้กับสัตว์ร้ายจึงสร้างสนามต่อสู้ขนาดใหญ่ขึ้นมา แต่เขามิได้ทราบเลยว่า สนามที่ตนสร้างยังมีอีกสนามที่ใหญ่กว่าล้อมรอบอยู่

เยี่ยนเป่ยซีคิดว่ากระดานหมากนี้เป็นฝีมือของฟู่เสี่ยวกวน ฟู่เสี่ยวกวนคิดว่าหมากกระดานนี้เป็นฝีมือของจี้หยุนกุยและมีเพียงจี้หยุนกุยกับโจวถงถงเท่านั้นที่ทราบว่าหมากกระดานนี้เป็นฝีมือของจักรพรรดิเหวิน…อู๋ฉางเฟิง !

ณ สุสานจักรพรรดิ วัดหานหลิงแห่งราชวงศ์อู๋

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทางเหนือของวัดหานหลิง เป็นสถานที่ที่ห่างไกลและเงียบสงบ ทั้งยังมีทิวทัศน์งดงาม

วันนี้ได้เคลื่อนพระศพของพระพันปีเข้าสู่สุสานจักรพรรดิ ขุนนางและเสนาบดีของราชวงศ์อู๋รวมไปถึงราษฎรในเมืองกวนหยุนมาร่วมส่งเสด็จจนขบวนยาวหลายร้อยลี้ !

ขบวนส่งพระศพยาวราวกับหางมังกร หากอยู่หัวแถวจะมิสามารถมองย้อนไปถึงท้ายแถวได้ และคนที่อยู่ท้ายแถวก็มองมิเห็นหัวแถวเช่นกัน

ราษฎรเหล่านี้รวมตัวกันขึ้นมาด้วยความเคารพที่มีต่อองค์จักรพรรดิของพวกตน พวกเขาทราบแล้วว่าองค์จักรพรรดิได้ยึดครองแคว้นขนาดใหญ่มาอีก 1 แห่ง !

พวกเขายังทราบอีกว่าพระพันปีที่มิเคยได้ยินพระนามนี้ เพื่อปกป้ององค์จักรพรรดิของพวกเขาแล้ว นางได้ตกตายในเงื้อมมือของนักบวชจากแคว้นฝาน

เพราะเรื่องนี้ วัดหานหลิงจึงถูกตรวจสอบไปด้วย

ชาวอู๋ที่โกรธแค้นต่างพรั่งพรูกันไปที่วัดหานหลิง หากมิใช่เพราะคำสั่งของฟู่เสี่ยวกวนก็เกรงว่าวัดหานหลิงคงจะล่มสลายไปเสียแล้ว

ผู้นำพิธีในครานี้คือพระอาจารย์ฮุ่ยเจวี๋ยของวัดหานหลิง พระอาจารย์ฮุ่ยเจวี๋ยเคยรู้สึกมิเป็นธรรม เนื่องจากพุทธศาสนาของวัดหานหลิงในปัจจุบันมิได้เกี่ยวข้องอันใดกับแคว้นฝานเลยสักนิด ทว่าบัดนี้กลับรู้สึกว่าคุ้มค่ามากยิ่งนักเพราะท่านได้เห็นการรวมตัวอันแข็งแกร่งของราษฎรในราชวงศ์อู๋ !

ราชอาณาจักรเยี่ยงนี้ย่อมเจริญรุ่งเรือง

ฟู่เสี่ยวกวนพาภรรยาทั้งสิบและบุตรทั้งเก้าคนเดินอยู่หน้าโลงศพ

ผู้ที่นำหน้าพวกเขาคือพระอาจารย์ฮุ่ยเจวี๋ยที่มาพร้อมเหล่าพระสงฆ์

ตามจริงแล้วสวี่หยุนชิงถือเป็นคนของสำนักเต๋า ทว่าท่านอาจารย์หนีไปแล้ว ฟู่เสี่ยวกวนเองก็มิรู้จะไปหานักบวชเต๋ามาจากที่ใด

สวี่หยุนชิงมิใช่บุคคลธรรมดาทั่วไป คาดว่านางคงมิคิดเล็กคิดน้อยต่อเรื่องเหล่านี้หรอก

คาดว่าชาติที่แล้วของมารดาคงมีชีวิตอยู่ได้มินานเท่าใดนัก มิเช่นนั้นบันทึกหนานเคอของนางจะมีแค่ 3 แผ่นได้เยี่ยงไร ?

เช่นนั้นนางจะมิทราบได้เยี่ยงไรว่าตนเองต้องตายที่เมืองเปียนเฉิง ?

ชีวิตเมื่อชาติที่แล้วของมารดาผ่านเรื่องราวชีวิตมามากน้อยเพียงใดกัน ?

นางทราบว่าตนข้ามภพมาและนางยังรู้จักบทกวีเหล่านั้นอีกด้วย เกรงว่านางจะเสียชีวิตตอนที่เขาเพิ่งได้เปิดเผยความสามารถออกมามิกี่อย่าง

นางได้เติมเต็มความรู้เมื่ออยู่ในชาตินี้ นางได้เห็นบุตรชายบุกเบิกกิจการอันใหญ่โตในปัจจุบัน ดังนั้นนางควรจะมีความสุข

เรื่องราวที่ท่านอาจารย์เคยเอ่ยมานั้น แท้จริงแล้วมีพิรุธจำนวนมากซ่อนอยู่ภายใน อย่างเช่น อู๋ฉางเฟิงที่ขึ้นครองบัลลังก์ในเวลานั้น เดิมทีไร้ความจำเป็นที่ต้องก่อให้เกิดหิมะถล่มคราใหญ่เพียงเพื่อจะหายตัวไป

อู๋ฉางเฟิงมีสิทธิ์ในการคุมขังไทเฮาซี สามารถขับไล่นางให้ออกห่างจากศูนย์กลางอำนาจและให้ไปบำเพ็ญตนตลอดช่วงอายุขัยก็ยังได้

อู๋ฉางเฟิงในยามนั้นสามารถมอบอำนาจบริหารให้ฟู่เสี่ยวกวนได้อย่างราบรื่น เขาสามารถช่วยฟู่เสี่ยวกวนบริหารบ้านเมืองได้โดยที่เขาก็สามารถออกไปตามหาสวี่หยุนชิงทั้งวันทั้งคืนได้เช่นกัน

อู๋ฉางเฟิงมิได้ทำเยี่ยงนั้น ทว่าเขาเลือกเส้นทางที่สุดโต่ง !

ช่างมิมีเหตุผลเอาเสียเลย ดังนั้นมันต้องมีสาเหตุเป็นแน่ เพียงแค่ท่านอาจารย์เป็นคนนอกจึงมิทราบถึงเรื่องนี้

ส่วนสวี่หยุนชิง เขาก็มิทราบเช่นกันว่านางมีความขัดแย้งอันใดกับจักรพรรดิเหวินจนถึงขั้นประนีประนอมกันมิได้

ตามหลักการแล้วในเมื่อนางแกล้งตายเพื่อเป็นอิสระ เมื่อไทเฮาซีตกตายแล้ว นางก็สามารถปรากฏตัวขึ้นมาอีกคราได้ เพื่อมายืนหยัดอยู่ข้างกายจักรพรรดิเหวิน

ทว่านางกลับมิทำ ถึงขั้นมิออกมาเจอหน้าจักรพรรดิเหวินอีกเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)